ซื้อ E-BOOK
|
แค่โทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้น (บทบริภาษบัตรเครดิตบางยี่ห้อ)
อันนี้จำเป็นต้องเอ่ยชื่อถึงธนาคาร
รวมถึงบริษัทบัตรเครดิตต่าง ๆ
แสดงความคิดเห็นในฐานะผู้บริโภค
เกี่ยวแก่การให้บริการของบัตรเครดิต
และสินเชื่อส่วนบุคคล
ของแต่ละแห่งละที่
ทั้งนี้
ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล
ซึ่งข้าพเจ้าผู้ได้ใช้บริการ
ประสบมาด้วยตนเองทั้งสิ้น
เริ่มที่ประเด็นแรก
"แค่โทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้น"
ชื่อนี้เลียนแบบชื่อเรื่องสั้น
"แค่มาขอใช้โทรศัพท์เท่านั้น" ของ มาร์เกซ
มันคล้ายกันจริง ๆ เรื่องเล็ก ๆ ขี้หมูราขี้หมาแห้ง
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตยืดยาว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานเมื่อสองปีที่แล้ว
หากข้าพเจ้าเก็บงำเอาไว้ไม่เปิดเผย
ช่วงนั้นข้าพเจ้าต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัย
จึงโทรไปขอเปลี่ยนที่อยู่การจัดส่งเอกสารกับบัตรเครติดของธนาคารต่าง ๆ
กสิกร ก็ผ่านไปด้วยดี กรุงศรี ก็ผ่านไปด้วยดี เคทีซี ก็ผ่านไปด้วยดี
พอถึงบัตรไทยพาณิชย์ พนักงานที่รับโทรศัพท์บอกว่า
ขอเปลี่ยนทางโทรศัพท์เฉย ๆ ไม่ได้ค่ะ ต้องส่งแฟกซ์เอกสารพร้อมสำเนาบัตรประชาชนมาด้วย
ข้าพเจ้าจึงถามไปว่า ทำไมไม่ได้ล่ะ
คราวก่อนยังได้อยู่เลย เนี่ย เคยโทรมาขอเปลี่ยนไปครั้งหนึ่งแล้ว
พนักงานก็ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะตอนนี้เปลี่ยนระบบใหม่แล้ว
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า ไม่มีแฟกซ์
เธอจึงเสนอทางออกให้อีกทางหนึ่งคือ
ไปติดต่อที่ธนาคารสาขาไหนก็ได้ แล้วก็ให้พนักงานธนาคารส่งแฟกซ์รายละเอียดที่อยู่ใหม่มา
พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชน
ข้าพเจ้าก็เสียสละเวลาไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศกทาวเวอร์ส (ชื่อสาขาเขียนอย่างนี้จริงๆ )
ซึ่งใกล้ที่สุดในตอนนั้น
และได้แจ้งดังที่พนักงานรับโทรศัพท์บอก
ก็จัดการเสร็จเรียบร้อย
ต่อมา มีโทรศัพท์ดังเข้ามา
ข้าพเจ้ากดรับ
เป็นพนักงานบัตรเครดิตของไทยพาณิชย์ พูดมาว่า
เอกสารที่ส่งมานั้น ใช้ไม่ได้เพราะไม่ได้ลงลายมือชื่อ
ให้ส่งมาใหม่
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า
เอกสารนั้นข้าพเจ้าเขียนด้วยลายมือของข้าพเจ้าเอง
และพนักงานก็ไม่ได้บอกให้ลงลายมือชื่อ
และข้าพเจ้าผู้ซึ่งแจ้งที่อยู่ใหม่ก็พูดทนโท่หัวโด่อยู่ ณ ที่นี้
แค่ขอเปลี่ยนที่อยู่จัดส่งเอกสารทำไมมันยุ่งยากนัก
เขาก็ยืนยันว่า ไม่ได้ ให้ไปทำใหม่
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า
