หะแรกก็ว่าจะอ่านให้จบ
ตอนที่กลับบ้าน
เมื่อ ๔ พฤศจิกายนที่ผ่านมา
คือ เป็นความตั้งใจ
คือ ตอนแรกก็ว่าจะเอาหนังสือไปแค่เล่มนี้เล่มเดียว
แต่เอาเข้าจริงก็ขนไปเยอะแยะ
จนในที่สุด ก็หมกมุ่นอยู่กับเล่มอื่น ๆ
แต่ก็ได้อ่านเล่มนี้จบไป ๑ ภาค
คือ ภาคแรก
แต่เอามาฝอยก่อน
เพราะมีเรื่องมากมายเหลือเกินที่จะฝอย
หากพอนั่งหน้าคอมฯ แล้ว มันก็มีการอันตรธานไปเสียสิ้น
ไม่รู้เป็นอะไร
แต่พอนั่งสมาธิหรือนอนลงเท่านั้นแหละ
มาเต็ม
ไม่รู้มาจากไหน เรื่องราวต่าง ๆ
ว่าด้วย ฯคารามาซอฟ นี้ก็สนุกดี
แต่สไตล์ก็ออกแนวโบราณ คือเยิ่นเย้อไปหน่อย
ความจริงก็ไม่ใช่เยิ่นเย้อหรอก
แต่เหมือนสรรพสิ่งจากตัวนักเขียนเองนั้น
มันอัดแน่นเต็มไปหมด
เรียกได้ว่า แทบทุกบรรทัด เต็มไปด้วยสาระทั้งสิ้น
ดอสโตเยสกี เป็นนักเสียดสีตัวยงเลยทีเดียว
อันนี้จากแค่อ่านภาคแรก
ก็เดาทางได้ว่า
ต่อไปจะเป็นยังไง
แต่ก็นั่นแหละ
เราจะเพิกเฉยกับการเดาไว้ก่อน
รออ่านจบทีเดียว
ตอนที่กลับบ้าน
เมื่อ ๔ พฤศจิกายนที่ผ่านมา
คือ เป็นความตั้งใจ
คือ ตอนแรกก็ว่าจะเอาหนังสือไปแค่เล่มนี้เล่มเดียว
แต่เอาเข้าจริงก็ขนไปเยอะแยะ
จนในที่สุด ก็หมกมุ่นอยู่กับเล่มอื่น ๆ
แต่ก็ได้อ่านเล่มนี้จบไป ๑ ภาค
คือ ภาคแรก
แต่เอามาฝอยก่อน
เพราะมีเรื่องมากมายเหลือเกินที่จะฝอย
หากพอนั่งหน้าคอมฯ แล้ว มันก็มีการอันตรธานไปเสียสิ้น
ไม่รู้เป็นอะไร
แต่พอนั่งสมาธิหรือนอนลงเท่านั้นแหละ
มาเต็ม
ไม่รู้มาจากไหน เรื่องราวต่าง ๆ
ว่าด้วย ฯคารามาซอฟ นี้ก็สนุกดี
แต่สไตล์ก็ออกแนวโบราณ คือเยิ่นเย้อไปหน่อย
ความจริงก็ไม่ใช่เยิ่นเย้อหรอก
แต่เหมือนสรรพสิ่งจากตัวนักเขียนเองนั้น
มันอัดแน่นเต็มไปหมด
เรียกได้ว่า แทบทุกบรรทัด เต็มไปด้วยสาระทั้งสิ้น
ดอสโตเยสกี เป็นนักเสียดสีตัวยงเลยทีเดียว
อันนี้จากแค่อ่านภาคแรก
ก็เดาทางได้ว่า
ต่อไปจะเป็นยังไง
แต่ก็นั่นแหละ
เราจะเพิกเฉยกับการเดาไว้ก่อน
รออ่านจบทีเดียว
ความตั้งใจเดิมแท้นั้นว่า กลับมาถึงกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรแล้ว
จะรีบอ่านให้จบ
แต่ก็เหมือนมีเหตุ
คือ ดันลืมกระเป๋าหนังสือทั้งหมดทั้งมวลเอาไว้ที่บ้าน
T_T
ตอนขับรถออกมาก็นึก ๆ ในใจเหมือนกัน
เอ....
เราลืมอะไรไปหรือเปล่า
แต่ก็นึกไม่ออก
สรุป แม่โทรมาตอนอยู่แถว ๆ จะถึงสระบุรี
บอก ลืมหนังสือ
ก็เลยเป็นอันว่า
ต้องหยุดเอาไว้แค่นี้ก่อน
แถมท้ายอีกนิด
คือเรื่องนี้ ตะแก ( ฟีโอโดร์ ) น่าจะได้รับอิทธิพลมาจาก
อาหรับราตรี พอสมควร
หมายถึงรูปแบบการเขียน
คือเขียน ๆ ไป แล้วก็แตกประเด็นไหลออกไปเรื่อย ๆ
แต่น้อยกว่าอาหรับราตรีหน่อย คือ กลับมาประเด็นเดิมได้เร็ว
ส่วนอาหรับราตรีนี่คือ มีงง ว่าเรื่องนี้มันซ้อนอยู่เรื่องไหน
และเรื่องต้นเรื่องจริง ๆ คือเรื่องไหนถึงลามมาเรื่องนี้ได้
อะไรอย่างนี้
แต่ ฯคารามาซอฟ ค่อนข้างจะกระชับรัดกว่า
ตอนแรกก็แค่นึกสงสัยเท่านั้น ว่า เออ มันคล้าย ๆ อาหรับราตรี
แน่ใจจริง ๆ ก็ตอนตะแกเอ่ยไว้ในเรื่องนั่นแหละ
คือมีคำพูดพาดพิงถึงอาหรับราตรี เลยคิดว่า
น่าจะได้อิทธิพลมาจากอาหรับราตรี
( ไม่รู้ตะแกเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร
หรือมีบทสัมภาษณ์อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า )
พอไว้แค่นี้ก่อน
อ่านจบแล้วจะฝอยอีกที
Arty Khamvongsa
14 11 2014