ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

การบริหารคลินิกทำฟันให้ล้มเหลว ๓ : จงโกงค่าจ้าง (แม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม)


พูดไปใครเขาจะเชื่อ

ว่าวงการการทันตแพทย์จะมีเรื่องพรรค์นี้อยู่ด้วย

เพราะได้ชื่อว่าหมอแล้ว

คำว่าคุณธรรมจริยธรรม

รวมถึงคำชนิดที่ว่า  "จรรณยาบรรณ"  นั้น

มันติดแนบอยู่กับวิชาชีพอย่างแยกไม่ออก

จนบางครั้ง

ผู้คนให้ความคาดหวังราวกับว่า

หมอนี้คือพระสงฆ์องค์เจ้าผู้จะปัดเป่าความทุกข์ทั้งมวลแก่เขา

เป็นคนดีเลิศประเสริฐศรีหาที่ตำหนิติต้องมิได้

อย่างนี้เลยทีเดียว

เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น

การเป็นหมอมันมีรากฐานมาจากการให้เปล่าให้ฟรี

คือคนเป็นแพทย์เป็นหมอยากลางบ้านสมัยโบราณนั้น

เขาก็ไม่ได้เรียกร้องเอาอะไรเป็นล่ำเป็นสันเหมือนกับปัจจุบัน

มีเท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น

ไม่มีก็ไม่เอา

หรือบางทีเอาก็เป็นค่าครูค่าคายอะไรไป

แล้วหมอก็ไม่ได้ประกอบอาชีพหมอโดยถ่ายเดียว

เขาก็มีเรือกสวนไร่นาทำมาหากินไปด้วย

มันผิดแปลกไปจากสมัยนี้

ความเป็นอาชีพ  และความแยกแยะหน้าที่ของพลเมืองตามแบบฉบับตะวันตกนั้น

มันเข้ามาแทนสังคมเกษตรกรรมแบบสยามไปเสียสิ้น

จึงทุกอย่างต้องมีผลตอบแทนให้สมประโยชน์กัน

(ความจริงสมัยนี้ก็มีไม่น้อยที่หมอมีอาชีพอื่นคู่ไปด้วย  แต่ก็อย่างว่า

ค่ารักษาค่าแรงค่ายามันก็ต้องมีเพราะถูกกำหนดมาแล้ว)


แต่บางครั้งหรือหลาย ๆ  ครั้ง

ด้วยอาศัยว่าตนรู้อยู่ฝ่ายเดียว

ก็เกิดการเรียกร้องเอาจนเกินไปบ้าง

แต่ที่เกินไปนั้น

ชนบางหมู่เหล่าก็มีเงินจ่าย

เพราะแลกกับบริการที่ดี

จึงเกิดมีลักษณะของการพาณิชย์เข้ามาเกี่ยวเต็มรูปแบบ

อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน

เพราะมันเป็นไปตามยุคสมัย

และเป็นไปตามระบบระเบียบทุนนิยมเขา


แต่หากแท้ที่จริงแล้ว

คำว่าคุณธรรมก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

ไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตาม

อย่างน้อย ๆ

ก็ต้องมี  "ความซื่อสัตย์"  ต่อกัน


มีคลินิกแห่งหนึ่ง

ข้าพเจ้าเคยไปรับอยู่แทนวันหนึ่ง

สมัยก่อนข้าพเจ้ามักใช้เวลาว่าง

ในการตระเวนไปทำคลินิกที่ประกาศรับหมออยู่แทน

เพราะอยากเข้าไปดูคลินิกอื่น ๆ  ว่า

เขามีส่วนดีส่วนเสียอย่างไร

จะได้เอามาปรับปรุงคลินิกตัวเอง

ไอ้คลินิกที่ว่านี่ก็ตั้งอยู่ย่านคนรวย

คือเต็มไปด้วยคนต่างชาติ  ประเภทเกาหลีญี่ปุ่น  ว่างั้นเถอะ

ไปทำแทนเสร็จแล้ว

ก็ตกลงกันว่าจะจ่ายเงินให้ต้นเดือนหน้า

(ไปทำกลางเดือน)

