ลงรถที่นั่งมาจากดอยสุเทพ เดินไปจ่ายเงิน
พร้อมกับถามคนขับว่า
ไปสนามบินไหม
เขาบอกว่า ไม่ไป
ความจริงก็รู้ตั้งแต่เห็นหน้าก่อนจะถามแล้วหละ
ว่า หน้าตาอย่างนี้คงไม่ไปแน่ ๆ
5555
ก็จ่ายเงิน
( 40 บาท )
แล้วก็เดินเตร่มาอีกนิดหน่อย
ตรงข้ามกับป้ายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่พอดิบพอดี
มองเห็นรถแดงจอดอยู่คันหนึ่ง
ถามเขาว่า
ไปสนามบินไหม
เขาบอกว่า ไม่ไป ด้วยท่าทางอ้ำอึ้ง
และบอกเหตุผลว่า รถติด
ข้าพเจ้าจึงบอกว่า
ไม่เป็นไร ไม่รีบ ไปส่งคนอื่นก่อนก็ได้ แล้วค่อยวกไปที่สนามบิน
เขาครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่งก่อนจะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นขอ หนึ่งร้อยบาท ได้ไหม
ข้าพเจ้าตอบตกลง
เงินไม่ใช่ปัญหาของข้าพเจ้า
เพราะมันเป็นคนของคนอื่นที่จ่ายให้ข้าพเจ้ามาในครั้งนี้อยู่แล้ว
5555
เขาให้เข้าไปนั่งข้างในเป็นรถแคปที่ดัดแปลงมาเป็นรถแดงอีกที
สภาพรถค่อนข้างใหม่
คนขับน่าจะอายุไม่เกิน 50 เมียนั่งข้าง ๆ กัน
เรียกข้าพเจ้าว่า ลูก
จากนั้นบทสนทนาก็เริ่มขึ้น
พวกเขาทั้งสองก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ข้าพเจ้าฟัง
ข้าพเจ้าก็รับฟัง
ได้เข้าใจถึงความคิด ทัศนคติของคนขับรถแดง
ในแบบที่เขาต้องการจะให้เราเข้าใจ
ข้าพเจ้าไม่ค่อยพูดอะไรมาก แค่พูดว่า ครับ ๆ เท่านั้น
เพราะปกติก็ไม่ใช่คนอัธยาศัยดี หรือชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า
เขาก็จอดรับคนไปเรื่อย ในขณะเดียวกันก็ถามข้าพเจ้าว่า
อยากไปตรงนั้นไหม อยากไปตรงนี้ไหม
ข้าพเจ้าก็บอกว่า
ได้ครับ ไปที่ไหนก็ได้ทั้งหมด ผมมีเวลาเหลือเฟือ
นอกจากเรื่องหน้าที่การงาน
เขาก็เล่าเรื่องเชียงใหม่ เรื่องนักท่องเที่ยว เรื่องอะไรต่าง ๆ
ให้ข้าพเจ้าฟังเป็นจำนวนมาก
แต่โดยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่พวกเขาได้ประสบมา
จากนั้นพวกเขาก็บอกว่า
จะไปรับลูก ไปด้วยกันไหม ข้าพเจ้าก็ไม่ปฏิเสธ
ลูกชายเรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง
พอรับลูกเสร็จ
ก็มีลูกค้ากลุ่มใหญ่โบกรถไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เขาตกลงราคากันเรียบร้อย
ปรากฏว่า ลุงกับป้า ( พวกเขาเรียกตัวเองเช่นนั้น
และข้าพเจ้าก็เรียกพวกเขาเช่นนั้นด้วย
ทั้งที่ความจริงก็น่าจะเป็นพี่ หรือ เป็นน้า มากกว่า )
เขาก็ถามข้าพเจ้าอีกแหละว่า อยากไปดูไหม
ฟ้าฮ่าม
ข้าพเจ้าก็บอกว่า ไปครับ
เขาก็รับผู้โดยสาร แล้วก็ไปทางฟ้าฮ่าม
มีร้านอาหาร ร้านขายของประหลาด ๆ มากมาย
เขาก็เล่าแต่ละร้านให้ฟัง
พอไปถึงระยะที่เขาคิดว่าใช่ แต่มันไม่ใช่
จึงโทรถามร้านอาหารกับกลุ่มผู้โดยสารคนจีนข้างหลัง
ป้า ภรรยาเจ้าของรถนั้น
มีความสามารถในการพูดภาษาจีนได้ค่อนข้างดี
สามารถสื่อสารกับคนจีนได้
การขับรถโดยมีเมียนั่งไปด้วย
เป็นข้อดีอย่างมาก
เพราะเมียก็ทำหน้าที่เรียกผู้โดยสาร
ส่วนสามีก็ขับรถไปได้โดยที่ไม่ต้องพะวงอย่างอื่น
ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าเหมาะสมอย่างมาก
ปรากฏว่า ร้านอาหารที่ต้องไปส่งผู้โดยสารนั้น
ไกลออกไปมาก
เลยวงแหวนรอบสามเสียอีก
จึงมีการต่อรองเพื่อเพิ่มราคาเกิดขึ้น
ซึ่งผู้โดยสารก็ตกลงกันด้วยดี
แต่ก็ไม่ค่อยคุ้มกับระยะทางที่ต้องไป
