ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

การละบาป บำเพ็ญบุญ

การละบาป

บำเพ็ญบุญ

และทำจิตใจให้บริสุทธิ์

เป็นแนวทางหลักของพระพุทธศาสนา

วันนี้ว่าด้วยการละบาป  เบื้องต้น

การละบาป

เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก

ที่คนเราควรจะต้องทำ

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการละบาปนั้น

ก็คือ

ต้องรู้ว่าอะไรคือบาป

หากเราไม่รู้ว่าอะไรคือบาป

อะไรคือไม่บาป

เราก็ไม่รู้ว่า  จะต้องละอะไร


การละบาป  จึงต้องรู้จักบาปเสียก่อน

นั่นหมายความว่า

เราต้องค้นลึกเข้าไปในจิตใจของเรา

ให้ถ้วนทั่ว

ว่า  เราคิดอะไร  เรารู้สึกอะไร

อย่างจริงใจ  และเที่ยงตรง

อย่างซื่อสัตย์กับตัวเอง

เช่น  เมื่อเราโกรธ  เรารู้ว่าโกรธ

เมื่อเราโลภ  เรารู้ว่าโลภ

เมื่อเราหลง  เรารู้ว่าหลง

หากเราไม่รู้ว่าอะไรคือความโกรธ

เราก็ย่อมละความโกรธไม่ได้

หากเราไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ

เราก็ย่อมละความโลภไม่ได้

หากเราไม่รู้ว่าอะไรคือความหลง

เราก็ย่อมละความหลงไม่ได้


อันว่าโลภ  โกรธ  หลง  นี้

มีหลายขั้น

ทั้งขั้นหยาบ  กลาง  ละเอียด

ยกตัวอย่างความโกรธ

โกรธอย่างหยาบ ๆ  นั้นเห็นได้ชัด

โกรธอย่างกลางก็คงพอเห็นได้บ้าง

แต่โกรธอย่างละเอียด  ต้องอาศัยสมาธิพอสมควร

อาศัยสติมากพอสมควร

เพราะความโกรธอย่างละเอียดนั้น

เพียงแค่ว่า  จิตใจมันแย็บไปในทางไม่พอใจหน่อยหนึ่ง

นั่นก็คือพรรคพวกของความโกรธแสดงตัวเสียแล้ว

ซึ่งบางทีเราก็รู้ไม่ทัน

อะไรที่รู้ไม่ทัน

มันก็สั่งสม

อะไรที่สั่งสม  มันก็จะกลายเป็นนิสัย

อะไรที่เป็นนิสัย  มันก็จะกลายเป็นสันดาน

อะไรที่เป็นสันดาน  มันก็แสดงออกมาเป็นบุคลิกของคนคนนั้น

แสดงออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาของคนคนนั้น


ดังนั้น  การรู้จัก  รู้ทัน  ว่าอะไรคือบาป

เป็นสิ่งสำคัญมาก

อย่างบางทีเราอยากได้นั่นอยากได้นี่

เช่น  อยากได้เงิน  อยากมีเงิน  อย่างนี้เป็นต้น

ก็เป็นกิเลสฝ่ายโลภ

แต่บางที  กิเลสฝ่ายหลง  มันครอบงำเราไว้อยู่

มันก็ทำให้เรานั้น  ไม่รู้ว่า  ความอยากที่เราอยาก  ที่เราต้องการนั้น

เป็นความโลภ  หรือลูกน้องของความโลภ

เราก็ทะยานไปตามแรงของมัน

เช่นกัน

เมื่อเราโกรธ  หากมีกิเลสคือความหลง  มาครอบงำ

เราก็ไม่รู้ว่าเราโกรธ

เมื่อไม่รู้ว่าเป็นความผิดบาป

ก็ไม่ละ

เมื่อไม่ละ

ก็เป็นคนดีคนงามอะไรขึ้นมาไม่ได้


อันนี้เป็นการพิจารณาโดยสังเขป

หลักการสำคัญของพระพุทธศาสนา

ท่านจึงสอนให้  ทำสมาธิ

คือทำความสงบนิ่งให้เกิดขึ้นก่อน

เพราะถ้าไม่นิ่ง

ก็มองอะไรไม่ถนัด

แต่ถ้านิ่ง  ก็มองอะไรได้ถนัดชัดขึ้น

สภาวะจิตก็ละเอียดขึ้น

เมื่อจิตละเอียดขึ้น  สติก็ดีขึ้น

ปัญญาก็ทำงานได้ดีขึ้น

รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วมากขึ้น

ละเอียดเข้าไป ๆ  ตามลำดับ

ซึ่งจุดนี้นี่เอง

เป็นการบำเพ็ญบุญ

และทั้งการละบาป  บำเพ็ญบุญ  ในลักษณะนี้นี่แหละ

ที่ทำให้จิตผ่องใสขึ้นมา ๆ


ครูบาอาจารย์ท่านว่า

มรรคแปดนั้น  รวมลงคือการทำสมาธิภาวนานั่นเอง

การปฏิบัติตามแนวทางเพื่อพ้นทุกข์

จึงสรุปรวมลงที่

การนั่งสมาธิ  เดินจงกรม

หรือที่เรียกรวม ๆ  ว่า  การภาวนา


เอวัง


๑๘  มิถุนายน  ๒๕๕๗