ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

หากคุณต้องการอิสระ เสรีภาพ และสันติภาพที่แท้จริง ๑ : ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอย


จำความได้

ข้าพเจ้าเริ่มสนใจการเมืองเมื่อายุ  ๑๒  ปี

จากโฉลกตลกหมอลำที่ได้ยินบ่อย ๆ  

"เมืองไทยเรานี้  แสนดีหนักหนา

ในน้ำไม่มีปลา  ในนามีแต่หนี้

นส.๓  ไม่มี  เอาไปจำนำสหกรณ์"

หากใครเป็นคนอีสานรุ่น ๆ  ข้าพเจ้า

หรือแก่กว่าข้าพเจ้าหรือเด็กกว่าข้าพเจ้า

อาจจะได้เคยฟังเทปนี้บ้าง

(ความจริงใครก็เคยได้ฟังทั้งนั้น  ถ้าเคยได้ฟัง

555)

ข้าพเจ้าจำได้เพราะข้างบ้านเปิดบ่อยเหลือเกิน

แท้แล้วอันนี้เป็นเทปตลกที่เน้นความตลกเฮฮา

ไม่ใช่เทปซีเรียสอะไร

แต่มันวิจารณ์สังคมขณะนั้นได้ถึงแก่น

นส.๓  ก็คือ  ใบถือสิทธิ์ครองที่ดินประเภทหนึ่ง

ซึ่งทุกวันนี้คงไม่มี  เพราะน่าจะเปลี่ยนเป็น  โฉลดที่ดิน  หมดแล้ว

ส่วนสหกรณ์  น่าจะเป็นสหกรณ์การเกษตรหรืออะไรเทือก ๆ  นั้น

ซึ่งทุกวันนี้ยังมีอยู่แต่บทบาทไม่ค่อยมี

ที่มีบทบาทน่าจะเป็น  ธกส.  มากกว่า


ประโยค  "ในน้ำไม่มีปลา  ในนามีแต่หนี้"

ข้าพเจ้าเคยจำเอาไปใช้

สมัยรายงานหรือโต้วาที(ไม่แน่ใจ)ชั่วโมงสังคมศึกษา

เมื่อตอนเรียน  ม.๔  อยู่ครั้งหนึ่ง

จำได้ว่า  เพื่อน ๆ  หัวเราะกันครืน

(ที่ฮา  เพราะข้าพเจ้าเสือกจำผิด

เป็น  "ในนามีแต่ขี้"  555)


มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ  

แม้ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น


ชนชั้นใต้ปกครองถ้าเราพิจารณาตามประวัติศาสตร์

มันก็ไม่มีระบอบไหนที่ให้เราได้ลืมตาอ้าปากจริง ๆ  สักครั้ง

ถ้าเราขี้เกียจ

แต่ถ้าเราขยัน  ต่อให้ระบอบการปกครองใด

ก็เจริญรุ่งเรืองได้


ประวัติศาสตร์จำพวก  ๑๔  ตุลา  หรือ  ๖  ตุลา

ข้าพเจ้าศึกษาตั้งแต่ครั้ง  ม.ต้น

เพราะทะลึ่งไปอ่านวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับพวกนี้เข้า

จึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้

ไม่อย่างนั้นก็ไม่เข้าใจ  ไม่รู้เรื่อง  ไม่ได้อรรถรสวรรณกรรมอย่างเต็มที่

นั่นไม่รวมถึงจำพวกงานเขียนซีเรียสลัทธิการเมืองต่าง ๆ  

ที่กว่าจะมากระจ่างบ้างก็อีตอนเข้ามหาวิทยาลัย

เพราะได้ข้อมูลที่มากขึ้น  รอบด้านขึ้น


ข้าพเจ้าเริ่มดูข่าวตอนอายุ  ๑๒  เช่นเดียวกัน

(ปกติข้าพเจ้าเกลียดข่าวมาก  อยากเร่งให้มันจบเร็ว ๆ  

เพราะจะได้ดูการ์ตูนเสียที)

