ในวันที่ ‘เทสโก้’ เจอมรสุม!! วิกฤติหนักสุด ในรอบ 95 ปี
โดย ข่าวต่างประเทศ 31 ต.ค. 2557 05:30
‘บรรดาผู้บริหารบริษัทเทสโก้ อาจต้องเผชิญหน้ากับการถูกจำคุก!’
สื่อในอังกฤษเล่นข่าวนี้อย่างครึกโครมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังทราบว่า ทาง สำนักงานตรวจสอบการฉ้อโกงร้ายแรง ในอังกฤษ (Serious Fraud Office) หรือ SFO จะเริ่มเข้ามาดำเนินการ สืบหาสาเหตุที่พบว่า มีการตกแต่งบัญชีของ บริษัท เทสโก้ ห้างค้าปลีกชื่อดังยักษ์ใหญ่ จนมีกำไรเกินจริงเมื่อปีที่แล้วถึง 263 ล้านปอนด์ หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท...
เฉพาะ ลำพังสำนักงาน SFO เข้ามาดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ ก็เป็นข่าวใหญ่มากพออยู่แล้ว แต่เรื่องที่สร้างความฮือฮามากย่ิงขึ้นไปอีก ก็คือ ขณะนี้ ได้มีการสั่งพักงานผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทสโก้ไปแล้ว ถึง 8 คน !!
และในจำนวนผู้บริหาร ทั้ง 8 คน หาก SFO มีการสืบสวนสวนแล้ว พบหลักฐานมีพฤติกรรมฉ้อโกงบริษัท ย่อมนำไปสู่การถูกดำเนินคดี และมีสิทธิติดคุกนานถึง 10 ปี เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา...
และในจำนวนผู้บริหาร ทั้ง 8 คน หาก SFO มีการสืบสวนสวนแล้ว พบหลักฐานมีพฤติกรรมฉ้อโกงบริษัท ย่อมนำไปสู่การถูกดำเนินคดี และมีสิทธิติดคุกนานถึง 10 ปี เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา...
เรียกว่า การที่ SFO กระโดดเข้ามาทำคดีเทสโก้ เพราะสืบพบว่ามีการตกแต่งบัญชีของบริษัทผลประกอบการเกินจริง หลังจากเทสโก้ ต้องเผชิญวิกฤติหนัก กำไรลดฮวบฮาบอย่างน่าใจหายถึง 99% หรือหายไปเหยียบ 4 หมื่นล้านบาทนั้น มันไม่ใช่เรื่องปกติ! ขณะที่ทางบริษัทเทสโก้เอง ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับ SFO ในการสืบสวนสอบสวนหาความจริงอย่างเต็มที่
จะว่าไป นับตั้งแต่ วอเร็น บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันวัย 84 ปี ออกมาประกาศตัดสินใจเทขายหุ้นเทสโก้ ทิ้งกว่า 245 ล้านหุ้น เมื่อกลางเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา หลังพูดว่า การที่เขาตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้นเทสโก้มาตั้งแต่ปี 2549 ถือเป็น ‘ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง’ ก็ทำให้ ชาวโลกช็อกกันไปรอบหนึ่งแล้ว ด้วยความไม่คาดคิดว่า ผลประกอบการของบริษัทจะย่ำแย่ลงถึงขนาดนี้
มิหนำซ้ำ ยังมาช็อกรอบสอง เมื่อได้ยิน บริษัทเทสโก้ ซึ่งครองแชมป์ ห้างค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แจ้งกำไรผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ ดิ่งเหว ลงไปถึง 99% เหลือแค่เพียง 9.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 300 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เมื่อปี 2556 ที่ได้กำไรเป็นเงิน 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.2 หมื่นล้านบาท)
เรียกว่า ภายในครึ่งปี กำไรของบริษัทเทสโก้ หายไปเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ว่า ก่อนหน้านี้ จะมีสัญญาณราคาหุ้นของเทสโก้ร่วงหนักอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 50% ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จากผลยอดขายที่ตกต่ำลง เนื่องจากถูกคู่แข่ง ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าอย่างห้างอัลดี และห้างลิดเดิล เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป รวมทั้ง ยังมีข่าวออกมาว่า มีการรายงานตัวเลขผลประกอบการที่ผิดพลาด ‘ส่อเจตนาทุจริต’ จนสร้างความไม่มั่นใจให้แก่นักลงทุน
