ความจริงมันไม่ใช่อะไรใหม่
แต่มันก็ใหม่
พอสมควร
จำได้เลือนลางว่าสมัยเรียนก็มีเรื่องนี้แว่วเข้าหูมาบ้าง
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก
แต่มนุษย์จำพวกบ้าวิชาการ บ้าอ่านเจอร์นัล
อาจจะคุ้นเคยมากกว่าข้าพเจ้า
อันเนื่องมาจากเมื่อหลายเดือนก่อน
ได้มีโอกาสคุยกับหมอฟันญี่ปุ่นคนหนึ่ง
และได้ฟังเกี่ยวกับทัศนคติบางประการ
และวิธีรักษาบางประเภท
ปกติเวลาฟันผุมาก ๆ และทะลุโพรงประสาทฟัน
ก็จะได้รับการรักษารากฟัน หรือถอนฟันซี่นั้นออก
แล้วแต่ว่าคนไข้จะเลือกแบบไหน
ตามเวลาและทุนทรัพย์
ซึ่งก็ต้องบอกว่า การรักษารากฟันนั้น
ใช้เวลามาก และค่าใช้จ่ายก็มากตาม
ค่าใช้จ่ายที่มากไม่ได้มีแต่ค่ารักษารากฟัน
หากมีค่าอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา
เช่น ค่าทำเดือยฟัน และค่าบูรณะหลังรักษารากฟัน
ซึ่งโดยส่วนมากควรจะทำเป็นครอบฟัน
เพราะจากประสบการณ์แล้ว
ไอ้ที่รักษารากฟันไว้ไม่ครอบ
ก็ต้องเดินทางไปสู่จุดจบคือการถอนฟันแทบทั้งสิ้น
หมอญี่ปุ่นคนนี้แกบอกว่า
ไม่ได้ถอนฟัน และไม่ได้รักษารากฟันมาหลายปีแล้ว
ไม่ใช่เพราะเลิกทำฟันไปทำงานอย่างอื่น
แต่แกมีเทคนิคใหม่
ที่ใช้รักษาฟันผุทะลุประสาทฟัน
โดยไม่ต้องรักษารากฟัน
ซึ่งเป็นวิธีที่ง่่ายมาก แต่การทำนั้นไม่ง่ายเลย
เมิื่อไม่กี่วันก่อน
ข้าพเจ้าได้สนทนากับรุ่นพี่คนหนึ่ง
ซึ่งเป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง
เกี่ยวกับการรักษารากฟัน
และได้สอบถามถึงวิธีการที่ว่า
เพราะจะพูดไปแล้ว
วิธีการนี้
มันก็น่าจะเกี่ยวข้องกับทันตแพทย์สาขานี้เป็นอย่างมาก
ประการแรกเลยก็คือ
หากวิธีนี้มันทำสำเร็จขึ้นมาจริง ๆ
ไอ้ที่เรียน ๆ รักษารากฟันกันมา
ก็เกือบเท่ากับศูนย์ และเป็นสูญ แน่ ๆ
นั่นหมายความว่า
หมอรักษารากฟันก็เตรียมตัวตกงานกันได้เลย
หึหึ
จับใจความได้ว่า
ไอ้วิธีการแบบนี้
ยังไม่แพร่หลายนัก
แต่ก็เริ่มทำกันบ้างแล้ว
และในคณะทันตแพทย์ก็มีการเริ่มทำบ้าง
แต่แบบที่หมอญี่ปุ่นทำ
ออกจะโอเว่อร์ไปหน่อย
คือ ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่ ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
ตามโปรโตคอลแล้ววิธีการนี้เขาให้ฉีดยาชา
แต่จากการที่ข้าพเจ้าได้ถามหมอญี่ปุ่น
แกบอกว่า ไม่ฉีด ถ้าฉีดจะไม่รู้ว่าคนไข้ยังปวดอยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าปวด ต้องทำให้จนกว่าจะไม่ปวด