พอต้นเดือน

ก็โทรไปถาม

น้องที่รับโทรศัพท์ก็บอก

ขอเลื่อนเป็นกลางเดือน

รอกลางเดือนก็แล้ว

โทรถามอีกก็บอก

ปลายเดือน

พอปลายเดือนก็บอกเดือนหน้า

เลื่อนไปเรื่อย

จนข้าพเจ้าคิดสาปแช่งมันอยู่ในใจว่า

ขอให้มึงเจ๊งทีเถอะ

อีห่าคลินิกจัญไรอย่างนี้

โทรไปถามอีกที

คลินิกกำลังจะเลิกกิจการแล้วค่ะ

นั่นไง

ข้าพเจ้ายังมีแก่ใจไปถามเขาอีกว่า

อ้าว  คลินิกเจ๊งแล้วน้องจะไปทำงานที่ไหน

(ฮา)

คลินิกนี้เจ๊งไปจริง ๆ

ซึ่งไม่ใช่ด้วยเหตุผลโกงค่าจ้างหมออย่างเดียวแน่ ๆ

เพราะคลินิกจะล้มเหลว

มันมีหลายปัจจัย

เรียกอย่างภาษาทางการแพทย์ว่า

มันเป็นกลุ่มอาการที่มี  multifactorial  factor

( แปลให้งงกันว่า  พหุปัจจัย   อิอิ )

การโกงกันเป็นปัจจัยหนึ่ง


แท้แล้วข้าพเจ้าไม่ฉลาดรอบคอบเอง

เพราะมีหลายคนไปเขียนประจานในเว็บ

ว่าคลินิกนี้เมื่อไหร่จะจ่ายเงินซักที

รอมาหลายเดือนแล้ว

ข้าพเจ้าดันเสือกไปเห็นหลังจากที่ไปทำงานให้เขามาแล้ว

ซวยไป

แต่ก็เป็นประสบการณ์

ราคาไม่แพงมากถ้าพูดถึงเรื่องเงิน

แต่ที่แพงกว่ามันเป็นเรื่องของการเสียรู้มากกว่า

หลัง ๆ  มาข้าพเจ้าเวลาจะไปอยู่แทนที่ไหน

ก็ต้องตกลงกันก่อนว่า

รับเงินหลังเลิกงานนะ

ไม่ใช่งก  ไม่ใช่โลภ

แต่ป้องกันการโกง

ซึ่งการป้องกันการโกงนี่  มันเป็นการป้องกันไม่ให้เขามาก่อกรรมทำชั่วกับข้าพเจ้าด้วย

เพราะข้าพเจ้าไม่อยากไปเป็นเจ้ากรรมนายเวรใคร

เรียกง่าย ๆ  คือ  กูไม่อยากเกิดมาเจอมึงอีกแล้ว  ว่างั้นเหอะ

ทุกคนทำงานก็ต้องได้ผลตอบแทนตามอัตภาพ

ถ้าไม่ให้หลังเลิกงานก็ไม่ต้องไปทำ

คลินิกทำฟันเยอะแยะในประเทศนี้

ที่ต้องการหมอไปอยู่แทนในบางวันหรือหลาย ๆ  วัน

เรื่องเหล่านี้เราต้องกล้าพูดกับเจ้าของร้าน

กล้าตกลงกันให้เรียบร้อย

บางคนหงิม  หรือกระดาก  ไม่ต้องกระดากในสิ่งที่ไม่ควรกระดาก

เพราะถ้าไม่พูด

มันจะเสียทั้งแรง  ทั้งเงิน  และเสียใจ

พลอยทำให้รู้สึกหมดความศรัทธาในคุณค่าความเป็นมนุษย์อีกเสียด้วย

แล้วบางแห่งบางร้าน

เจ้าของร้านบางคนจะดัดจริตนิดหน่อย

(ความจริงก็ไม่นิดหรอก  มันเทียบชั้นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าเลยก็ว่าได้)

พูดถึงเรื่องเงินเป็นไม่ได้

ประมาณว่า

"อย่าพูดเรื่องเงินเลยมันหยาบคาย"

