ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

นวัตกรรมการทำฟันที่(อาจ)จะพลิกโลก


ความจริงมันไม่ใช่อะไรใหม่

แต่มันก็ใหม่

พอสมควร

จำได้เลือนลางว่าสมัยเรียนก็มีเรื่องนี้แว่วเข้าหูมาบ้าง

แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก

แต่มนุษย์จำพวกบ้าวิชาการ  บ้าอ่านเจอร์นัล  

อาจจะคุ้นเคยมากกว่าข้าพเจ้า


อันเนื่องมาจากเมื่อหลายเดือนก่อน

ได้มีโอกาสคุยกับหมอฟันญี่ปุ่นคนหนึ่ง

และได้ฟังเกี่ยวกับทัศนคติบางประการ

และวิธีรักษาบางประเภท


ปกติเวลาฟันผุมาก ๆ  และทะลุโพรงประสาทฟัน

ก็จะได้รับการรักษารากฟัน  หรือถอนฟันซี่นั้นออก

แล้วแต่ว่าคนไข้จะเลือกแบบไหน

ตามเวลาและทุนทรัพย์

ซึ่งก็ต้องบอกว่า  การรักษารากฟันนั้น

ใช้เวลามาก  และค่าใช้จ่ายก็มากตาม

ค่าใช้จ่ายที่มากไม่ได้มีแต่ค่ารักษารากฟัน

หากมีค่าอื่น ๆ  เพิ่มเข้ามา

เช่น  ค่าทำเดือยฟัน  และค่าบูรณะหลังรักษารากฟัน

ซึ่งโดยส่วนมากควรจะทำเป็นครอบฟัน

เพราะจากประสบการณ์แล้ว

ไอ้ที่รักษารากฟันไว้ไม่ครอบ

ก็ต้องเดินทางไปสู่จุดจบคือการถอนฟันแทบทั้งสิ้น


หมอญี่ปุ่นคนนี้แกบอกว่า

ไม่ได้ถอนฟัน  และไม่ได้รักษารากฟันมาหลายปีแล้ว

ไม่ใช่เพราะเลิกทำฟันไปทำงานอย่างอื่น

แต่แกมีเทคนิคใหม่

ที่ใช้รักษาฟันผุทะลุประสาทฟัน

โดยไม่ต้องรักษารากฟัน

ซึ่งเป็นวิธีที่ง่่ายมาก  แต่การทำนั้นไม่ง่ายเลย


เมิื่อไม่กี่วันก่อน

ข้าพเจ้าได้สนทนากับรุ่นพี่คนหนึ่ง

ซึ่งเป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง

เกี่ยวกับการรักษารากฟัน

และได้สอบถามถึงวิธีการที่ว่า

เพราะจะพูดไปแล้ว

วิธีการนี้

มันก็น่าจะเกี่ยวข้องกับทันตแพทย์สาขานี้เป็นอย่างมาก

ประการแรกเลยก็คือ

หากวิธีนี้มันทำสำเร็จขึ้นมาจริง ๆ  

ไอ้ที่เรียน ๆ  รักษารากฟันกันมา

ก็เกือบเท่ากับศูนย์  และเป็นสูญ  แน่ ๆ  

นั่นหมายความว่า

หมอรักษารากฟันก็เตรียมตัวตกงานกันได้เลย

หึหึ


จับใจความได้ว่า

ไอ้วิธีการแบบนี้

ยังไม่แพร่หลายนัก

แต่ก็เริ่มทำกันบ้างแล้ว

และในคณะทันตแพทย์ก็มีการเริ่มทำบ้าง

แต่แบบที่หมอญี่ปุ่นทำ

ออกจะโอเว่อร์ไปหน่อย

คือ  ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่  ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น



ตามโปรโตคอลแล้ววิธีการนี้เขาให้ฉีดยาชา

แต่จากการที่ข้าพเจ้าได้ถามหมอญี่ปุ่น

แกบอกว่า  ไม่ฉีด  ถ้าฉีดจะไม่รู้ว่าคนไข้ยังปวดอยู่หรือเปล่า

เพราะถ้าปวด  ต้องทำให้จนกว่าจะไม่ปวด

ไม่งั้นไม่หาย

ก็ฟังดูเป็นเหตุเป็นผลดี

แต่จะดีกับคนไข้หรือเปล่า  ไม่ทราบ

เพราะปกติฟันที่ผุทะลุประสาทฟัน  มันก็ปวดอยู่แล้ว

ยิ่งไปกรอเอาฟันผุออกไปอีก

ไม่ต้องพูดถึง  กะอีลำพังอยู่เฉย ๆ  ยังปวด

เอานิ้วเคาะยังปวดเลย

แล้วไปทำแบบอีตาหมอญี่ปุ่นนี่เข้าไป

มีหวังคนไข้หายหมด  (คือหายไปจากคลินิก

ไม่ใช่หายปวดฟัน)


ข้าพเจ้ามานอนนึกเล่น ๆ  ว่า

ถ้าไอ้การรักษาฟันผุทะลุประสาทฟันแบบนี้

มันเกิดประสบความสำเร็จ

ทำได้ทุกเคสขึ้นมาจริง ๆ  

หรืออย่างน้อยก็คือทำได้มากกว่า  80%  ขึ้นมา

มันคงเป็นอะไรที่เปลี่ยนโลก

ไปอย่างมาก

โดยเฉพาะโลกของทันตแพทย์ทั้งหลาย

(และโลกของคนไข้ด้วย

ค่าใช้จ่าย  หรืออะไรต่าง ๆ  ก็อาจจะน้อยลง

กว่าการรักษารากฟัน--มั้ง)


อนึ่ง  วิธีการของมันเมื่อพิจารณาแล้ว

ก็ไม่ขัดกับหลักการรักษารากฟัน

(ซึ่งก็คือหลักการทางการแพทย์อย่างหนึ่ง

ว่าด้วยการรักษาโรคโดยทั่วไปนั่นแหละ)

เพราะการรักษารากฟัน

มันมีเอมอยู่ว่า

ต้องเอาเชื้อโรคออก(ให้หมด)

ซึ่งวิธีการนี้ก็มีเอมเดียวกัน

คือ  เอาเชื้อโรคออก

โดยการใส่ยาลงไปฆ่าเชื้อโรคให้ตาย

ซึ่งการใส่ยาลงไปนี่แหละ

คืออะไรที่จะต้องศึกษากันต่อไป

ว่ามันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน

เป็นอันตรายหรือเปล่า

ใช้ได้กับเคสไหนบ้าง


จากการสนทนาเรื่องนี้กัน

(ทั้งจากหมอไทยและญี่ปุ่น)

ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า

วิธีนี้ดีมาก

หากใช้กับฟันเด็ก

หรือฟันที่เพิ่งเริ่มจะทะลุประสาทฟัน

ซึ่งอีตาหมอญี่ปุ่นนี่แกก็ทำแต่ฟันเด็กเป็นส่วนมาก

และที่ทำหลาย ๆ  เคสก็เป็นฟันน้ำนม


ไอ้ที่พูดมาก็ไม่ใช่อะไร

เผื่อบางคนจะคิดว่าข้าพเจ้าเลิกทำฟันแล้ว

เลิกสนใจในศาสตร์ด้านนี้แล้ว

หรือเปล่า

555

ก็เลยเล่าให้ฟังคร่าว ๆ  ก็แล้วกัน

ว่ามันมีไอ้พวกนี้อยู่

ในญี่ปุ่นเริ่มทำกันมากขึ้นแล้ว

(คือมากขึ้นนี่หมายถึง  ในจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น

มีหมอฟันที่ทำไอ้อย่างนี้อยู่ประมาณหนึ่งหรือสองคนต่อจังหวัดเท่านั้น  -ฮา-  อันนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจริงมากน้อยเท่าไหร่  เขาว่ามาอย่างนี้ก็เล่าต่ออย่างนี้)

พูดถึงเรื่องหมอฟันญี่ปุ่น

ก็นึกไปถึงความแตกต่างกันของหมอฟันญี่ปุ่นกับหมอฟันไทย

เอาไว้ว่าง ๆ  วันไหน

จะมาเล่าให้ฟังก็แล้วกันครับ


ธัชชัย  ธัญญาวัลย
๑๖  ตุลาคม  ๒๕๕๖




ไม่มีความคิดเห็น: