มันบีบคั้นอารมณ์นะ
กับความโดดเดี่ยว
ถ้าใครสักคนรู้สึกว่าเป็นคนไร้ค่า
ของใครคนหนึ่ง
แล้วอยากจะกลับไปเป็นคนมีค่า
ของอีกคนหนึ่งที่เคยจากเขามา
ไม่แน่
กาลเวลาผ่านไป
คนที่เคยมีคุณค่าของคนหนึ่งในอดีต
มันอาจไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
เขาอาจจะแค่อยากได้มันมาเหยียบย่ำ
ให้หายโกรธแค้น
ก็เท่านั้น
เราอาจคิดว่าเราเป็นคนไร้ค่าของใครสักคน
แต่มันอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้
เกือบยี่สิบเจ็ดปีแล้วที่ข้าพเจ้าลืมตาขึ้นมาดูโลก
วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ นี้
ก็จะเป็นวันครบยี่สิบเจ็ดปี
นานเหมือนกันนะ
นานจนพอที่เราจะได้รู้จักอะไร ๆ
และนานพอที่เราจะตายได้อย่างมีความสุข
นึกถึง "ความตายอันแสนสุข" ของ กามู
ถ้าเราตาย
อย่างนั้น
มันจะเป็นยังไง
วันนี้นั่งเขียนบล็อกอยู่
เวลาเกือบสองทุ่ม
ความจริงวันเสาร์เช่นนี้
ปิดคลินิกตั้งแต่หกโมงเย็น
แต่ป้ายก็เขียนว่า
เวลาทำการ
8.00 - 20.00 น. จันทร์-เสาร์
คนญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ตึกคิวเฮ้าส์
เข้ามาเมื่อเวลาประมาณ 19.40 น.
ข้าพเจ้านั่งอยู่
เขามานัดทำฟัน
คนญี่ปุ่นเขาก็คงนึกว่า
คลินิกเรายังไม่ปิด
ความจริงมันก็ยังไม่ปิด
ประตูเปิดได้
และไฟก็เปิด
แต่ทุกคนกลับหมดแล้ว
ยกเว้นข้าพเจ้า
ความจริง
ข้าพเจ้าก็กลับดึกอย่างนี้ทุกวัน
สมัยก่อน
คลินิกของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ารักมัน
อยากอยู่กับมัน
และพูดคุยกับมัน
ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดกับการคิดเล็กคิดน้อย
ของผู้คน
ของบางคน
ของหลายคน
ข้าพเจ้ารำคาญกับอะไรที่จุกจิกไม่เป็นเรื่อง
บางทีมันก็เล็ก ๆ และไม่กระทบถึงจุดใหญ่มากมาย
แต่ชอบคิดว่ามันกระทบ
ชอบคิดว่ามันเป็นซึนามิ
ความจริงบางอย่างมันก็กระทบ
แต่มันไม่ใช่ซึนามิ
มันเป็นแค่คลื่นเล็ก ๆ
ที่ซัดสาดเข้าฝั่งแล้วก็จางหาย
บางเรื่อง
ก็ปล่อยมันไปเสียก็ได้
อะไรนักหนา
ขอกันกินยังมากกว่านี้
เฮ้อ
ถ้าข้าพเจ้าเป็นท่อนไม้
คงจะดี
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
24 09 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น