"เราให้กันอยู่แล้วแหละ  ไม่โกงหรอก"

ไอ้ประเภทนี้แหละตัวดี  ตัวขี้โกง

พึงระวัง

คือ  ถ้ามันหยาบคายมาก

แล้วมึงเก็บเงินคนไข้ทำเตี่ยอะไรวะ

แล้วที่มึงเอามาสะสม  เอามาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค  เอามาปรนเปรอกามราคะทั้งหลายนี่

มันไม่ใช่เงินหรอกหรือ

คือถ้าคิดว่ามันเป็นความหยาบคาย  เป็นของหยาบคาย

ก็แปลว่ามึงนั้นชื่นชอบความหยาบคายล่ะสิ

สะสมความหยาบคาย  ใช้จ่ายความหยาบคาย  ปรนเปรอบำรุงบำเรอตน

กินผลิตผลของความหยาบคาย  กระนั้นหรือ

แล้วยิ่งกว่านั้นมันก็หยาบคายกันทั้งโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลของมึงด้วย

เพราะเงินทั้งหมดที่มึงหามานั้นมันเลี้ยงมึงทั้งโคตร  ลูกเมียพี่น้องของมึง

พ่อแม่มึงในหลุมศพ  มึงก็เอาความหยาบคายแลกเปลี่ยนปันส่ง

อ้างเป็นบุญเป็นกุศลไปให้เขาอย่างนั้นหรอกเหรอ


อีกคลินิกหนึ่งที่เจอ

ก็มีลักษณะโกง

คือตอนแรกก็สัญญากันว่าจะให้เงินประกันเท่านั้นเท่านี้

พอทำมาทำไปคนไข้น้อย

(เพราะมันมีปัจจัยอื่นที่ส่งเสริมให้เกิดความล้มเหลวอยู่ในคลินิกของมันมากต่อมาก)

อยู่ดี ๆ  ก็มาลดเงินประกันเสียดื้อ ๆ  โดยการเอาสีข้างเข้าแถอย่างนี้ก็มี

จะบอกจะแจ้งเพื่อแก้ไขตกลงกันก่อนสักหน่อยก็หาไม่

บางคนมันไม่ได้ด้วยเล่ห์มันก็เอาด้วยกล  ไม่ได้ด้วยมนต์มันก็ขู่ก็ข่มเหงรังแกเอากะเรา

เพราะเงินอยู่ในมือมันนี่

เจ้าของร้านบางคนมันก็บอก

ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมานี้เป็นต้นไป

จะเอา  ๓๐  หารจำนวนเงินประกันทั้งเดือนนะ

ไม่ใช่หารด้วยจำนวนวันตามจริง

ดื้อ ๆ  อย่างนี้ก็มี

พอเราบอกว่า  ขอเป็นเดือนหน้าได้ไหมครับ

เพราะเป็นข้อตกลงใหม่ก็น่าจะต้องใช้ในเดือนถัดไป

เขาก็เป็นเดือดเป็นแค้น

พูดกระแทกแดกดัน

"คุณไม่ต้องมาพูดอย่างนี้  ที่ผ่านมาคุณก็ได้ไปเยอะแล้ว"

แหม

ไอ้เปรตแหกนรก

ช่างกล้าคิดกล้าพูดออกมาได้

เรื่องเอาเปรียบผู้อื่นนี่มึงถนัดเสียจริงนะ



บางครั้งก็โกงเล็กโกงน้อย

แกล้งคิดเงินผิดมั่ง

แกล้งหักค่าโน่นค่านี่มั่ง

หาเหตุผลว่าหมอไม่ทำงานบางอย่างมั่ง

ทั้งที่มันไม่มีงานจะให้ทำ

หรือมันมีงานให้ทำ

แต่อุปกรณ์โกโรโกโส (เดี๋ยวจะว่าด้วยเรื่องอุปกรณ์โกโรโกโสกันในภาคต่อไป)