ไม่งั้นไม่หาย
ก็ฟังดูเป็นเหตุเป็นผลดี
แต่จะดีกับคนไข้หรือเปล่า ไม่ทราบ
เพราะปกติฟันที่ผุทะลุประสาทฟัน มันก็ปวดอยู่แล้ว
ยิ่งไปกรอเอาฟันผุออกไปอีก
ไม่ต้องพูดถึง กะอีลำพังอยู่เฉย ๆ ยังปวด
เอานิ้วเคาะยังปวดเลย
แล้วไปทำแบบอีตาหมอญี่ปุ่นนี่เข้าไป
มีหวังคนไข้หายหมด (คือหายไปจากคลินิก
ไม่ใช่หายปวดฟัน)
ข้าพเจ้ามานอนนึกเล่น ๆ ว่า
ถ้าไอ้การรักษาฟันผุทะลุประสาทฟันแบบนี้
มันเกิดประสบความสำเร็จ
ทำได้ทุกเคสขึ้นมาจริง ๆ
หรืออย่างน้อยก็คือทำได้มากกว่า 80% ขึ้นมา
มันคงเป็นอะไรที่เปลี่ยนโลก
ไปอย่างมาก
โดยเฉพาะโลกของทันตแพทย์ทั้งหลาย
(และโลกของคนไข้ด้วย
ค่าใช้จ่าย หรืออะไรต่าง ๆ ก็อาจจะน้อยลง
กว่าการรักษารากฟัน--มั้ง)
อนึ่ง วิธีการของมันเมื่อพิจารณาแล้ว
ก็ไม่ขัดกับหลักการรักษารากฟัน
(ซึ่งก็คือหลักการทางการแพทย์อย่างหนึ่ง
ว่าด้วยการรักษาโรคโดยทั่วไปนั่นแหละ)
เพราะการรักษารากฟัน
มันมีเอมอยู่ว่า
ต้องเอาเชื้อโรคออก(ให้หมด)
ซึ่งวิธีการนี้ก็มีเอมเดียวกัน
คือ เอาเชื้อโรคออก
โดยการใส่ยาลงไปฆ่าเชื้อโรคให้ตาย
ซึ่งการใส่ยาลงไปนี่แหละ
คืออะไรที่จะต้องศึกษากันต่อไป
ว่ามันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
เป็นอันตรายหรือเปล่า
ใช้ได้กับเคสไหนบ้าง
จากการสนทนาเรื่องนี้กัน
(ทั้งจากหมอไทยและญี่ปุ่น)
ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า
วิธีนี้ดีมาก
หากใช้กับฟันเด็ก
หรือฟันที่เพิ่งเริ่มจะทะลุประสาทฟัน
ซึ่งอีตาหมอญี่ปุ่นนี่แกก็ทำแต่ฟันเด็กเป็นส่วนมาก
และที่ทำหลาย ๆ เคสก็เป็นฟันน้ำนม
ไอ้ที่พูดมาก็ไม่ใช่อะไร
เผื่อบางคนจะคิดว่าข้าพเจ้าเลิกทำฟันแล้ว
เลิกสนใจในศาสตร์ด้านนี้แล้ว
หรือเปล่า
555
ก็เลยเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ก็แล้วกัน
ว่ามันมีไอ้พวกนี้อยู่
ในญี่ปุ่นเริ่มทำกันมากขึ้นแล้ว
(คือมากขึ้นนี่หมายถึง ในจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น
มีหมอฟันที่ทำไอ้อย่างนี้อยู่ประมาณหนึ่งหรือสองคนต่อจังหวัดเท่านั้น -ฮา- อันนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจริงมากน้อยเท่าไหร่ เขาว่ามาอย่างนี้ก็เล่าต่ออย่างนี้)
พูดถึงเรื่องหมอฟันญี่ปุ่น
ก็นึกไปถึงความแตกต่างกันของหมอฟันญี่ปุ่นกับหมอฟันไทย
เอาไว้ว่าง ๆ วันไหน
จะมาเล่าให้ฟังก็แล้วกันครับ
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น