เรื่องนี้ ทำให้ เซอร์ริชาร์ด บรอดเบนต์ ประธานบริษัทเทสโก้ ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อ วันที่ 24 ต.ค. ท่ามกลางปัญหาอื้อฉาวตกแต่งบัญชีบริษัท และรายได้ที่ลดลงอย่างดิ่งเหว จนนับเป็นวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเทสโก้ ที่ได้เปิดดำเนินกิจการมานานถึง 95 ปี
เดลี่ เมล์ ออนไลน์ รายงานว่า ก่อนหน้าที่ SFO จะตัดสินใจเริ่มดำเนินการสืบสวนอย่างเป็นทางการนั้น ได้มีการร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของเทสโก้ ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเทสโก้ มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งมีการตรวจสอบข้อมูลทางอีเมล์ และในไฟล์ข้อมูลที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์
ภายหลังจากการประเมินข้อมูลต่างๆ ที่เป็นความลับแล้ว นาย เดวิด กรีน ผู้อำนวยการ SFO จึงตัดสินใจเริ่มต้นการสืบสวนคดีห้างเทสโก้อย่างเป็นทางการ! โดยมุ่งเน้นไปที่การสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้มีการตกแต่งตัวเลขในบัญชีผลประกอบการในช่วงครึ่งปี ของเทสโก้เมื่อปีที่แล้ว สูงกว่าความเป็นจริง
‘ผู้อำนวยการ SFO เริ่มต้นการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และใครก็ตามที่พบว่ากระทำความผิดจะเผชิญหน้ากับการรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ’ แถลงการณ์จากสำนักงาน SFO
ขณะเดียวกัน สื่อในอังกฤษก็ได้มีการนำรูปถ่ายบ้าน หรือน่าจะเรียกว่า คฤหาสน์หลังงามของผู้บริหารระดับสูงของเทสโก้หลายคนมาให้ได้ดูว่า พวกเขาพำนักอยู่ในบ้านที่โหญ่โตรโหฐานขนาดไหน...
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเห็นของ ‘ไซมอน กอมเพิร์ซ’ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของบีบีซี ชี้ว่า ถึงแม้ SFO ได้ยื่นมือเข้ามาดำเนินการสอบสวนปัญหาในเทสโก้อย่างเป็นทางการ แต่ความจริงที่เทสโก้ ต้องเผชิญก็คือ การสืบสวนของ SFO ถือเป็นมรสุมลูกใหญ่อีกลูกที่โหมกระหน่ำห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ที่กำลัง‘ซวนเซ ’แห่งนี้เช่นกัน!!
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/460318
เห็นข่าวนี้ ตั้งแต่วันที่มันออกข่าว ความจริงก็เคยสาปส่งไปทีหนึ่ง
( น่าจะปีที่แล้ว )
เมื่อครั้งออกเคมเปญแสตมป์แลกแก้ว
ไม่นึกว่าที่เคยออกปากพูดไปนั้นจะเป็นความจริง
นอกจากปัญหาแคมเปญแสตมป์แล้ว
ก็ยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ไม่ทอนเงินเศษสตางค์
โดยพนักงานอ้างว่า ไม่มีเหรียญ
หะแรกข้าพเจ้าก็คิดว่า คงเป็นบางสาขาเท่านั้น
แต่พอได้ยินเพื่อนพูดก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย! นี่มันไม่ใช่ละ
อาจจะเป็นนโยบายหรือเปล่า ตอดเล็กตอดน้อยคนละ ๒๕ สตางค์
ถ้าวันหนึ่ง ๆ มีคนซื้อสักล้านคน ก็ได้แล้วนะ ๒๕๐,๐๐๐ บาท
ไม่นับปัญหาอื่น ๆ อีกสารพัด
ซึ่งก็ไม่ใช่หน้าที่ข้าพเจ้าที่จะต้องสาธยาย
ข้าพเจ้าคงไม่บังอาจพูดไปว่า
เพราะการสาปส่งในครั้งนั้นทำให้พวกเขาล่มจมในครั้งนี้
เพราะคนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ จะมีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนั้นได้อย่างไรกัน
5555
แต่ก็นั่นแหละ
บริษัทยักษ์ใหญ่ มันยังมีปัญหาได้ มีเกิด มีเสื่อมถอย ( และคิดว่าจะต้องมีดับ )
แล้วนับประสาอะไรกับอะไร ๆ อื่นใดในโลก
ซึ่งก็ย่อมต้องเป็นไปตามธรรมชาติธรรมดาของมันนั่นเอง
ซึ่งก็ย่อมต้องเป็นไปตามธรรมชาติธรรมดาของมันนั่นเอง
เอวัง
หุหุ
หุหุ
13 พฤศจิกายน 2557