ใครจะไปเอาชีวิตเขาเข้าเสี่ยง

เพราะมันไม่ได้หมายถึงชีวิตชีวิตเดียว

คือไม่ได้หมายถึงแต่ชีวิตคนไข้ที่ต้องเสี่ยง

มันหมายถึงชีวิตหมอด้วย

ดังนั้น

คลินิกที่มีแนวโน้มจะล้มเหลว

นอกจากทันตแพทย์จะต้องรู้

เจ้าของกิจการต้องเรียนรู้ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้แล้ว

คนไข้ก็ต้องรู้ด้วย

เพราะคลินิกที่มีการกระทำโน้มเอียงไปในทางล้มเหลว

ก็คือคลินิกทันตกรรมชั้นเลว

(แม้ว่าในหลักฐานทางราชการจะเขียนว่า  คลินิกทันตกรรมชั้น  ๑  ก็ตาม)

แน่นอนว่า

มันมีมาตรฐานควบคุมกำกับอยู่

แต่ถามว่า

คนคุมมาตรฐานนั้นคือใคร

คนตรวจคือใคร

คลินิกบางที่เปิดมานาน

สั่งสมอำนาจวาสนาบารมีมานาน

จน สสจ.  ยังคร้ามเกรงไม่กล้าตรวจ

แล้วความมีมาตรฐานมันจะอยู่ที่ไหน

ถ้ามันทำคลินิกด้วยความโลภเต็มหัวใจ

แล้วไม่ต้องสงสัยว่ามันจะดีต่อผู้ใช้บริการ

ขนาดเพื่อนร่วมวิชาชีพคนทำงานร่วมกันแท้ ๆ  มันยังโกงได้

มันจะไม่โกงคุณล่ะหรือครับ  คุณคนไข้


เจ้าของร้านบางคนมันก๋ากั่น

มันแก่มันเฒ่ามันเจ้าเล่ห์

ยิ่งหัวหงอกกิเลสยิ่งพอกพูน

บางครั้งมันก็บอกว่า

"โอ๊ย!  เรื่องเงินทองเล็ก ๆ  น้อย ๆ  แค่นี้  ผมไม่โกงคุณหรอก

ขอกันกินมากกว่านี้  อย่าเอามาพูดเลย"

อันนี้ในกรณีที่เราจับได้ว่ามันโกง  คือไม่ยุติธรรม

แหงแซะ

เล็ก ๆ  น้อย ๆ  มึงไม่โกงหรอก

สิบบาทยี่สิบบาทมึงไม่โกง

น้ำหน้าหนาด้านอย่างมึงจะโกงที  ต้องโกงเป็นพัน  เป็นหมื่น

ไอ้สลัด


คลินิกดังว่านี้

มักจะต้องประกาศหาหมอบ่อย ๆ

บางครั้งเอาวงเงินมาล่อ

สังเกตได้เลย

เพราะคนเขารู้กันทั่ววงการ

ไม่มีใครจะไปทำงานกับมันแล้ว

นอกจากบางคนหลงไปเพราะไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีเท่านั้น

วงการทันตแพทย์นี่มันใหญ่ซะเมื่อไหร่

ที่ไหนดีที่ไหนไม่ดีเขาก็รู้กันหมด

แล้วบางคนที่ยังทำอยู่ที่คลินิกดังกล่าว

ก็เป็นเพราะว่า  ยังหาที่ใหม่ไม่ได้เท่านั้นเอง

พอมีที่ไป

ก็ไม่มีใครอยู่ด้วย

ต้องโดดเดี่ยวโดยลำพังตราบจนสิ้นลมหายใจนั่นแหละ



อันนี้คือการบริหารคลินิกทำฟันให้ล้มเหลว

ความจริงเรื่องการโกงคนไข้นี้

มีหลายแง่มุมหลายกรณีมาก

เอาไว้ว่าง ๆ

จะได้เล่า

คราวนี้เอาเฉพาะเรื่องโกงค่าจ้างหมอด้วยกันไปก่อน

พอเป็นออร์เดิร์ฟ  เรียกน้ำย่อย

เอวัง



ดิษฐ์  จรัส
๒๒  เมษายน  ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น: