"ยี่สิบเจ็ดปีแห่งความโดดเดี่ยว 2"
เริ่มโครงการเลิกใช้โทรศัพท์มือถือ
เพิ่งเริ่ม
รำคาญมัน
ไม่อยากใช้
ไม่อยากพูดคุย
ไม่อยากโทรศัพท์
ไม่อยากติดต่อกับโลกภายนอก
เป็นบ้า
ไม่เติมเงินโทรศัพท์
เหลือวันอีกถึงปีหน้า
โทรเข้าได้
ถ้าอยากรับก็จะรับ
ไม่อยากรับก็ไม่รับ
และไม่โทรกลับ
อยากโทรมาใหม่ก็โทร
ไม่มีธุระ
ก็ไม่ต้องโทร
อยากรู้เหมือนกัน
ถ้าไม่มีโทรศัพท์มือถือ
จะตายหรือเปล่า
ผ่านต้นจามจุรีหลังหอพัก
จะไปเข้าห้องน้ำที่อาคารวิทยพัฒนา
ชอบเรียกมันว่า
ตึกโนเบรน โนไอเดีย
มันท่ือมะลื่อมาก
ออกแบบได้ไร้ความสวยงามใด ๆ
เป็นตัวแทนน่าเกลียดของยุคโมเดิร์น
เป็นสัญลักษณ์เน่า ๆ ของพวก Gen X
ที่อาจจะยังไม่คลี่คลายตัวเองจาก Gen B อย่างชัดเจน
หรืออาจจะเป็นพวก Gen B ที่กำลังเข้าใกล้ความเป็น Gen X
หมานอนเกลื่อนกลาด
มันออกลูกมาได้เยอะมาก
คงเป็นยุค Gen B ของหมาพวกนี้
ต่อไปพวกมันคงมีลูกน้อยลง
เพราะคณะสัตวแพทย์คงจับไปทำหมันหมด
ฝนยังตก แต่ฝอยเล็กว่าเดิม
ยังเดินตากฝน
ฉี่เสร็จแล้ว
เดินตากฝนกลับ
ผ่านทางเดิม
ฟุตบาทตรงต้นจามจุรีแตกและเผยอขึ้น
คาดว่ามาจากการเจริญเติบโตของรากต้นจามจุรี
พวกนี้รากใหญ่
และรากต้องการพื้นที่มาก
มันดันทุกอย่างออกมาได้
ผ่านมาใต้หออีก
แต่ก่อนคึกคักกว่านี้
หากเป็นช่วงสอบ
เพราะยังไม่มีตึกจามเก้า
ที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเช่นทุกวันนี้
ได้ยินเสียงน้องผู้หญิงบอกน้องผู้ชาย
รีบ ๆ ลงมานะ ขี้เกียจรอ
เคล้ากับเสียง เป็นตุ๊ดสำเร็จค่ะ
เดินตากฝนออกมาหน้าหอพัก
เดินไปเรื่อย ๆ
ไม่มีจุดหมาย
ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เหมือนฝน
เดินข้ามสะพานลอย
ภาพตัวเองวิ่งกระหืดกระหอบ
เพื่อไปเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์
ให้ทันแปดโมง
ฉายอยู่ตรงตีนสะพาน
น้องผู้หญิงชมรมดนตรีไทยคนหนึ่งหอบจระเข้ผ่านไป
ผู้ชายกับผู้หญิงกำลังรอโบกแท็กซี่
ข้ามสะพานไปฝั่งสถาปัตย์
ประตูปิด
เดินผ่านเก้าอี้ยาวหน้ารั้วสีครีม
เก้าอี้นี้มันนานมาก
เคยเห็นมันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งคาดว่าก่อนหน้านั้น
มันก็คงอยู่อย่างนี้ของมันมาก่อนแล้ว
นาน ๆ ทีมีคนบ้านั่งอยู่
อยากนั่งเหมือนกัน
แต่อยากกลับห้อง
รอโบกแท็กซี่
คันแรก
เลื่อนกระจกลง
ไปอโศก บอกมัน
ทำหน้าเหมือนปวดไข่แล้วขับรถออกไป
รอต่อไป
แท็กซี่มันหายากอะไรอย่างนี้
รอต่อไป
นึกทฤษฎีหนึ่งขึ้นมา
ถ้าแท็กซี่คันไหน
เลื่อนกระจกถาม
มันมักไม่ไป
มันจะเลือกทำไม
มันคิดว่า
มันขับแท็กซี่เป็นงานอดิเรกหรือเปล่า
หรือมาขับเล่น ๆ แก้เซ็ง
ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ
อยากไปไหนก็ไป
ไม่อยากไป
กูก็ไม่ไป
รออยู่นาน
ฝนยังตกอยู่
ตัดสินใจเดินไปรถไฟฟ้า
ผ่านประตูทางเข้าตรงคณะสถาปัตย์
