ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

ข้าวเม่าคลุกและดอกมะลิหน้าบ้าน


เมื่อไม่กี่วันก่อน

ช่วงท้ายเดือนตุลาคม

ได้มีโอกาสกลับบ้าน

เนื่องจาก

สาเหตุหลายประการด้วยกัน

ประการแรก

ที่สำคัญอย่างยิ่ง

ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องกลับไป

เพราะว่ายายไม่สบาย

ไปหาหมอก็ไม่ได้ความ

แท้แล้วเรื่องอย่างนี้

ข้าพเจ้าพอจะเข้าใจอยู่บ้าง

ว่ายายเป็นโรคอะไร


อาจจะเข้าข่ายว่าเป็นโรคเครียดอันเนื่องมาจากความชรา

คนแก่จะมีความเครียดสูง

หากต้องประสบภาวะหลาย ๆ  อย่างกระทันหัน

หรือประสบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหวนคืน

เช่น

เพื่อนบ้านอายุคราวเดียวตายโดยพร้อมเพรียงกัน

หรือทยอยตายตกตามกันไปเรื่อย ๆ  

หรือญาติพี่น้องทยอยเคลื่อนไปสู่ภพใหม่

โดยเฉพาะพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน

ลูกหลานที่รักไม่อยู่บ้าน

มีปัญหาคับข้องใจกับคนในครอบครัว

แล้วไม่มีที่ระบายออก

เหงา  ว้าเหว่

กิจวัตรประจำวันถูกเปลี่ยน

อย่างสิ้นเชิงและไม่มีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมอีก

เช่น  เคยปลูกผักสวนครัว

แต่ที่ดินบริเวณดังกล่าว

ถูกเอาไปปลูกบ้านใหม่

แล้วไม่ได้ปลูกผักอีก

เป็นต้น

ยายของข้าพเจ้ามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต

นั่นทำให้กิดภาวะเครียดในผู้สูงอายุ

เมื่อจิตใจถูกกระทบกระเทือน

ก็จะส่งผลต่อร่างกาย

โดยตรงที่สุด

ระบบทางเดินอาหารก็จะรวนเร

ยิ่งประกอบกับความชราของร่างกายด้วยแล้ว

ก็จะยิ่งรวนเรหนักกว่าคนหนุ่มสาว


พี่สาวยายบ้านข้าง ๆ  กัน

ได้จากไปเมื่อปีก่อน

ข้าพเจ้าเรียกว่า

ยายเฒ่า

ยายเฒ่าป่วยด้วยโรคคนชรามานาน

ทั้งเบาหวาน  ความดัน  ตามัวตาพร่า

ผิวหนังเหี่ยวย่น

ข้าพเจ้ากลับบ้านก็มักไปเยี่ยมยายเฒ่าเสมอ

ความจริงข้าพเจ้าชอบไปเยี่ยมเยียนคนแก่

คนแก่จะดีใจที่ลูกหลานไปหา

แสดงความห่วงใย

พูดคุยด้วย

เล่าความหลังถึงอดีตอันอบอุ่น

ผิวของยายเฒ่าเหี่ยวย่น

จนเมื่อจับดึงขึ้นมาแล้ว

ก็คงสภาพอยู่อย่างนั้น

เหมือนคราบหนังงูที่เจ้าตัวลอกเอาไว้ตามสุมทุมพุ่มไม้

ข้าพเจ้าก็ชอบจับแขนจับมือ

สัมผัสถึงมือที่ด้านและแข็งกร้าน

ผ่านชีวิตมานานวันนานปี

ยายเฒ่ารำลึกความหลังว่า

สมัยก่อนก็เคยจับหนังของยายเฒ่าของตัวเองเล่นเหมือนกัน

ยายเฒ่าของยายเฒ่าอาจจะหมายถึงแม่ของยายเฒ่า

ก็คือทวดของข้าพเจ้า

หรืออาจจะหมายถึงยายของยายเฒ่า

ก็คือแม่ของทวดของข้าพเจ้า

ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่า

แม่ของทวดนั้น

เรียกว่าอะไร

อาจจะไม่มีชื่อเรียก

หรืออาจจะไม่มี

เพราะยายของยายนั้น

และดูห่างเหินกับเรามากจนเกินไป

และคงเป็นไปได้ยาก

ที่เราจะมียายของยายเหลืออยู่ให้เห็นเป็นตัวเป็นตน

เมื่อไม่มีให้เห็นก็ไม่จำเป็นต้องเรียก

จึงไม่มีชื่อเรียก?


