ตอนนี้ ตีห้าสี่สิบ...เอ็ดนาที (แถม)
ยังไม่ได้นอน
เมื่อวานก็ไม่ได้นอน
มานอนเอาเกือบ ๆ ๘ โมงเช้า
แต่เมื่อวานยังได้งีบตอนหัวค่ำ
จริงก็ว่าจะนอน
แต่เผลอไปอ่านบทกวีรักที่เพิ่งซื้อมาเข้า
เลยยาวไป
ว่าจะหยุด ๆ
ก็หยุดไม่ได้
สักที
จนกระทั่งเปิดมันถึงหน้าสุดท้ายนั่นแหละ
T_T
วันนี้เพิ่งเริ่มอ่านนวนิยายญี่ปุ่น เล่มที่เคยฝอยไว้
อ่านไปสามบท
ต้องหยุด
ไม่งั้นจะไม่เป็นอันทำอะไร
(ต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะหยุด)
นั่งจัดข้าวของ (เมื่อคืนนี้--ยังไม่ได้งีบเลย
เมื่อวานยังมีงีบตอนหัวค่ำบ้าง)
เพื่อเอาหนังสือไปฝากตามบูธต่าง ๆ
ในตอนสาย (--หรืออาจบ่าย) ของวันนี้
มีบางอย่างที่ต้องทำเพิ่ม เช่น ป้ายราคา
เพราะมีหนังสือเล่มใหม่
ใบแนะนำหนังสือ ก็ต้องเพิ่มเล่มใหม่เข้าไป
จากนั้นก็จัดเป็นแพ็ค ๆ แบ่งตามรายชื่อบูธต่าง ๆ
ประสบการณ์สอนให้เรารู้ว่า ต้องทำอะไรยังไง
เตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด
ให้สะดวกที่สุด ให้เรียบง่ายที่สุด
และที่สำคัญ ต้องสวยงามที่สุด
เท่าที่ความสามารถหรือคุณลักษณะของมันจะสวยได้
ทำให้ดีที่สุดตามธรรมชาติของมัน
ไม่ฝืนธรรมชาติที่มันต้องเป็น
เราไม่อาจเรียกร้องให้ช้างมีลายเหมือนเสือได้
แม้ว่าลายของเสือจะสวยงามเท่าใด
เช่นเดียวกับที่เราไม่อาจบังคับให้เสือมีงา
แม้ว่างาช้างจะสวยสักเพียงไหน
การดำรงชีวิตเพียงลำพังเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม
ข้าพเจ้าก็คุ้นชินกับมันมาตั้งแต่เด็ก
ข้าพเจ้าแยกห้องนอนคนเดียวตอนอายุ ๙ ปี
จากนั้นก็นอนคนเดียวตลอด
ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว
ทำอะไรคนเดียว
อาจมีช่วงเวลาสั้น ๆ
ไม่ถึงสี่ปีเต็มด้วยซ้ำ
ที่ใช้ชีวิตโดยมีคนอื่นเข้ามาบ้าง
แต่นั่นก็เป็นของชั่วคราว
บางคนกล่าวไว้ว่า
"ตอนไม่เคยมีใคร ก็ไม่เป็นไร
แต่พอได้เคยมี
มันก็ต้องมีต่อไปตลอด
ถ้าขาด ก็ต้องหามาเติม
คนที่เคยอยู่คนเดียวได้
พอไม่ได้อยู่คนเดียวสักระยะหนึ่งแล้ว
กลับมาอยู่คนเดียวอีก
จะอยู่ไม่ได้"
แต่นั่นไม่ใช่ข้าพเจ้า
ผู้ซึ่งเคยคุ้นกับความโดดเดี่ยว
ข้าพเจ้ามีความสุขดีที่อยู่คนเดียว
ไม่รู้สึกสูญเสียอะไรไป
แค่เสียความรู้สึกนิดหน่อย
กับความปลิ้นปล้อน
และเจ้าเล่ห์เพทุบายของกิเลสมนุษย์
ความน่าชังของความโลภมาก
ไม่รู้จักพอ
ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าเกลียดชังมนุษย์
เพราะมนุษย์ผู้โง่งม
ย่อมตกเป็นเหยื่อของตัณหาอยู่ร่ำเรื่อย
การอยู่คนเดียวไม่ได้ทำให้เหงาหรือว้าเหว่
พูดตามความสัจจริง
การอยู่กับคนอื่นมากเกินไปเสียอีก
ที่ทำให้เกิดความรำคาญ
ข้าพเจ้ามักจะรำคาญอะไรที่มันอึกทึก
หรือวุ่นวายเสมอ
ไม่ชอบในความวุ่นวาย
ชอบอยู่เงียบ ๆ
หากต้องการพูดคุย
เราก็พูดคุยกับสมุดบันทึกของเรา
เรื่องมันก็จบเพียงเท่านี้
ข้าพเจ้าคิดว่า
ความรักที่ได้มอบให้
แด่ใครสักคน
คงเป็น...
ความรักครั้งสุดท้าย
จะไม่มีอื่นใดอีกแล้วนอกจากนี้
คนเราควรมีคนที่เรารักเพียงคนเดียว
คนที่เรารักเขาเมื่อแรกได้ยินชื่อ
คนที่เรารัก
เมื่อแรกพบ
เรามีคนที่เรารักก็พอแล้ว
และเขาก็ไม่จำเป็นต้องรักเรา
เป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข
ไร้อาภรณ์ของความมืดบอด
เหมือนอย่างที่ "ศรีบูรพา" ว่า
"ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก"
อย่างไรก็ตาม
หากชีวิตยังดำเนินต่อไปในวันข้างหน้า
และหากจะมีอื่นใดเข้ามา
จะเป็นคนดีหรือคนธรรมดา หรือใครคนไหน
ข้าพเจ้าก็คงไม่อาจยอมรับ
ไม่ยุ่งเกี่ยว
ไม่ขอมีความรักชนิดนี้
กับผู้ใดอีก
ตราบนิรันดร์
ธัชชัย ธัญญาวัลย
14 ตุลาคม 2557