ไม่ได้อัพเดทนานมาก
เนื่องมาจากมีอะไรต้องทำเยอะแยะไปหมด
และบางคราวก็คิดว่า
เราควรจะมีชีวิตแบบออฟไลน์เสียบ้าง
ซึ่งคิดว่าก็คงอีกไม่นานนัก
จะได้ออฟไลน์ตลอดไป
บล็อกนี้มีบทความเป็นพันบท
เท่าที่เขานับเอาไว้ในส่วนการบริหาาจัดการ
ก็ราว ๆ 1,200 กว่า entries
ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า
ก็มากเอาการ
คิดอยากจะหยุดเล่า
หยุดเขียน
แต่พอวันใหม่ ๆ เข้ามา
ก็มีเรื่องใหม่ ๆ เข้ามา
มีอะไรใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
อีก
บางที
ก็คงมีเรื่องซ้ำ ๆ ซาก ๆ บ้าง
เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ไม่รู้กี่ปีของการเขียนบล็อกแห่งนี้
ที่ข้าพเจ้าไม่เคยทบทวนเรื่องราวเก่า ๆ ที่เขียนเลย
มีช่วงหนึ่งพยายามเก็บข้อมูลรวบรวมเรื่องทั้งหมดเอาไว้บ้าง
แต่พอนาน ๆ ไป
ก็ไม่ได้เก็บ
ก็เลิกไป
เก็บก็เพียงคัดลอกแล้วก็แปะ ๆ เอาไว้
เท่านั้น
ไม่ได้อ่านทบทวนหรืออะไร
หนึ่งพันสองร้อยกว่าเรื่องนี่ก็ถือว่า
มากเอาการเหมือนกัน
สำหรับคนคนหนึ่ง
ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ก็ไม่รู้ว่า
มีเรื่องราวอะไร
ให้เขียนถึงมากมายขนาดนั้น
ความจริง ถ้าเข้าไปดูเรื่องราวเก่า ๆ
ก็อาจจะเห็นข้อความขึ้นต้นทำนองนี้
คือ "ไม่ได้อัพเดทมานานมาก"
หรือ "ห่างหายไปนานมาก"
อะไรเทือกนี้
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
ช่วงนั้นที่หายไปนี่คือ
หายไปกี่วัน
5555
"มีเรื่องราวมากมายที่อยากจะเล่า"
ก็เป็นอีกข้อความหนึ่ง
ที่ข้าพเจ้ามักกล่าวเสมอ
และท้ายที่สุด
เรื่องราวมากมายที่อยากจะเล่า
ก็มักจะไม่ได้เล่าสักที
ซึ่งบางเรื่องบางราว
ก็เลือนหายไปกับกาลเวลา
บางเรื่องจดไว้ในสมุดบันทึก
หลาย ๆ ครั้ง
ไปเปิดอ่าน
ยังตกใจว่า
เฮ้ย นี่มันเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเราด้วยเหรอ
หรือ เอ๊ะ ไปทำอย่างนี้ตอนไหน
อะไรอย่างนี้เป็นต้น
ว่ากันว่า
เรื่องราวที่เราจดไว้
เรามักจะลืม
เพราะจิตสำนึกเราได้จัดการแล้วว่า
เรื่องนี้บันทึกแล้ว
ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหายไป
ลืมได้
ส่วนเรื่องราวที่ยังไม่บันทึก
จะวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา
ดังนี้
ข้าพเจ้าจึงมักจะบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เสมอ
ทั้งความสุขและความเศร้า
แล้วเราก็ลืมมันไปซะ
ถ้าไม่กลับไปอ่านสมุดบันทึก
ก็จำไม่ได้หรอก
ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง
อันนี้ก็เป็นเพียงทฤษฎี
ไม่จำเป็นว่า
จะต้องเป็นอย่างนี้กันทุกคน
หรือทุกเรื่อง
เรื่องบางเรื่อง
ไม่จด ก็ลืม
เรื่องบางเรื่อง
จด ก็ยังไม่ลืมอีก
เอาแน่อะไรไม่ได้นักหรอก
๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