และที่ติดตาติดใจคือ

รัฐบาลชวน  ปล่อยหมากัดม็อบ

และจากการศึกษามากขึ้นเรื่อย ๆ  ของข้าพเจ้า

ทำให้ข้าพเจ้ารังเกียจพรรคประชาธิปัตย์

นั่นหมายความว่า

ข้าพเจ้าไม่ได้เพิ่งรังเกียจพวกเขาเฉพาะตอนนี้

หรือเมื่อเร็ว ๆ  นี้

แต่มันฝังใจมานาน

นานเกือบยี่สิบปี  (เอาให้แน่ก็  ๑๗  ปี)

ยิ่งเห็นความดัดจริตไม่ติดดินของพวกแกนนำแล้ว

ก็ยิ่งให้คลื่นเหียน


เอาเข้าจริง

ประวัติศาสตร์การเมืองการปกครอง

มันก็วนเวียนไปเรื่อย ๆ  

อย่างที่นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า

ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอย

History repeats itself

ซึ่งเป็นประโยคที่ข้าพเจ้าจำอย่างขึ้นใจมาแต่ไหนแต่ไร

เพราะหากพิจารณาให้ถ้วนถี่

มันคือสัจนิรันดร์อย่างหนึ่งนั่นเทียว

ประโยคเดียวอธิบายได้ทุกอย่าง


จอร์จ  ออร์เวลล์  ทำให้เราตระหนักถึงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

เราพยายามหนีจากเผด็จการ  เพื่อเจอเผด็จการอีกคนหนึ่ง

มีคำกล่าวคล้าย ๆ ว่า   "ถ้าเราฆ่าเผด็จการคนหนึ่ง  

จะมีเผด็จการอีกคนรออยู่ข้างหน้า"

(คำกล่าวนี้ไม่ใช่ของออร์เวลล์  ส่วนเป็นคำของใครนั้น

ข้าพเจ้าจำไม่ได้)

นั่นหมายความว่า  ต่อให้มันเป็นระบอบการปกครองอะไรยังไง

ชนชั้นใต้ปกครองก็ต้องทำงานหนัก

ถูกหลอก  ถูกผลักให้ไปตาย  ถูกกระทำย่ำยีอยู่เรื่อยไป

เหมือนในเรื่อง  Animal Farm  นั่นเอง


คิดดูให้ดี

เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่

เราอาจกล่าวอ้างว่า

เราเสียภาษีเพื่อให้รัฐนำมาพัฒนา

ถามว่า

รัฐเผด็จการ  กับ  รัฐประชาธิปไตย

ต่างกันหรือเปล่าตรงนี้

ไม่เลย

รัฐประชาธิปไตยแบบไทย ๆ  

เสียด้วยซ้ำ  ที่โกงเงินภาษีเรามากมายมหาศาล

เอาที่เห็นชัด ๆ  ก็ปาไปเท่าไหร่

(อย่าให้ยกตัวอย่างเลย)

แล้วที่เห็นไม่ชัดอีกเท่าไหร่

แล้วมันมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่


การใช้ระบบรัฐสภาหรือระบบข้างถนน

ไม่เคยทำให้สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป

ไม่เชื่อถามคนยุคสิบสี่ตุลา

ทุกวันนี้ยังเห็นคนยุคนั้นต้องออกมาเย้ว ๆ  อยู่ร่ำเรื่อย

เหมือนการงานอะไรสักอย่างที่ทำไม่เคยจบสิ้น

ซึ่งความจริงจริง ๆ  ก็คือ  มันไม่มีทางจบสิ้นได้เลย

เพราะเราเดินไม่ถูกต้อง

เรายังเข้าใจอะไร ๆ  ในโลกนี้ผิดพลาด

และไม่ยอมรับฟังสิ่งที่ถูกต้อง


เราเรียกร้องหาอิสรภาพ  เรียกหาเสรีภาพ

เรียกหาสันติภาพ

เรียกหาความยุติธรรม  เรียกร้องคุณธรรมจริยธรรม  

หรืออะไรต่าง ๆ  นานา

โดยที่เราไม่รู้จักความหมายที่แท้จริง

และความเป็นจริงแท้ ๆ  ของสภาวะอย่างนั้นเลย


(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ธัชชัย  ธัญญาวัลย
๒๕  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