ลืมไปแล้วว่าคราวก่อนเล่าถึงตรงไหน
ความจริงการไปเที่ยวคนเดียวนี่ก็ดีอย่างยิ่ง
เพราะอยากไปไหนก็ไป
หลงทางที่ไหนก็ได้
5555
แท้แล้วข้าพเจ้าไม่มีแผนที่เชียงใหม่อยู่ในหัว
รู้เพียงแต่ว่า
ถ้าเลี้ยวตรงนี้ เดินไปตรงโน้น แล้วจะเจอสิ่งนั้น
อะไรทำนองนี้
เช่นเดียวกับการเดินไปถนนท่าแพ
จากวัดเจดีย์หลวง
ข้าพเจ้ารู้แต่ว่า
ออกจากวัดมา ต้องเดินยังไง
ถึงจะไปยังจุดหมายปลายทางได้
ซึ่งอันนี้เป็นสัญชาตญาณเฉพาะบุคคล
ล้วน ๆ
แน่นอนว่า ข้าพเจ้าไม่กลัวที่จะหลงทาง
เพราะข้าพเจ้ามีเวลาเหลือเฟือ
และข้าพเจ้าก็มั่นใจว่า
ไม่มีทางที่จะหลงทางในเชียงใหม่แน่นอน
5555
กลับมาที่สนามบินพร้อมข้าวของที่ซื้อฝากใครสักคน
เดินดูร้านรวงในสนามบินสักพักหนึ่ง
ที่ต้องเดินดูก่อนก็เพราะว่า
จะไปนั่งที่สตาร์บัคส์ เจ้าเก่า
และกะจะชาร์ตแบตแท็บเล็ตด้วย
จึงคิดว่า ไม่มีเวลาที่ออกมาเดินอีกแล้ว
ก็ดูเสียให้พอ
ซึ่งจะว่าไปมันก็ไม่มีอะไรให้ดูนักหรอก
แต่ข้าพเจ้าก็ชอบดู
ของเดิม ๆ ที่มีขายเกลื่อนไปทั่วบ้านทั่วเมือง
ที่แสดงถึงความเป็นไทย
ที่แสดงถึงความเป็นเชียงใหม่
หรือที่แสดงถึงความเป็นอะไรก็แล้วแต่
ที่ข้าพเจ้าคิดว่า
คงมีแต่ฝรั่งมังค่าเท่านั้นที่จะซื้อของแบบนี้
หรือไม่ก็คนไทยที่บ้าบออย่างข้าพเจ้า
55555
คนที่สนามบินเยอะเหมือนกัน
คนจีนเยอะสุด
นึกอยากจะเรียนภาษาจีนขึ้นมาตงิด ๆ
เผื่อจะแอบเนียนเป็นคนจีนกะเขามั่ง
55555
พิมพ์ไปพิมพ์มาก็ขี้เกียจอีกละ T_T
( ช่วงนี้ขี้เกียจบ่อยจุง )
ตอนต่อไปละกันเนอะ
วันนี้เอวังไว้ก่อน
5555
27 01 2558