ข้าพเจ้าคิดว่า

อนาคตกาลภายหน้า

จะมีหลานมาดึงหนังที่แขนเล่น

เหมือนที่ยายเฒ่าเคยทำกับยายเฒ่าของตัวเอง

และข้าพเจ้าเคยทำกับยายเฒ่าของข้าพเจ้าหรือไม่

มันอาจเป็นประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอย

หรืออาจไม่ซ้ำรอย


ยายของข้าพเจ้าเป็นลูกคนสุดท้อง

และดูเหมือนว่า

จะเป็นคนที่ตาทวดรักกว่าใครอื่น

เพราะได้ที่ดินเรือกสวนไร่นามากที่สุด

และยายของข้าพเจ้า

ก็ยังไม่แก่พอที่หนังจะเหี่ยวได้ขนาดนั้น

ข้าพเจ้าเรียกยายว่า

แม่ใหญ่

ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า

grandmother

ถ้าฝ่ายพ่อ

จะเรียกว่า

แม่ย่า

แต่ปู่และย่าของข้าพเจ้านั้น

ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเกิดมาเสียอีก


บ้านถูกปฏิสังขรณ์ใหม่

เนื่องจากแม่ถูกหวย

เจ้ามือหวยก็คือ

ข้าพเจ้าเอง

ข้าพเจ้าแบ่งเงินเก็บส่วนหนึ่ง

และเงินจากการทำมาค้าขายส่วนหนึ่ง

ให้แม่ทำบ้านใหม่

แม่เลือกเอากระเบื้องที่ราคาแพงที่สุดในอำเภอปูทั้งบ้าน

ใหม่ ๆ  จะมีเพื่อนบ้านแห่มาชมกระเบื้องลายงาม

บ้านถูกต่อขยายไปข้าง ๆ  

ตรงที่เคยปลูกผักสวนครัว

บริเวณนี้ถูกใช้ปลูกผักสวนครัว

ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก ๆ  

ตั้งแต่เป็นบ้านไม้โบราณ

พอสร้างบ้านใหม่

พื้นที่ตรงนี้ก็ยังอยู่

พอสร้างบ้านใหม่อีก

เพราะบ้านเก่าขายไป

ตรงนี้ก็ยังอยู่

แต่การสร้างครั้งสุดท้าย

ไม่เหลือพื้นที่ตรงนี้อีกแล้ว

พื้นที่ตรงอื่นของสวน

ไม่เหมาะที่จะปลูกผัก

เนื่องจากมีร่มเงามากเกินไป

สวนหลังบ้านเต็มไปด้วยต้นไผ่

พื้นล่างของป่าไผ่ไม่เหมาะแก่การปลูกพื้นทั้งมวล

เพราะรากไผ่จะชอนไชอยู่ทั่วไป

พร้อมแย่งอาหารพืชที่เราปลูก

แถมยังร่มครึ้ม

เมื่อแดดส่องไม่ถึง

พืชผักก็โตไม่ได้


บริเวณปลูกผักของยายอันตรธานไป

พร้อมกับการเกิดขึ้นของเฟสใหม่ของบ้าน

แม่และพ่อนั้นพอใจอยู่มาก

และยายก็คงพอใจ

แต่ความย้อนแย้งย่อมเกิดขึ้น

กิจวัตรที่เคยทำมาเป็นเวลาเกือบสามสิบปี

กำลังจะหมดลง

พืชผักที่เคยปลูกจะไม่ได้ปลูก

ยายพยายามปลูกลงบนกระถาง

ซึ่งก็ถูกคัดค้านโดยแม่และพ่อ

ด้วยเหตุว่า

มันทำลายภูมิทัศน์อันสวยงามของหน้าบ้าน

ทั้งแม่ก็คงเห็นว่า

ยายแก่แล้ว

ไม่อยากให้ทำอะไรมาก

แต่ธรรมดาของชีวิต

เมื่อเราเดินตามรอยเก่า ๆ  ซึ่งเป็นวัตรปฏิบัติอยู่เสมอ

แล้วไม่ได้ทำ

การพังทลายของบางสิ่งบางอย่าง

ก็เกิดขึ้นในจิตใจ

ยายดันทุรังจะปลูกเสียให้ได้

พยายามหาเหตุผลมาอ้างเสมอ

และมักจะใช้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือในการต่อรอง

เช่น

แฟนข้าพเจ้าชอบกินผัก

มาบ้านแล้วไม่ได้กินผักจะกินข้าวไม่ได้

เป็นการใช้เครื่องมืออย่างอ้อม ๆ  

และยายคิดว่าจะได้ผล

เพราะหากข้าพเจ้าออกปาก

แน่นอนว่า

กระถางปลูกผักย่อมจะแห่แหน

เหาะเหินมาเรียงรายอยู่หน้าบ้านโดยพร้อมเพียงกัน

ประหนึ่งต้องมนต์


เมื่อข้าพเจ้าต้องจากบ้าน

เพื่อเผชิญโลกกว้าง

ตามแบบฉบับแห่งอัศวิน

หรือตามแบบแห่งโยคาวจร

ผู้เป็นอนาคาริก

ละทิ้งบ้านเรือนไว้ด้านหลัง

แสวงหาหนทางสว่างแห่งชีวิต

ยายผู้เลี้ยงดูข้าพเจ้ามาแต่เด็ก

ก็ยังมีน้องสาวของข้าพเจ้า

เป็นความอบอุ่นหัวใจ

เป็นคนคอยพูดคุย

รองรับอารมณ์

หรืออื่น ๆ  

หากเมื่อน้องสาวข้าพเจ้าเติบโต

และต้องจากบ้านมาอยู่ต่างถิ่น

ก็เป็นเหตุให้ที่บ้านเงียบเหงา

มีเพียงหมาตัวเดียว

ที่อยู่เป็นเพื่อน

ให้ยายได้ดุด่าว่ากล่าว

จับไปอาบน้ำบ้างอะไรบ้าง





















สิ่งหนึ่งที่เมื่อใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว

จะปรากฏให้เห็น

นั่นก็คือ

ข้าวเม่า

บางที่ข้าวเม่ามีตลอดปี

เพราะทำนาปรัง

แต่บางที่ก็มีแค่ช่วงก่อนจะเก็บเกี่ยวเท่านั้น

เนื่องจากแม่เป็นแม่ค้า

มีคอนเน็คชั่นเยอะ

จึงรู้จักแหล่งผลิตสินค้าดี ๆ  มากหลาย

และรู้ว่า

กระบวนการผลิตเป็นอย่างไร

ข้าวเม่าที่ถูกทำเกือบสำเร็จแล้ว

ขั้นตอนสุดท้าย

จะมีการใส่สี

ให้เขียวสดน่ากิน

แต่เรารู้ว่า

นั่นคือสิ่งที่ทำลายคุณค่าของความเป็นธรรมชาติ

เวลาแม่ไปซื้อ

ก็จะสั่งให้เขาเอาแบบไม่ต้องใส่สี

ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้

ข้าพเจ้ายังไม่เคยกินข้าวเม่าคลุกที่ไหน

อร่อยเท่าที่บ้าน

มะพร้าวน้ำหอมหลังบ้าน

