ได้หนังสือภาษาอังกฤษ มา ๓ เล่ม เมื่อวาน
จากร้าน คิโนะ พารากอน
อาจจะเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต
เพราะหะแรกก็ว่าจะขับรถไปพระราม ๙
เพื่อเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง
บังเอิญว่า ฝนตก ออกจาพารากอนไปที่จอดรถในสยามไม่ได้
เลยต้องเข้าร้านหนังสือ
สองเล่ม เป็นหนังสือแปลจากภาษาญี่ปุ่น เป็น อังกฤษ
ข้าพเจ้าผู้ซึ่งอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก
อยากอ่านงานญี่ปุ่นที่ยังไม่ได้แปลไทย
ก็ต้องอ่านภาษาอังกฤษกันไป
แต่ความจริง ๒ เล่ม นี้
มีแปลไทยแล้วเล่มหนึ่ง
แปลนานแล้วด้วย
แต่ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบที่สำนักพิมพ์นี้ทำ
มันดูคร่ำครึอย่างไรพิกล
เลยกะว่าจะอ่านภาษาอังกฤษ
อีกเล่มได้รางวัลทานิซากิ ปี ๒๐๐๑ และเข้ารอบสุดท้าย
รางวัลแมนอาเซียนฯ ปี ๒๐๑๓ ด้วย
ยังไม่มีแปลไทยมั้ง
เพราะไม่คุ้นชื่อ
หรืออาจมีแล้วก็ได้
เห็นว่าแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ไปแล้ว ๑๓ ภาษา
ภาษาอังกฤษเพิ่งพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว
อยากให้มีหนังสือไทยเป็นแบบนี้บ้าง
แปลหลาย ๆ ภาษา
เป็นวรรณกรรมร่วมสมัย
หรืองานที่เพิ่งเขียนกันในห้วง ๑๐ - ๒๐ ปี
แต่จะว่าไป
กว่าที่ เล่มนี้จะแปล
ก็ผ่านไปเป็นสิบปีเหมือนกัน
ว่ากันว่า
ถ้าคุณอ่านหนังสือพิมพ์ คุณจะช้าไป ๑ วัน
ถ้าอ่านนิตยสาร จะช้าไป ๑ เดือน
แต่ถ้าอ่านหนังสือเล่ม จะช้าไป ๑ ปี
ช่างพูดได้ดี
ไม่รู้ใครพูด
๕๕๕๕
อีกเล่มเป็นบทกวีรัก
ชอบเป็นการส่วนตัว
มีเทคนิคเคลือบปกที่พิเศษ
เหมือนเรากำลังจับผ้ากำมะหยี่
แปลกดี
หนังสือกวีเมืองฝรั่ง
มักมีอะไรมาล่อเป็นจุดขายเสมอ
อ่านจบแล้ว
ถ้ามีเวลาจะมาฝอย
Arty K.
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๗
ป.ล. สรุปไม่ได้ไปพระราม ๙ เพราะน้องมีไฟลท์บินพอดี
ป.ล. ๒ ลมหนาวเริ่มมาแล้ว แต่มันคงเหนื่อยอ่อนหรืออย่างไรไม่ทราบ
เลยไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่
ออกไปทางร้อนอบอ้าวเสียมากกว่า