ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

แค่โทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้น (บทบริภาษบัตรเครดิตบางยี่ห้อ)


อันนี้จำเป็นต้องเอ่ยชื่อถึงธนาคาร

รวมถึงบริษัทบัตรเครดิตต่าง ๆ

แสดงความคิดเห็นในฐานะผู้บริโภค

เกี่ยวแก่การให้บริการของบัตรเครดิต

และสินเชื่อส่วนบุคคล

ของแต่ละแห่งละที่

ทั้งนี้

ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล

ซึ่งข้าพเจ้าผู้ได้ใช้บริการ

ประสบมาด้วยตนเองทั้งสิ้น



เริ่มที่ประเด็นแรก

"แค่โทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้น"

ชื่อนี้เลียนแบบชื่อเรื่องสั้น

"แค่มาขอใช้โทรศัพท์เท่านั้น"  ของ  มาร์เกซ

มันคล้ายกันจริง ๆ  เรื่องเล็ก ๆ  ขี้หมูราขี้หมาแห้ง

กลายเป็นเรื่องใหญ่โตยืดยาว



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานเมื่อสองปีที่แล้ว

หากข้าพเจ้าเก็บงำเอาไว้ไม่เปิดเผย

ช่วงนั้นข้าพเจ้าต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัย

จึงโทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่การจัดส่งเอกสารกับบัตรเครติดของธนาคารต่าง ๆ

กสิกร  ก็ผ่านไปด้วยดี  กรุงศรี  ก็ผ่านไปด้วยดี  เคทีซี  ก็ผ่านไปด้วยดี

พอถึงบัตรไทยพาณิชย์  พนักงานที่รับโทรศัพท์บอกว่า

ขอเปลี่ยนทางโทรศัพท์เฉย ๆ ไม่ได้ค่ะ  ต้องส่งแฟกซ์เอกสารพร้อมสำเนาบัตรประชาชนมาด้วย

ข้าพเจ้าจึงถามไปว่า  ทำไมไม่ได้ล่ะ

คราวก่อนยังได้อยู่เลย  เนี่ย  เคยโทรมาขอเปลี่ยนไปครั้งหนึ่งแล้ว

พนักงานก็ยืนยันว่าไม่ได้  เพราะตอนนี้เปลี่ยนระบบใหม่แล้ว

ข้าพเจ้าจึงบอกว่า  ไม่มีแฟกซ์

เธอจึงเสนอทางออกให้อีกทางหนึ่งคือ

ไปติดต่อที่ธนาคารสาขาไหนก็ได้  แล้วก็ให้พนักงานธนาคารส่งแฟกซ์รายละเอียดที่อยู่ใหม่มา

พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชน

ข้าพเจ้าก็เสียสละเวลาไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาอโศกทาวเวอร์ส  (ชื่อสาขาเขียนอย่างนี้จริงๆ  )

ซึ่งใกล้ที่สุดในตอนนั้น

และได้แจ้งดังที่พนักงานรับโทรศัพท์บอก

ก็จัดการเสร็จเรียบร้อย

ต่อมา  มีโทรศัพท์ดังเข้ามา

ข้าพเจ้ากดรับ

เป็นพนักงานบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์  พูดมาว่า

เอกสารที่ส่งมานั้น  ใช้ไม่ได้เพราะไม่ได้ลงลายมือชื่อ

ให้ส่งมาใหม่

ข้าพเจ้าจึงบอกว่า

เอกสารนั้นข้าพเจ้าเขียนด้วยลายมือของข้าพเจ้าเอง

และพนักงานก็ไม่ได้บอกให้ลงลายมือชื่อ

และข้าพเจ้าผู้ซึ่งแจ้งที่อยู่ใหม่ก็พูดทนโท่หัวโด่อยู่  ณ  ที่นี้

แค่ขอเปลี่ยนที่อยู่จัดส่งเอกสารทำไมมันยุ่งยากนัก

เขาก็ยืนยันว่า  ไม่ได้  ให้ไปทำใหม่

ข้าพเจ้าจึงบอกว่า

ไม่ไปแล้ว  ไม่มีเวลา

ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช้บริการแล้ว

จะขอยกเลิก

เขาก็ยืนยันว่า  ไม่ได้

ข้าพเจ้าจึงวางสาย

และโทรไปขอยกเลิกการใช้บัตรเครดิตในนาทีนั้น

และการยกเลิกก็เสร็จเรียบร้อย

ง่ายดายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

คำถามเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าว่า

ข้อ ๑.  ทำไมแค่ขอเปลี่ยนที่อยู่จัดส่งเอกสารมันถึงได้วุ่นวายนัก  ทั้งที่ธนาคารอื่นนั้นง่ายดายมาก

