ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

ภัยธรรมชาติ

ช่วงนี้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อย

โดยเฉพาะแผ่นดินไหว

เมื่อวานข้าพเจ้าก็รู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว

เพราะอยู่ตึกชั้น ๒๗



เวลาเกิดภัยธรรมชาติขึ้นมาแต่ละทีผู้คนก็หวาดวิตก

และมักจะนำไปเกี่ยวโยงกับวันสิ้นโลก

ความจริงวันสิ้นโลกมีจริงหรือไม่

ตอบว่า มี

แต่จะเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้หรือไม่

ตอบได้เลยว่า ไม่

เพราะอายุแห่งพระพุทธศาสนานั้น

จะยืนยาวถึงห้าพันปี

นี่ก็แค่สองพันกว่าปี

ความจริงเป็นสองพันห้าร้อยห้าสิบสี่ปี

หรือไม่

เป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก

เพราะเรานับ พ.ศ. ผิดกันเรื่อยมา

ตามจริงต้องนับเอาวันวิสาขบูชาเป็นวันเริ่มหรือครบรอบ

และต้องนับแบบจันทรคติ

แต่ตอนนี้ปั่นป่วนไปหมด

เพราะไปถือสุริยคติ

และไปถือเอาวันที่ ๑ มกราคม เป็นวันครบรอบ

ทำให้การนับ พ.ศ. มีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก


ว่ากันต่อเรื่องภัยธรรมชาติ

ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องปกติที่มีมาแต่ไหนแต่ไร

มีมนุษย์มันก็มี ไม่มีมนุษย์มันก็มี

ที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือ

มนุษย์ไปคิดเอาเองว่า

เห็นมั้ย ธรรมชาติลงโทษ

หรือ เห็นมั้ย ธรรมชาติเอาคืน

ความจริงไม่มีใครลงโทษใคร

และไม่มีใครเอาคืนใคร

มีแต่การเป็นไปตามเหตุปัจจัย

ก็เท่านั้นเอง


เพราะมีความคิดว่า เป็นเรา เป็นของเรา

เรื่องการเอาคืน หรือเรื่องการลงโทษจึงมีขึ้น



ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกว่าน้ำจะท่วมโลก

เพราะอย่างไรเสีย ในมหากัปนี้

น้ำไม่ท่วมโลกแน่นอน

เพราะกัปนี้จะถูกทำลายโดยไฟ

ซึ่งเรียกว่า ไฟบรรลัยกัลป์

กัลป์ก็คือกัปหรือกัปป์ นั่นเอง

เป็นคำเดียวกัน

แต่คนละภาษา

กัปฺป เป็น บาลี

กัลฺป เป็น สันสกฤต

แล้วไฟบรรลัยกัลป์นี้จะเกิดก็หลังสมัยพระศรีอาริย์ไปแล้ว

สิ่งที่น่ากลัวระหว่างสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม

กับสมัยพระศรีอาริย์ไม่ใช่น้ำท่วมโลกหรือแผ่นดินไหวหรือไฟล้างโลก

แต่เป็น "สงคราม" จากน้ำมือมนุษย์เองต่างหาก

เพราะเมื่อหมดสมัยพระศาสนาของพระสมณโคดม

มนุษย์จะทำสงครามห้ำหั่นกันมากขึ้น

จากนั้นอายุมนุษย์สั้นลง

คนดีจะหนีเข้าป่า คนบ้าจะครองเมือง

เมื่อสงครามยุติและมนุษย์โลกเร่ิมสำนึกถึงความเสื่อมถอย

ก็จะพากันทำความดีมากขึ้น

อายุมนุษย์ก็จะมากขึ้น จนกระทั่งเป็นอสงไขย

จากอสงไขยถึงอสงไขย เรียกว่า อันตรกัป

ในอันตรกัปใหม่ เมื่อมนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยลดลงมาถึง

แปดหมื่นปี

เมื่อนั้นพระศรีอาริย์ก็จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

อันนี้เรียกว่าเป็นวัฏจักรของโลก

โลกก็จะหมุนไปอย่างนี้

สิ้นไปจากสมัยพระศรีอาริย์ จึงจะเกิดไฟล้างโลกขึ้น

ก็เรียกว่า สิ้นหนึ่งมหากัป หรือบางทีก็เรียก หนึ่งกัป แล้วแต่จะเรียก

ความจริงการสิ้นโลกไม่ได้สิ้นด้วยไฟอย่างเดียว

แต่จะสิ้นด้วยนำ้หรือลมก็ได้

มีในตำราว่า จะสิ้นด้วยไฟกี่ครั้ง ด้วยน้ำกี่ครั้ง ด้วยลมกี่ครั้ง

เป็นวัฏจักรเช่นกัน

ความจริงเรื่องระยะเวลานี้มีรายละเอียดมาก

คร่าว ๆ ก็คือ มหากัปหนึ่งจะมีแยกย่อยเป็น ๔ กัปเล็ก

เรียกว่า อสงไขยกัป (คนละอย่างกับอสงไขยใหญ่)

หนึ่งอสงไขยกัปจะมี ๖๔ อันตรกัป

หนึ่งอันตรกัปคือช่วงเวลาที่มนุษย์มีอายุจากอสงไขยและลดลงไปเรื่อย ๆ จนถึงสิบปี จากนั้นจะเพิ่มขึ้นจากสิบปีจนเป็นอสงไขย เรียกว่า หนึ่งอันตรกัป

ในบรรดาทั้งหมด ๔ อสงไขยกัป จะมีเพียงกัปเดียวเท่านั้นที่มีมนุษย์อยู่ คือ กัปที่ ๔

กัปแรก จะเป็นกัปแห่งการทำลายล้าง

กัปต่อมาจะเป็นกัปแห่งความว่างเปล่า

กัปต่อมาจะเป็นกัปแห่งการก่อร่างสร้างตัว

กัปสุดท้ายจึงจะมีมนุษย์เกิดขึ้น

แต่ละกัปหรืออสงไขยกัปนั้น มี ๖๔ อันตรกัป อย่างที่ว่ามา

อันตรกัปที่เรามีชีวิตอยู่นี้ก็เป็นกัปที่ ๑๒ ของ อสงไขยกัปที่ ๔


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับภัยธรรมชาติ

เพราะภัยธรรมชาติก็คือภัยธรรมชาติ

เป็นเรื่องธรรมชาติ

กลัวภัยสงคราม

และหาทางเลิก "เอาคืน" หรือ "ลงโทษ" กันทางสงคราม

จะดีกว่า


ธัชชัย ธัญญาวัลย
๒๕ ๐๓ ๒๕๕๔






ไม่มีความคิดเห็น: