มะเร็งความรัก
เมื่อไม่นานมานี้
มีชายคนหนึ่ง เป็นชนชั้นกลางในสังคม
ทำงานบริษัท รับเงินเดือน
อยู่บ้านจัดสรร มีลูกหน้าตาน่ารักสองคน
มีภรรยาสวยมากหนึ่งคน
เขาตื่นนอนตั้งแต่ตอนเช้ามืด
ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน
ไปส่งภรรยาที่ที่ทำงาน
จากนั้นจึงวกกลับมาบริษัทของตัวเอง
ทำงานแปดโมงเช้า
เลิกงานหกโมงเย็น หลังเลิกงาน
ขับรถไปรับลูกที่โรงเรียน
รับภรรยาที่ที่ทำงาน
ซื้อกับข้าวถุง กลับบ้าน
กินข้าวเย็น
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเอง
เขา
:
ทำงานที่แบกมาด้วยจากบริษัท
ภรรยา
:
ทำงานที่แบกมาด้วยจากที่ทำงาน
ลูกคนที่หนึ่ง
:
ทำการบ้านหรือเล่นอินเตอร์เน็ตหรือดูทีวี
ลูกคนที่สอง
:
ดูทีวีหรือทำการบ้านหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์
เป็นเช่นนี้ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์
วันเสาร์
เขาและภรรยา
:
ไปทำงานตามปกติ
ลูกคนที่หนึ่ง
:
ไปเรียนกวดวิชาและเที่ยวกับเพื่อน
ลูกคนที่สอง
:
ไปเที่ยวกับเพื่อนและเรียนกวดวิชา
วันอาทิตย์
เขา
:
ตื่นสาย
ภรรยา
:
ไปซื้อของหรือไปคุยกับเพื่อน
ลูกคนที่หนึ่ง
:
ไปเรียนกวดวิชาและเที่ยวกับเพื่อน
ลูกคนที่สอง
:
ไปเรียนดนตรีแล้วไปว่ายน้ำต่อ
เป็นอย่างนี้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
นานแสนนาน
วันหนึ่ง
(
ซึ่งเป็นวันอาทิตย์
)
ผู้ชายคนนี้ไม่สบาย
จึงไปหาหมอตรงคลินิกหน้าหมู่บ้านโดยมีภรรยาอยู่ไม่ห่าง
หลังการตรวจอย่างละเอียด
หมอบอกกับเขาว่า
“คุณเป็นโรคมะเร็งความรัก”
เขาตกใจมาก
“ผมจะตายมั้ยครับหมอ
ผมอยู่ได้อีกกี่วันครับ
ผมต้องทำตัวอย่างไรบ้างครับ
หมอช่วยผมด้วยนะครับ
ผมมีลูกและภรรยาต้องดูแล
ลูกผมยังเด็ก ผม....”
คำพูดต่าง
ๆ
ไหลหลั่งพรั่งพรูออกมาจากปากของเขาราวกับรถที่วิ่งบนทางด่วนในช่วงชั่วโมงรีบเร่งของเช้าวันจันทร์
“ใจเย็น
ๆ ครับ คุณสามารถมีสุขภาพดีต่อไปได้อีกหลายปี
แต่คุณต้องทานยาที่หมอให้
และปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดนะครับ”
หมอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบดูอบอุ่นและอ่อนโยน
รุ่งเช้าวันต่อมา
เขาลาหยุด
เขาไม่เคยลางานมาห้าปีติดต่อกันแล้ว
เขาเป็นพนักงานดีเด่นและได้รับโบนัสจำนวนมากทุกหกเดือน
หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียน
เขาและภรรยาไปสำนักงานเขตเพื่อจดทะเบียนหย่า
‘คุณเป็นมะเร็งความรัก
คุณได้รับความรักมากเกินไป
คุณต้องอยู่ห่างจากคนที่รักคุณอย่างเด็ดขาด’
เสียงของหมอดังขึ้นในความทรงจำ
ทำธุระเรื่องการหย่าเรียบร้อย
เขาไปส่งภรรยาที่ที่ทำงานเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วกลับบ้านโดยลำพัง
‘คุณต้องอยู่ห่างจากคนที่รักคุณอย่างเด็ดขาด’
เสียงของหมอยังก้องกังวาน
เขาไม่อยากหย่ากับภรรยาเลย
‘ชีวิตคุณมีค่ามากนะคะ’
ภรรยาบอกเขา ‘สักวันคุณจะต้องหาย
แล้วเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม’
‘แต่ทำไมต้องหย่าด้วย
แค่แยกกันอยู่ก็น่าจะพอ’
เขาพูดทั้งน้ำตา
‘ฉันจะได้รู้สึกว่าไม่มีความรักให้คุณแล้วยังไงล่ะคะ
ความรักที่คุณได้รับก็จะลดลง
แล้วคุณก็จะหาย จำที่หมอพูดไม่ได้หรือ’
ภรรยารับเลี้ยงดูลูกทั้งหมดเพียงคนเดียว
โดยให้เหตุผลว่าลูกก็รักเขามากเช่นกัน
หากไม่พาไปให้ห่างจากเขา
การที่หล่อนแยกทางกับเขาคงไม่เป็นประโยชน์อันใด
หลังจากนั้น
เขาอยู่คนเดียว
ปราศจากภรรยาและลูก เขาเหงามาก
อาการของเขาทรุดลงเรื่อย
ๆ
ในที่สุด
เขาก็ตายจากโลกนี้ไป
ภรรยาและลูกของเขา
กลายเป็นภรรยาและลูกของหมอเรียบร้อย
ธัชชัย ธัญญาวัลย (ทิวฟ้า ทัดตะวัน)