มีคนมาขอ

ยายก็ไม่ให้

เพราะจะเก็บไว้ทำข้าวเม่าคลุกให้ข้าพเจ้ากิน

เก็บไว้จนแก่

บางทีขนุน

หรืออะไร

ที่มันออกลูกอยู่หลังบ้าน

คล้ายจะต้องรอคอยข้าพเจ้ากลับบ้านไปกินมันเสมอ

โดยยายเป็นผู้บงการ

อาจจะไปสั่งผลหมากรากไม้เหล่านั้นด้วยว่า

อย่าเพิ่งสุกอย่าเพิ่งเน่า

ให้หลานฉันกลับมาก่อน

ทุกสิ่งอย่างคล้ายต้องรอข้าพเจ้ากลับบ้าน






ข้าวเม่าคลุกของที่บ้านจะมีสูตรพิเศษ

คือใส่น้ำมะพร้าวเข้าไปด้วย

ข้าวเม่าที่เพ่ิงเอามาใหม่ ๆ  

จากแหล่งผลิตนั้น

จะหอมหวาน

และอ่อนนิ่ม

ไม่เหมือนข้าวเม่าค้างคืน

ที่หากเก็บไม่ดีโดนลมก็แข็งกระด้าง

กลิ่นของข้าวใหม่ก็ไม่มี




ไม่แค่ต้นไม้ใบหญ้า

หากบ้าน

ก็รอคอยให้ข้าพเจ้าไปจัด

ข้าวของหลายอย่าง

ที่เป็นประวัติศาสตร์ของชีวิต

ข้าพเจ้าก็เก็บไว้ที่บ้าน

ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เคยใช้เล่าเรียนตั้งแต่เด็ก ๆ  

สิ่งของทั้งหลายที่ผู้คนเคยให้มา

ภาพถ่าย

สมุดไดอารี่กว่าสามสิบเล่ม

ปากกา

ของเล่น

ภาพวาด

สมุดจดสมัยเรียนหนังสือตั้งแต่ชั้นไหน ๆ  

mind map  ที่เคยทำไว้

สมบัติบ้าที่ข้าพเจ้าชอบสะสม

งานศิลปะทั้งหลาย

ต้นฉบับงานเขียนที่เป็นลายมือ

ล้วนถูกเก็บไว้

แม้กระทั่งเสื้อขาด ๆ  

ที่ปะแล้วปะอีก

อายุกว่าสิบปี

ที่ข้าพเจ้าเพิ่งเลิกใส่เมื่อไม่นานนี้เอง

เพราะมันใส่ไม่ไหวแล้ว

(ก็เอาไปทำผ้าเช็ดพื้นต่อไป)





มีบางตู้หนังสือถูกซื้อมาใหม่

เพราะหนังสือมันมากเกินตู้เก่า ๆ  ที่มีอยู่

และล้นออกมาจากห้องพระ

เข้ามาในบ้าน

มีหลายอย่างในภาพ

ที่ต้องการคำอธิบาย

หากข้าพเจ้าจะเว้นไว้ก่อน




หากอะไรที่เปลี่ยนไป

ก็ยังมีข้อยกเว้น

มะลิหน้าบ้าน

เป็นมะลิซ้อน

ปลูกไว้นานนม

พยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มันหลายหน

แต่มันก็อดทนสู้แตกกิ่งแตกก้านใหม่เรื่อย ๆ  

จนคนที่จะเอาไปออกไปหมดความพยายาม

เลยต้องทิ้งไว้อย่างนั้น

ตัดแต่งให้เข้าที่

เช้า ๆ  

แม่ออกแม่ขาวไปวัด

ก็ขอเเด็ดไปบูชาพระ






ธัชชัย  ธัญญาวัลย
๒  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