จะอ้างเหตุว่าเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าหรือ ก็ไม่สมเหตุสมผลเพราะ

ข้อ ๒.  ตอนที่ขอยกเลิกบัตรเครดิตนั้น  ยังยกเลิกทางโทรศัพท์ได้เลย  อย่างนี้ทำไมไม่เห็นจะต้องใช้เอกสารอะไร  และไม่คิดเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าจากกรณีนี้บ้างหรือ

ข้อ ๓.  เมื่อลูกค้าบอกว่า  ไม่พอใจจะยกเลิกใช้บริการ  พนักงานที่พูดสายอยู่  ก็ไม่ยับยั้ง  หรือชะลอความไว้ก่อน  หรือพนักงานคิดว่าลูกค้าพูดเล่น  หรือพูดเพราะโมโห  พนักงานก็ควรจะมีวิจารณญาณมากกว่านี้
อนึ่ง  เหตุเพราะพนักงานไม่ชะลอไว้  ซึ่งสาเหตุมาจากพนักงานไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้  ทำให้ธนาคารต้องเสียลูกค้าไป  คำถามก็คือว่า  หากมีกรณีอย่างนี้มาก ๆ  ผู้คนจะยังใช้บัตรเครดิตยี่ห้อนี้อยู่อีกหรือเปล่า  หรือ

ข้อ ๔.  ธนาคารคิดว่า  ลูกค้ามีเยอะไม่จำเป็นต้องง้อคนคนเดียว  ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร  เพราะหากเป็นจริงเช่นนี้  ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องง้อธนาคารเหมือนกัน  เพราะสรรพธนาคารโทรมาขอให้ทำบัตรเครดิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนน่ารำคาญมากมาย

และ  ข้อ ๕.  ทำไมแค่พนักงานรับโทรศัพท์คนเดียว  จึงมีอำนาจตัดสินใจได้ขนาดนั้น ( คือเมื่อลูกค้าบอกจะยกเลิก  ก็คงคิดว่า  มึงจะยกเลิกก็ยกเลิกไปไม่ใช่เรื่องของกู  ไม่ใช่หน้าที่กู  อย่างนี้หรือเปล่า  ไม่รักษาผลประโยชน์ขององกรค์เลย)

หลังจากที่ข้าพเจ้าได้แจ้งยกเลิกบัตรไปแล้ว  ก็ปรากฏว่า  ธนาคารได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสารให้แก่ข้าพเจ้า  (ทราบจากเอกสารที่ส่งมาภายหลัง)  ซึ่งก็คิดในใจว่า  ถ้ามึงเปลี่ยนตั้งแต่แรกที่กูบอก  มึงก็ไม่ต้องเสียลูกค้าแล้ว

อนึ่งบัตรเครดิตใบนี้ข้าพเจ้าใช้บ่อยพอสมควร  และใช้ในกรณีจ่ายเยอะ ๆ  ด้วย

แต่หากไม่ดูแลกันให้ดี  ด้วยเรื่องแค่นี้  ก็แล้วแต่เถอะ  ข้าพเจ้าก็ไม่เสียประโยชน์อยู่แล้ว  ธนาคารก็ไม่ใช่จะเสียอะไรมากมายแค่ลูกค้าคนเดียว

ส่วนเรื่องอื่น ๆ  ของไทยพาณิชย์  เช่น  การอนุมัตรวงเงิน  หรือการให้บริการ  บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ก็ทำได้ดี  โดยเฉพาะเรื่องวงเงิน  ไทยพาณิชย์เป็นบัตรเครดิตที่เพิ่มวงเงินให้อัตโนมัติรวดเร็วกว่าของที่อื่นมาก

