ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

หนี หนี่ หนี้


มีผู้บอกข้าพเจ้าว่า

ข้าพเจ้าควรเลิกเขียนหนังสือ

และออกบวชได้แล้ว

ข้าพเจ้าจึงตอบกลับไปว่า

คุณก็มาใช้หนี้ให้ผมสิ

พูดให้สุภาพมากกว่านี้หน่อยก็คือ

มึงก็มาใช้หนี้ให้กูสิ

555

ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแต่เป็นเรื่องจริงจัง

ตอนอายุ 27 ปี  ข้าพเจ้ามีหนี้สิน

ราว ๆ  13  ล้านบาท

ย้ำว่า  13  ล้านบาท  ไม่ใช่  13  บาทเฉย ๆ  

เป็นหนี้ของข้าพเจ้าล้วน ๆ  

ประมาณ 12.3 ล้าน  นอกนั้นเป็นหนี้เพื่อคนอื่น

ตอนนี้ข้าพเจ้าอายุ 29  ปี

หนี้สินข้าพเจ้าลดลงแล้ว

เหลือที่ต้องชำระอยู่อีกประมาณ  2.5  ล้านบาท

และหากโชคดี  ข้าพเจ้าจะมีหนี้เพิ่มอีก  ประมาณ  

0.5  ล้านบาท

หากโชคร้าย  หนี้ส่วนนี้ก็หายไป

ส่วนนี้เป็นหนี้อันเนื่องมาจากคดีแพ่ง

ซึ่งตอนนี้จบสิ้นศาลอุทธรณ์  และกำลังจะเข้าสู่

ศาลฎีกา  

และข้าพเจ้ารับประกันไม่ได้ว่า

ศาลจะตัดสินอย่างไร

เพราะถูกผิดในทางแพ่งนั้น

คาดเดายากเหลือทน


ทุกวันนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า

ทำไมข้าพเจ้าต้องทำงานหลายอย่างนัก

เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้นั่นเอง

ถ้าหากว่า  เห็นข่าวหน้าหนึ่ง

เกี่ยวแก่การลักหมีแพนด้า

แล้วปรากฏใบหน้าข้าพเจ้าอยู่ด้วย

ก็โปรดอย่าสงสัยว่า  นั่นคือข้าพเจ้าจริงหรือไม่

และข้าพเจ้าทำไปเพื่ออะไร...

...เพราะต้องการปลดหนี้นั่นเอง

 555

ถ้าหน้าด้านกว่านี้หน่อย

อยากจะไปขอเขาออกรายการ  ปลดหนี้  

ให้รู้แล้วรู้รอดเหมือนกัน 


จะอย่างไรก็แล้วแต่

ข้าพเจ้าไม่วิตกทุกข์ร้อนเรื่องหนี้สินเหล่านี้มากนัก

รวมทั้งเรื่องคดีอะไรนั่นด้วย

ไม่ใช่ข้าพเจ้าเป็นจำพวกตายด้านอะไร

เพียงแต่ข้าพเจ้าคิดเล่น ๆ  ว่า

หากข้าพเจ้าตายไปเสียได้

หนี้ก็คงตายตามข้าพเจ้า

เพราะหนี้แต่ละอย่างมีประกันเอาไว้เรียบร้อย

รวมทั้งประกันชีวิตของข้าพเจ้าเอง

555


แท้แล้วหนี้เป็นกรรมพันธุ์อย่างหนึ่ง

หากที่บ้านเราหรือพ่อแม่เราถนัดในการเป็นหนี้

เราก็จะเป็นหนี้ไปด้วยกัน

จำความได้  เกิดมาไม่ถึงสิบปี

ที่บ้านก็เป็นหนี้มหาศาล

อาจจะเป็นเพราะข้าพเจ้าเกิดมาก็ได้

เลยเป็นหนี้

ข้าพเจ้าอาจจะเป็นกาลกิณีของครอบครัว

ทำให้ครอบครัวต้องเป็นหนี้

555

แต่ข้าพเจ้าก็คิดเอาอย่างเข้าข้างตัวเองว่า

มันก็กรรมของทุกคน

อย่างไรก็ตาม

ข้าพเจ้าก็เห็นหนี้สินเหล่านั้นลดลงไปเรื่อย ๆ  

ตามกาลเวลา

การมีหนี้ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรนัก

และมีหนี้บางประเภทที่ข้าพเจ้าเห็นว่า

เป็นหนี้ที่ดี


เช่น  

๑. หนี้บัตรเครดิต

มันไม่ใช่ความประเสริฐดอกหรือที่มีคนเอาเงินมาให้เราใช้ก่อน

แล้วเราค่อยจ่ายเขาทีหลัง

ถ้าพูดทำนองการค้าการขาย

หนี้บัตรเครดิตนี้

เทียบได้กับพวก  ลูกหนี้การค้า  อย่างนั้นเลยทีเดียว

คือ  เอาของมาก่อน  เงินจ่ายทีหลัง

เป็นสภาพคล่องที่ดีมาก  แม้จะแค่หนึ่งเดือนก็ตามที

มันจะเสียอยู่อย่างเดียวสำหรับหนี้ประเภทนี้

คือ  ถ้าเราจ่ายมันไม่ตรงเวลา

เพราะดอกเบี้ยแพงนัก

หรืออีกอย่างหนึ่งคือ  เอามันไปกดเงินสด

เพราะจะเสียค่าธรรมเนียมกดเงินซึ่งโขอยู่

๒. หนี้ผ่อนสินค้า 0%

อันนี้ใครจะว่าไม่ดีก็แล้วแต่  

แต่ข้าพเจ้าว่าดี

มันไม่ดีหรอกหรือ

เราได้สินค้ามาใช้  โดยไม่ต้องใช้เงินมากมายอะไร

แถมราคาก็เท่ากับราคาปกติ  เขาไม่ได้คิดเราเพิ่มเสียหน่อย

เท่าไหร่ก็เท่านั้น

แค่แบ่งจ่ายเป็นเดือน ๆ  

สำหรับคนเงินเดือนมาก ๆ  ดียังกับได้เปล่า

๓. หนี้ลูกหนี้การค้า

ประมาณว่า  เอาของมาขายก่อน  แต่ยังไม่จ่ายตังค์

อะไรเทือกนี้

มันไม่ดีได้อย่างไร

หนี้พวกนี้  ไม่มีดอกเบี้ย

ของมาแล้ว  เอาไปขายสามเดือนหกเดือนค่อยจ่ายเงินผู้ผลิต

ใครคิดว่าไม่ดีก็บ้า

เอาเงินมาหมุนทำกิจการค้าขาย

ใครก็ต้องอยากได้อย่างนี้ทั้งนั้น

เพราะสภาพคล่องมันเยอะ

ขยายกิจการได้มากและเร็ว


๓ ประการนี้เป็นหนี้ที่ดีตามหลักของข้าพเจ้า

ใครว่าไม่ดีก็แล้วแต่

ส่วนหนี้แบบอื่น ๆ  ไม่ดีทั้งสิ้น

เพราะ  ต้องเสียดอกเบี้ย

ซึ่งจะว่าไปแล้วดอกเบี้ยนี้

น่าจะดีอยู่กรณีเดียวเท่านั้น

คือ  กรณีที่มันเป็นของเรา

นอกนั้นอย่าได้พูดกันเลย

555


Arty K.
18 03 2557