ไม่ไปแล้ว ไม่มีเวลา
ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช้บริการแล้ว
จะขอยกเลิก
เขาก็ยืนยันว่า ไม่ได้
ข้าพเจ้าจึงวางสาย
และโทรไปขอยกเลิกการใช้บัตรเครดิตในนาทีนั้น
และการยกเลิกก็เสร็จเรียบร้อย
ง่ายดายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
คำถามเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าว่า
ข้อ ๑. ทำไมแค่ขอเปลี่ยนที่อยู่จัดส่งเอกสารมันถึงได้วุ่นวายนัก ทั้งที่ธนาคารอื่นนั้นง่ายดายมาก
จะอ้างเหตุว่าเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าหรือ ก็ไม่สมเหตุสมผลเพราะ
ข้อ ๒. ตอนที่ขอยกเลิกบัตรเครดิตนั้น ยังยกเลิกทางโทรศัพท์ได้เลย อย่างนี้ทำไมไม่เห็นจะต้องใช้เอกสารอะไร และไม่คิดเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าจากกรณีนี้บ้างหรือ
ข้อ ๓. เมื่อลูกค้าบอกว่า ไม่พอใจจะยกเลิกใช้บริการ พนักงานที่พูดสายอยู่ ก็ไม่ยับยั้ง หรือชะลอความไว้ก่อน หรือพนักงานคิดว่าลูกค้าพูดเล่น หรือพูดเพราะโมโห พนักงานก็ควรจะมีวิจารณญาณมากกว่านี้
อนึ่ง เหตุเพราะพนักงานไม่ชะลอไว้ ซึ่งสาเหตุมาจากพนักงานไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ทำให้ธนาคารต้องเสียลูกค้าไป คำถามก็คือว่า หากมีกรณีอย่างนี้มาก ๆ ผู้คนจะยังใช้บัตรเครดิตยี่ห้อนี้อยู่อีกหรือเปล่า หรือ
ข้อ ๔. ธนาคารคิดว่า ลูกค้ามีเยอะไม่จำเป็นต้องง้อคนคนเดียว ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอะไร เพราะหากเป็นจริงเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องง้อธนาคารเหมือนกัน เพราะสรรพธนาคารโทรมาขอให้ทำบัตรเครดิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนน่ารำคาญมากมาย
และ ข้อ ๕. ทำไมแค่พนักงานรับโทรศัพท์คนเดียว จึงมีอำนาจตัดสินใจได้ขนาดนั้น ( คือเมื่อลูกค้าบอกจะยกเลิก ก็คงคิดว่า มึงจะยกเลิกก็ยกเลิกไปไม่ใช่เรื่องของกู ไม่ใช่หน้าที่กู อย่างนี้หรือเปล่า ไม่รักษาผลประโยชน์ขององกรค์เลย)
หลังจากที่ข้าพเจ้าได้แจ้งยกเลิกบัตรไปแล้ว ก็ปรากฏว่า ธนาคารได้เปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสารให้แก่ข้าพเจ้า (ทราบจากเอกสารที่ส่งมาภายหลัง) ซึ่งก็คิดในใจว่า ถ้ามึงเปลี่ยนตั้งแต่แรกที่กูบอก มึงก็ไม่ต้องเสียลูกค้าแล้ว
อนึ่งบัตรเครดิตใบนี้ข้าพเจ้าใช้บ่อยพอสมควร และใช้ในกรณีจ่ายเยอะ ๆ ด้วย
แต่หากไม่ดูแลกันให้ดี ด้วยเรื่องแค่นี้ ก็แล้วแต่เถอะ ข้าพเจ้าก็ไม่เสียประโยชน์อยู่แล้ว ธนาคารก็ไม่ใช่จะเสียอะไรมากมายแค่ลูกค้าคนเดียว