น้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังปีนรั้วเข้าไป
น้องผู้ชายเฝ้าดูต้นทาง
มีผู้หญิงหลายคนยืนรออยู่ข้างใน
คาดว่าคงปีนเข้าไปก่อนแล้ว
ทั้งหมดใส่กระโปรงสั้น
เหนือเข่าอยู่มาก
รั้วมันสูงท่วมหัวขนาดว่ายกมือขึ้นแล้วก็ยังไม่พ้น
แถมตรงปลายสุดยังแหลม ๆ อีก
ผ่านป้ายรถเมล์ที่เคยมาส่งไอ้หงุ่นตอนเช้า
นึกถึงใต้หอขึ้นมาอีก
เคยนอนใต้หอหลายครั้ง
บางครั้งนอนสองวันติด
ยังจำได้
สมัยทำ
ผลส้มสีน้ำเงิน
พิสูจน์อักษรไม่ดี
มีคำผิด
นั่งตัดสติ๊กเกอร์
แปะตรงที่ผิด
จำได้ว่า
น่าจะเล่มละห้าจุด
ไม่อยากปล่อยผ่านความผิดพลาด
หนึ่งพันเล่ม
มีคนมาช่วยบ้างเล็กน้อย
นั่งติดเช้ายันเย็น เย็นยังดึก ดึกยันเช้า
สามวันสองคืน
ทำไปได้ยังไง
จนป่านนี้ยังขาดทุน
ขายไม่ได้
แต่ใช้หนี้ที่ยืมแม่กับยายมาหมดแล้ว
สมัยนั้น
ยายต้องเอาทองไปขาย
เพื่อเอาเงินมาให้ทำหนังสือ
สงสารมาก
เล่มนั้นอุทิศให้ยาย
และถ้าจะมีหนังสือเล่มต่อ ๆ ไปของข้าพเจ้า
เงินที่ได้
จะให้ยาย
เดินมาเรื่อย ๆ
ในเส้นทางที่คุ้นเคย
นึกอยากจะนั่งรถเมล์ไปให้ไกล
ไปให้สุดขอบโลก
ถ้ารถเมล์มันไม่หมดระยะเสียก่อน
ถึงหน้ามาบุญครอง
โบกแท็กซี่อีกสองคัน
ไปอโศก
ไม่ไป
อโศกมันมีอะไรแย่นักหรือ
รถไฟฟ้ามันยังไปอโศก
ทำไมแท็กซี่ไม่ไป
รถก็ไม่เห็นติด
หรือมันเคยมีประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับอโศก
หรืออโศกเคยฆ่าพ่อมันตาย
เดินมาเรื่อย ๆ
ดูเสื้อผ้าที่เขาขายตามถนน
นึกไปถึงชุดที่เคยซื้อให้คนรัก
ฝนยังไม่หยุด
ขึ้นรถไฟฟ้า
รอนานมาก
ขึ้นไป
นึกอยากไปแบริ่ง
มันเป็นยังไง
ไม่เคยไป
หรืออาจจะเคยไป
แต่จำได้
หรือจำได้
แต่ไม่รู้ว่าเขาเรียกตรงนั้นว่าแบริ่ง
รถไฟฟ้าวิ่งไปเรื่อย ๆ
ตื่นเต้นเมื่อวันวิ่งจากอ่อนนุชไปบางจาก
มันวิ่งได้จริง ๆ ด้วย
มันไปจริง ๆ ด้วย
เหมือนความฝัน
พยายามมองลงไปด้านล่าง
ที่เคยนั่งรถเมล์ผ่าน
เห็นสถานที่รางเลือน
เพราะเป็นเวลากลางคืน
รถวิ่งไปถึงปุณณวิถี
ยกมือไหว้เจดีย์วัดธรรมมงคล
เจดีย์เหมือนลอยอยู่ใกล้ ๆ
คว้ามือจะไปจับ
อีป้าแก่ ๆ คนหนึ่งมองมา
ถึงแบริ่ง
นั่งกลับ
มาลงอโศก
ฝนตกแรงขึ้น
จากฝอย ๆ เป็นปรอย ๆ
เดินเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง
เหมือนมนุษย์ที่ไร้ค่า
เหมือนคนสิ้นหวัง
เหมือนคนเดนตาย
ข้ามถนนไม่ดูรถ
อยากให้มันชน
อยากบาดเจ็บ
อยากรู้ว่าเจ็บกายกับเจ็บใจ
อย่างไหนมันเจ็บลึกและเจ็บมากกว่ากัน
เข้าเซเว่น
ซื้อไอติม
มันบอกซื้อสองอันถูกว่า
ซื้อมาทั้งสองอัน
กินไอติมตากฝน
หนาว
เย็น
อยากรู้เหมือนกันว่า
มันจะเย็นสักเท่าไหร่
ยืนนิ่ง ๆ
ตากฝน
เย็นฟันมาก
เย็นไปถึงกระดูก
เข้าคอนโด
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
24 09 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น