ทีนี้ก็จะพูดลามไปถึงเรื่องสินเชื่อ  ความจริงสินเชื่อไทยพาณิชย์นั้น  อนุมัติง่ายกว่าสินเชื่อที่อื่นมาก

จากประสบการณ์ของข้าพเจ้า  ถ้าคุณจะทำธุรกิจแล้วอยากได้สินเชื่อ  ขอไทยพาณิชย์โอกาสได้น่าจะง่ายที่สุด

ดังคำที่เขาโฆษณาว่า  ถ้าคุณกล้าคิด  ไทยพาณิชย์ก็กล้าให้

ซึ่งตรงข้ามกับอีกหลาย ๆ  ที่  ที่ดีแต่โฆษณา  เอาเข้าจริง  ยุ่งยิ่งกว่ายุงตีกัน

กรุงศรีนั้น  อนุมัติยากพอสมควร  ส่วนธนาคารจำพวก  ยูโอบี  หรือ  สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด อนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลเร็วมาก  และการให้บริการรวดเร็วสะดวก  แต่จากประสบการณ์  ยูโอบีสะดวกกว่า  ตอนที่คุณจะปิดบัญชีสินเชื่อ(ก่อน)  ส่วนสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จะปิดบัญชีก่อน  ต้องไปที่สำนักงานใหญ่สาทร  ซึ่งลำบาก ส่วนยูโอบี  ปิดที่ไหนก็ได้

สินเชื่อที่อนุมัติยากที่สุดแต่โฆษณาเยอะที่สุดว่าง่าย  เห็นจะเป็นซิตี้แบงค์  อนุมัติยากมาก  เคยขอไปตั้งแต่สมัยรับราชการจนลาออกทำงานเอกชนผ่านไปเป็นปี  จนธนาคารอื่นอนุมัติบัตรเครดิตวงเงินรวมกันจะเกินล้านอยู่แล้ว  ซิตี้แบงค์ก็ยังไม่เคยอนุมัติสินเชื่อใด ๆ  แก่ข้าพเจ้า

ทั้งนี้  บางทีข้าพเจ้าก็อยากทดสอบการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร  เวลามีคนโทรมาให้ขอสินเชื่อ  ข้าพเจ้าก็ตอบตกลงไป  และยื่นเอกสารให้ แต่จนแล้วจนรอด  ยื่นเอกสารกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ซิตี้แบงค์ก็ไม่เคยอนุมัติ

ทั้งที่เครดิตข้าพเจ้านั้นดีมาก  ไม่เคยเบี้ยวชำระเลย  เครดิตบูโรแสนจะแจ่ม


พูดถึงเรื่องการติดต่อบัตรเครดิต

บัตรเครดิตที่ได้ชื่อว่าช้าและห่วยบรมห่วยเรื่องการติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ก็คือ

เคทีซี  ทั้งที่เป็นบัตรแพลตทินั่ม  มีศูนย์บริการต่างหาก  แต่ถ้าคุณโทรไปช่วงกลางวันหรือช่วงหนึ่งทุ่มสองทุ่ม  มันจะพูดอยู่นั่นแหละ  "ขณะนี้เจ้าหน้าที่ให้บริการเต็มทุกคู่สาย  กรุณารอสักครู่"  สลับกับเสียงสปอร์ตโฆษณาปัญญาอ่อนของมัน

อีห่า  อยากจะด่าแม่มเป็นภาษาสเปน  คู่สายมึงมันมีกี่สายกูอยากรู้


คือบางครั้งรอจนขี้เกียจรอ  รอจนครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ว่าง

อันนี้ประสบการณ์ตรง  เจอมาแล้ว  เสียเงินค่าโทรศัพท์เล่น ๆ  เปล่า ๆ  ปลี้ ๆ โดยไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยจัดการธุระที่อยากจะทำเลย

จะให้ดีโทรไปช่วงดึก ๆ  เที่ยงคืน  ตีหนึ่ง  ตีสอง   อันนี้รับเร็วมาก  บางครั้งเสียงงัวเงีย ๆ