ลุงคนขับหัวเสียพอสมควร
ที่เรียกค่าโดยสารน้อยไป
ขับรถมาหลายปีแล้ว
แต่หลายครั้ง
ก็ไม่รู้จักหลาย ๆ แห่งเหมือนกัน
รถแดงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
ที่ต้องมีแผนที่ในหัวตลอดเวลา
และต้องประมวลด้วยว่า
ใครจะไปที่ไหน
ต้องไปอย่างไร
เหมือนเป็นแท็กซี่ที่รับผู้โดยสารหลายคน
หลังจากไปส่งผู้โดยสารกลุ่มนั้นแล้ว
ลุงและป้ารถแดงก็ชวนข้าพเจ้าไปกินข้าวด้วยกัน
ลูกชายอยากกินสเต๊ก
( แต่ความจริงจริง ๆ แล้ว เขาอยากกินชาบูชิมากกว่า
หากเนื่องด้วยพ่อและแม่ปรามเอาไว้
และยกเหตุผลต่าง ๆ นานา เช่น
มันไม่อร่อยหรอก หรือมันก็ธรรมดา
อะไรเทือกนี้ ก็เลยไม่ได้กิน )
ไปจอดร้านสเต๊กข้างทาง
นัยว่า สเต๊กห้าสิบเก้าบาท
( แต่ความจริงก็มีหลายราคา )
ที่ร้านสเต๊กนี้เอง ลุงเจ้าของรถถามว่า
ข้าพเจ้าทำงานอะไร
ข้าพเจ้าก็ตอบความจริงไป
พวกเขาตกใจ
และมีท่าทีเปลี่ยนไปนิดหน่อย
คือเหมือนจะเกรงใจข้าพเจ้ามากขึ้น
ข้าพเจ้าพยายามทำตัวให้เหมือนกับว่า
อยากให้พวกเขาทำเหมือนเดิม
แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว
จริง ๆ ข้าพเจ้าน่าจะบอกเขาไปว่า
เป็นนักศึกษาหรืออะไรอื่น ๆ
เพราะเขาคิดว่า ข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก
อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบสองยี่สิบสามปี
เขาก็ถามว่า ข้าพเจ้าอายุเท่าไหร่
ข้าพเจ้าก็บอกไปตามความจริง
พวกเขามีท่าทีไม่อยากเชื่อ
แต่ข้าพเจ้าก็ยืนยันว่า
ข้าพเจ้าอายุมากแล้วจริง ๆ
5555
กินข้าวเสร็จ
ก็เลยขอถ่ายรูปเสียหน่อย
เป็นค่ำคืนและอาหารมื้อพิเศษ
พวกเขาพยายามจะขอโทษที่พามากินอาหารข้างทาง
ข้าพเจ้าพอจะเข้าใจบ้างว่า
ในความคิดพวกเขา
จะมองคนที่มีอาชีพแบบข้าพเจ้าไปในทางใด
ข้าพเจ้าบอกว่า กินได้ทั้งนั้น ร้านข้างทางก็กินเป็นประจำ
ไม่ได้มีความอะไรพิเศษอย่างที่พวกเขาคิด
อากาศหนาวมาก
น้องเขต ลูกชายเขาจึงตัวสั่นงันงกไปหมด
ความจริงเขามีลูกสาวด้วย
เรียนที่ มช. ปีสอง
ลุงบอกจะเลี้ยงอาหารข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า
ขอให้ข้าพเจ้าเลี้ยงดีกว่า
เป็นการตอบแทนที่พาข้าพเจ้าเที่ยวรอบเมืองเชียงใหม่
เขาจึงเสนอทางเลือก
ถ้าอย่างนั้นจะไปส่งสนามบินฟรีก็แล้วกัน
5555
ค่าอาหารมื้อนั้น 285 บาท
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น
แต่ก็อบอุ่นไปด้วยมิตรภาพ
เขาให้เบอร์โทรมาและบอกว่า
มาคราวหน้าจะพาไปเที่ยวสถานที่ที่พวกทัวร์จีนชอบไป
และจะพาไปเที่ยวที่บ้านด้วย
ข้าพเจ้ารับไว้ด้วยความยินดี
พร้อมคำกล่าว
ถ้ามีโอกาส จะขอให้พาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยคุยกัน
( คุณป้าแกเอารูปที่ไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวแปลก ๆ มาให้ดู ตอนนั่งอยู่ในรถ )
จากนั้นก็พาข้าพเจ้ามาถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ
ถ่ายรูปที่สนามบินกันอีกนิดหน่อย
ก่อนจะร่ำลา
และข้าพเจ้า
ก็ขึ้นมานั่งรอเครื่องออก
เล่นเน็ตฟรีของ AOT
และอ่านหนังสืออีกนิดหน่อย
กลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ไปเอารถที่ลานจอด
จ่ายเงิน 250
ไม่ขึ้นทางด่วน
ขับมาเรื่อย ๆ
สบาย ๆ
ฮัมเพลงเบา ๆ
ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
และสายลมหนาว
Arty K
19 01 2558