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ของไทยพาณิชย์ เช่น การอนุมัตรวงเงิน หรือการให้บริการ บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ก็ทำได้ดี โดยเฉพาะเรื่องวงเงิน ไทยพาณิชย์เป็นบัตรเครดิตที่เพิ่มวงเงินให้อัตโนมัติรวดเร็วกว่าของที่อื่นมาก
ทีนี้ก็จะพูดลามไปถึงเรื่องสินเชื่อ ความจริงสินเชื่อไทยพาณิชย์นั้น อนุมัติง่ายกว่าสินเชื่อที่อื่นมาก
จากประสบการณ์ของข้าพเจ้า ถ้าคุณจะทำธุรกิจแล้วอยากได้สินเชื่อ ขอไทยพาณิชย์โอกาสได้น่าจะง่ายที่สุด
ดังคำที่เขาโฆษณาว่า ถ้าคุณกล้าคิด ไทยพาณิชย์ก็กล้าให้
ซึ่งตรงข้ามกับอีกหลาย ๆ ที่ ที่ดีแต่โฆษณา เอาเข้าจริง ยุ่งยิ่งกว่ายุงตีกัน
กรุงศรีนั้น อนุมัติยากพอสมควร ส่วนธนาคารจำพวก ยูโอบี หรือ สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด อนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลเร็วมาก และการให้บริการรวดเร็วสะดวก แต่จากประสบการณ์ ยูโอบีสะดวกกว่า ตอนที่คุณจะปิดบัญชีสินเชื่อ(ก่อน) ส่วนสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จะปิดบัญชีก่อน ต้องไปที่สำนักงานใหญ่สาทร ซึ่งลำบาก ส่วนยูโอบี ปิดที่ไหนก็ได้
สินเชื่อที่อนุมัติยากที่สุดแต่โฆษณาเยอะที่สุดว่าง่าย เห็นจะเป็นซิตี้แบงค์ อนุมัติยากมาก เคยขอไปตั้งแต่สมัยรับราชการจนลาออกทำงานเอกชนผ่านไปเป็นปี จนธนาคารอื่นอนุมัติบัตรเครดิตวงเงินรวมกันจะเกินล้านอยู่แล้ว ซิตี้แบงค์ก็ยังไม่เคยอนุมัติสินเชื่อใด ๆ แก่ข้าพเจ้า
ทั้งนี้ บางทีข้าพเจ้าก็อยากทดสอบการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร เวลามีคนโทรมาให้ขอสินเชื่อ ข้าพเจ้าก็ตอบตกลงไป และยื่นเอกสารให้ แต่จนแล้วจนรอด ยื่นเอกสารกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ซิตี้แบงค์ก็ไม่เคยอนุมัติ
ทั้งที่เครดิตข้าพเจ้านั้นดีมาก ไม่เคยเบี้ยวชำระเลย เครดิตบูโรแสนจะแจ่ม
พูดถึงเรื่องการติดต่อบัตรเครดิต
บัตรเครดิตที่ได้ชื่อว่าช้าและห่วยบรมห่วยเรื่องการติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ก็คือ
เคทีซี ทั้งที่เป็นบัตรแพลตทินั่ม มีศูนย์บริการต่างหาก แต่ถ้าคุณโทรไปช่วงกลางวันหรือช่วงหนึ่งทุ่มสองทุ่ม มันจะพูดอยู่นั่นแหละ "ขณะนี้เจ้าหน้าที่ให้บริการเต็มทุกคู่สาย กรุณารอสักครู่" สลับกับเสียงสปอร์ตโฆษณาปัญญาอ่อนของมัน
อีห่า อยากจะด่าแม่มเป็นภาษาสเปน คู่สายมึงมันมีกี่สายกูอยากรู้
คือบางครั้งรอจนขี้เกียจรอ รอจนครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ว่าง
อันนี้ประสบการณ์ตรง เจอมาแล้ว เสียเงินค่าโทรศัพท์เล่น ๆ เปล่า ๆ ปลี้ ๆ โดยไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยจัดการธุระที่อยากจะทำเลย