ก็เห็นใจนะ  แต่พวกคุณมึงก็ต้องเห็นใจกูบ้าง


บัตรเครดิตที่  อนุมัติวงเงินน้อยต้อยต่ำ  แต่บริการดีเยี่ยม  คือ  กสิกร

โทรไปปุ๊บรับปั๊บ  ไม่มีการพูดว่า  ภาษาไทย  กดหนึ่ง  สอบถามนั่นนู่นนี่กดห่ากดเหี้ย  ไม่มี

โทรไปปั๊บ  รับปุ๊บ  พนักงานจะพูดชื่อตัวเอง  พร้อมให้บริการค่ะ  ทันที

อันนี้คือจุดที่ดีที่สุดของกสิกร

ส่วนการอนุมัติวงเงินโคตรขี้ตืด  คือ  ถ้าจะพูดแบบโพสิตีปติงกิ้งตามสมัยนิยมก็ต้องบอกว่า  การป้องกันความเสี่ยงดีเยี่ยมนั่นเอง

บัตรอื่นเขาอนุมัติกันเป็นแสนสองแสน  อีกสิกร  ให้หลักหมื่น  แถมกดเงินสดได้แค่ครึ่งหนึ่งของวงเงินอีกต่างหาก  จะเหนียวไปไหน


บัตรเครดิตที่ให้วงเงินมากพอ ๆ  กับไทยพาณิชย์ก็คือ  กรุงศรี  แถมพวกบริการเสริมก็พอใช้ได้ไม่ถึงขนาดเคทีซี

ส่วนวงเงินของเคทีซีนั้น  กลาง ๆ  ไม่มากไม่น้อย

เรื่องการกดเงินสดจากบัตรเครดิต  ไทยพาณิชย์เวิร์คสุด  กดได้เต็ม  เคทีซีก็เต็ม  แต่กรุงศรี  และกสิกร  กดได้ครึ่งเดียว

ที่นี้พูดกันเรื่องบัตรกดเงินสด

ข้าพเจ้าอยากให้ฉายามันว่า  เป็นผีดิบดูดเลือดของมนุษย์ยุคใหม่  คือมันจะเกลี้ยกล่อมคุณว่า

ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงิน  ไม่คิดค่าบัตร  แต่ที่ไหนได้  บัตรเงินสดที่คุณได้มานั้น

มันคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่มันอนุมัติวงเงินให้คุณ  และไอ้บัตรนี้  ถึงคุณไม่กดเงินออกมาใช้ คุณก็ต้องเสียดอกเบี้ย  เพราะมันถือว่า  โอนเงินมาในบัญชี(บัตร)คุณแล้ว  ก็ต้องคิดดอกเบี้ยกันวันนั้นเลย

แสบที่สุด  ถ้าใครไม่มีธุระอะไรต้องใช้เงินมาก  อย่าได้ทำเด็ดขาดบัตรกดเงินสด  ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายด้วยความหวังดี

รวมถึงการเอาบัตรเครดิตไปกดเงินสด  มันจะคิดยิบคิดย่อย  คิดค่าธรรมเนียม  คิดดอกเบี้ย  คิดค่านั่นนู่นนี่อยู่นั่นแหละ

และที่สำคัญมากสำหรับบัตรเครดิต  อย่าได้ค้างหนี้มันเด็ดขาด  ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ

เพราะถ้าคุณค้างมันเมื่อไหร่  ดอกเบี้ยขี้ ๆ  ก็ยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ต่อปี  นะจ๊ะ  ไม่น้อยเลย

แถมทุกครั้งที่คุณผ่อนชำระเงินมันไปนั้น  เงินที่ผ่อนชำระ  มันจะหักไปชำระดอกเบี้ยก่อน

ถ้าเหลือก็ค่อยเอาไปหักเงินต้น  แต่มันจะอ้างลดต้นลดดอก  แต่จ่ายไปจ่ายมา  เงินต้นแม่งแทบไม่ลด  สลดกันไป


เรื่องเงิน ๆ  ทอง ๆ  พูดไปก็ปวดหัว  พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน


ดิษฐ์  จรัส
๒๓  เมษายน  ๒๕๕๖





ไม่มีความคิดเห็น: