ที่เขียนอะไรเช้า ๆ นี่คือ
ไม่ได้ตื่นเช้า
แต่ยังไม่ได้นอน
เมื่อวานกลับจากทำงาน
เผลอหลับไปหนึ่งงีบถ้วน
ประมาณ ๒ ทุ่ม
ตื่นเกือบ ๔ ทุ่ม
แล้วก็ยาวมาจนบัดนี้
จริงแล้วเคยอ่าน เจมส์ จอยซ์
เมื่อนานมาแล้ว
โดยเฉพาะเรื่อง "ผู้ล่วงลับ"
ก็เคยอ่านที่แยกพิมพ์ต่างหากเมื่อกาลครั้งหนึ่ง
ซึ่งจำวันเดือนปีไม่ได้
Dubliners ฉบับสมบูรณ์พูนสุข
ตำนานกล่าวว่า
เขียนเสร็จตั้งแต่ปี ๑๙๐๕
อีก ๑๐ ปีต่อมาถึงได้พิมพ์
เสนอสำนักพิมพ์ไป ๔๐ แห่ง
เขาปฏิเสธทั้งสิ้น
ไม่พิมพ์ให้
ครั้นพอพิมพ์ออกมา
สำนักพิมพ์ไม่จ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์อีก
เพราะมีเงื่อนไขว่า
ถ้าหนังสือขายได้ไม่ถึง ๓๐๐ เล่ม
จะไม่จ่ายตังค์
( ซึ่งอี Dubliners เนี่ย
วางแผงไปหนึ่งปี
ยังขายได้ไม่ถึง ๒๐๐ เล่ม
- ช่างดูเหมือนเป็นชะตากรรม
ที่เรามักคุ้นอะไรเยี่ยงนี้
แม้ใน พ.ศ. นี้
ณ ประเทศนี้ )
นี่แค่น้ำจิ้ม
ชีวิตของเจมส์ จอยซ์
รันทดหดหู่ยิ่งกว่านักเขียนไทยบางคน
(ในขณะนี้) อีก
เพราะเขียนบทกวีออกมาก็ไม่ได้ขาย
เขียนนิยายก็ถูกทารุณกรรมจากรัฐ
เขาเอาไปเผาทิ้งต่อหน้าต่อตา
หึหึ
เอาเป็นว่า
เลิกกล่าวถึงเรื่องทำนองนี้ดีกว่า
พูดไปก็เท่านั้น
เป็นสีสันสนุก ๆ
เพื่อจะได้ตอกย้ำชะตากรรม
นักเขียนไทยบางคน
ที่ชอบทำอะไรพิเรนทร์ ๆ
๕๕๕๕
ฟังส่วนหนึ่งของ "ผู้ล่วงลับ" ก็อาจจะรื่นรมย์
ในยามเช้าของแรกฤดูหนาวเช่นนี้
มากกว่าเรื่องอื่นใด
"...เธอเคยมีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มาแล้วในชีวิต
ชายคนหนึ่งตายเพื่อเธอ
ตอนนี้มันยากที่จะทำให้เขาเจ็บปวดอีกแล้ว
เมื่อคิดถึงว่าบทบาทที่เขา-สามีของเธอ-ได้เล่นในชีวิตของเธอ
ช่างน่าสมเพชเพียงใด เขาจ้องมองเธอขณะกำลังหลับใหล
ราวกับว่าเขาและเธอไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อนในฐานะสามีภรรยากัน
สายตาอันประหลาดของเขาพินิจใบหน้าและเรือนผมของเธอ
และขณะที่เขากำลังคิดถึงว่า ในตอนนั้น
สมัยเมื่อเธอสวยน่ารักในวัยแรกรุ่นดรุณี เธอจะเป็นอย่างไรหนอ
ความสงสารเห็นใจเธอก็ย่างกรายเข้ามาในจิตของเขา
เขาไม่อาจจะกล่าวแม้แต่กับตัวเองได้ว่าใบหน้าของเธอ
หมดความงดงามไปแล้ว หากแต่เขารู้ว่า
มันมิใช่ใบหน้าที่ไมเคิล เฟอรีย์ สู้ยอมตายเพื่อมันอีกต่อไป
บางทีเธออาจจะเล่าเรื่องให้เขาฟังไม่หมดก็ได้..."
The Dead | ผู้ล่วงลับ
ข้าพเจ้าจะไม่เอ่ยถึงสำนวนการแปล
ว่าดีงามหรืออะไรเพียงใด
และจะจบไว้เพียงเท่านี้
เครนะ
Arty K.
02 10 2014