จะให้ดีโทรไปช่วงดึก ๆ เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสอง อันนี้รับเร็วมาก บางครั้งเสียงงัวเงีย ๆ
ก็เห็นใจนะ แต่พวกคุณมึงก็ต้องเห็นใจกูบ้าง
บัตรเครดิตที่ อนุมัติวงเงินน้อยต้อยต่ำ แต่บริการดีเยี่ยม คือ กสิกร
โทรไปปุ๊บรับปั๊บ ไม่มีการพูดว่า ภาษาไทย กดหนึ่ง สอบถามนั่นนู่นนี่กดห่ากดเหี้ย ไม่มี
โทรไปปั๊บ รับปุ๊บ พนักงานจะพูดชื่อตัวเอง พร้อมให้บริการค่ะ ทันที
อันนี้คือจุดที่ดีที่สุดของกสิกร
ส่วนการอนุมัติวงเงินโคตรขี้ตืด คือ ถ้าจะพูดแบบโพสิตีปติงกิ้งตามสมัยนิยมก็ต้องบอกว่า การป้องกันความเสี่ยงดีเยี่ยมนั่นเอง
บัตรอื่นเขาอนุมัติกันเป็นแสนสองแสน อีกสิกร ให้หลักหมื่น แถมกดเงินสดได้แค่ครึ่งหนึ่งของวงเงินอีกต่างหาก จะเหนียวไปไหน
บัตรเครดิตที่ให้วงเงินมากพอ ๆ กับไทยพาณิชย์ก็คือ กรุงศรี แถมพวกบริการเสริมก็พอใช้ได้ไม่ถึงขนาดเคทีซี
ส่วนวงเงินของเคทีซีนั้น กลาง ๆ ไม่มากไม่น้อย
เรื่องการกดเงินสดจากบัตรเครดิต ไทยพาณิชย์เวิร์คสุด กดได้เต็ม เคทีซีก็เต็ม แต่กรุงศรี และกสิกร กดได้ครึ่งเดียว
ที่นี้พูดกันเรื่องบัตรกดเงินสด
ข้าพเจ้าอยากให้ฉายามันว่า เป็นผีดิบดูดเลือดของมนุษย์ยุคใหม่ คือมันจะเกลี้ยกล่อมคุณว่า
ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงิน ไม่คิดค่าบัตร แต่ที่ไหนได้ บัตรเงินสดที่คุณได้มานั้น
มันคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่มันอนุมัติวงเงินให้คุณ และไอ้บัตรนี้ ถึงคุณไม่กดเงินออกมาใช้ คุณก็ต้องเสียดอกเบี้ย เพราะมันถือว่า โอนเงินมาในบัญชี(บัตร)คุณแล้ว ก็ต้องคิดดอกเบี้ยกันวันนั้นเลย
แสบที่สุด ถ้าใครไม่มีธุระอะไรต้องใช้เงินมาก อย่าได้ทำเด็ดขาดบัตรกดเงินสด ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายด้วยความหวังดี
รวมถึงการเอาบัตรเครดิตไปกดเงินสด มันจะคิดยิบคิดย่อย คิดค่าธรรมเนียม คิดดอกเบี้ย คิดค่านั่นนู่นนี่อยู่นั่นแหละ
และที่สำคัญมากสำหรับบัตรเครดิต อย่าได้ค้างหนี้มันเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
เพราะถ้าคุณค้างมันเมื่อไหร่ ดอกเบี้ยขี้ ๆ ก็ยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ต่อปี นะจ๊ะ ไม่น้อยเลย
แถมทุกครั้งที่คุณผ่อนชำระเงินมันไปนั้น เงินที่ผ่อนชำระ มันจะหักไปชำระดอกเบี้ยก่อน
ถ้าเหลือก็ค่อยเอาไปหักเงินต้น แต่มันจะอ้างลดต้นลดดอก แต่จ่ายไปจ่ายมา เงินต้นแม่งแทบไม่ลด สลดกันไป
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ พูดไปก็ปวดหัว พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
ดิษฐ์ จรัส
๒๓ เมษายน ๒๕๕๖
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น