ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

ว่าด้วยกะหรี่และการอำ

อ่ะ

เอาเรื่องกะหรี่ก่อนละกัน

เรื่องนี้มีหัวข้อว่า

กะหรี่กะการอำ

ความจริงมันก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกันนักหรอก

แต่ผมก็อยากให้มันมาอยู่รวมกัน

อ่านะ

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ผมนึกถึงกะหรี่ขึ้นมา

ทำไมอยู่ดี ๆ นึกถึงกะหรี่

อันนี้ก็ไม่ทราบ

ทราบแต่ว่ากินข้าวอยู่มันก็นึกขึ้นมาซะงั้น

ไอ้กะหรี่นี่อย่าเข้าใจผิดนึกว่าเป็นกะหรี่ที่ไปเที่ยวกันนะครับ

มันเป็นกะหรี่กินนี่แหละ

555+

แต่มันดันสัมพันธ์กับกะหรี่เที่ยว

ด้วยเหตุว่า

สมัยเป็นเด็กหนุ่มน้อย ผมก็ไปทำค่ายที่สระบุรี

สระบุรีนี่ไปบ่อย

เขามีคำพูดกันว่า

นมดี กะหรี่ดัง

ไปค่ายนี่เขาก็จะแบ่งกันเป็นกลุ่ม ๆ

แต่เราไม่เรียกว่ากลุ่ม

ตามโบราณประเพณีของจุฬาฯนี่เขาจะเรียกว่าบ้าน

มันมาจาก บ้านรับน้อง

คือเวลามีงานรับน้องใหม่เข้ามหาวิทยาลัย

จะต้องมีการแบ่งน้องเป็นบ้าน ๆ

เรื่องบ้านรับน้องนี่ก็มีเรื่องเล่ากันเยอะ

เอาไว้เล่าคราวหน้า เมื่อผมนึกได้ละกัน ( อันนี้ไม่สัญญาว่าจะเล่า เดี๋ยวผิดสัญญา

แต่ความจริงก็คือ ผมไม่สบายใจ เวลารับปากว่าจะเล่าอะไรแล้วยังไม่ได้เล่าเนี่ย

มันรู้สึกมีอะไรค้างคานะครับ )

เพราะถ้าเล่าไปนี่ ไม่ได้เล่าเรื่องกะหรี่แน่ครับ

555+

เข้าเรื่องกะหรี่กันต่อ

พอแบ่งเป็นบ้าน ๆ

เขาก็ต้องมี "เพลงบ้าน"

และมี "ท่าบ้าน"

ซึ่งก็แล้วแต่จะตั้งจะแต่งกันไป

อันนี้เป็นการละลายพฤติกรรมชนิดหนึ่ง

ตามหลักการทำกิจกรรมนันทนาการและสันทนาการ

เพราะ แต่ละคนจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ

ทำให้รู้จักมักคุ้นกันมากขึ้น

พอดีที่ไปคราวนั้นเป็นการไปสัมนา

คำว่าสัมนาภาษาทางการ

ภาษาบ้าน ๆ ก็เรียก ไปเที่ยว

555+

เขาก็ให้แต่งเพลงบ้าน ท่าบ้าน

เนื่องด้วยกระผมนี่ก็เก๋ากึ๊กแล้วแหละ

ในเรื่องการทำค่ายนี่

เรียกว่า มันอยู่ในกระแสเลือด

ทำมาทุกอย่างแล้ว

เรื่องแบบนี้ จิ๊บ ๆ

และเรื่องจิ๊บ ๆ นี่แหละ

ด้วยความมีมานะว่า เราเป็นตัวเก๋า

ดังนั้น จะให้เพลงบ้านมันธรรมดาก็ไม่ได้

ต้องให้มันเลิศหรูหน่อย และติดหู ชนิดที่ว่า

เป็นสิ่งที่เอาไปอ้างถึงกันอีกนานนั่นแหละครับท่าน

ก็แต่งกัน

ไปสระบุรี

เราก็ต้องแต่งเพลงกะหรี่

ผลก็ประสบความสำเร็จครับ

เพลงของบ้านเราเป็นที่กล่าวอ้างถึง

และทุกคนชอบ

555+



ทีนี้มาถึงเรื่องกะหรี่กิน

อันเลื่องชื่อของสระบุรี

เขาขายกันเป็นล่ำเป็นสันล่ะครับที่สระบุรีเนี่ย

เรียกว่า จะไม่ซื้อก็ได้

เพราะเวลาเราเดินผ่านร้านหนึ่งเขาก็จะให้เราชิมชิ้นหนึ่ง

ก็ชิมไปเรื่อย ๆ สัก 5 ร้านนี่ก็อิ่มแล้ว

555+

แต่เนื่องจากคนเรามันเป็นโรคขี้เกรงใจ

มันก็ต้องซื้อ

ถ้าชิมแล้วไม่ซื้อมันไม่สบายใจ

ก็มีคนถามผมว่า

พี่ ๆ ทำมันเขาเรียกขนมนี่ว่ากระหรี่ปั๊บ

ด้วยสัญชาตญาณแห่งความเป็นนักอำประกอบกับสัญญาความทรงจำ

ผมก็บอกว่า

( ทำสีหน้าจริงจังหน่อย คนจะเชื่อถือ และตอบเร็ว ๆ ทันทีที่ถาม เขาจะคิดว่าเรารู้จริง 555+ )

มันเป็นอย่างนี้

สมัยก่อนเนี่ย เขาไม่เรียกว่ากะหรี่ปั๊บหรอก

เหรอคะพี่ ( คนถามมันก็ทำท่าจะเชื่อจริง ๆ )

เออสิ

แต่ก่อนมันไม่มีชื่อเรียก

ตอนทำแรก ๆ เขาเอาไว้ทำยาเสน่ห์

เอาไปให้ผู้หญิงกิน

มันแรงมาก

กินปุ๊บ คนที่กินก็เป็นกระหรี่ปั๊บ

เขาก็เลยเรียกว่า กะหรี่ปั๊บ

555+

คนถามเสียศูนย์ไปชั่วขณะครับท่าน

ความจริงคนที่เขารู้จักผมพอสมควรจะรู้ว่า

ผมเป็นนักอำ

เรื่องอะไรที่ฟังเนี่ย เชื่อไม่ค่อยได้หรอก


หรือเรื่องบางเรื่องก็อย่ามาถามผม

ถ้ามันเป็นเรื่องไร้สาระหรือไม่อยากตอบ

เช่นตอนที่ผมไปเปลี่ยนชื่อมาใหม่ ๆ

ก็มีคนมาถามว่า

ทำไมเปลี่ยนชื่อ

ผมขี้เกียจตอบมาก คำถามแบบนี้

ผมก็เลยถามกลับ

จะเอาแบบธรรมดา หรือ แบบพิสดาร

เอาธรรมดาก่อน เขาว่า

เปลี่ยนไปงั้นแหละ

แล้วแบบพสดารล่ะ

เปลี่ยนให้หมาถาม

555+

จากนั้นก็ไม่ค่อยมีคนถามผมอีกเลยเรื่องเปลี่ยนชื่อ

ไอ้มุกนี้ผมได้มานานละ

เรื่อง หมาถามเนี่ย

สมัยก่อน ตอนอยู่ประมาณ ม.5 นี่แหละ

ไปเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ

เขาก็พาไปเดินป่า

ดูต้นไม้อย่างนั้นอย่างนี้กัน

เขาก็ชอบถามกันว่า นี่ต้นอะไร

ทีนี้มีพี่คนหนึ่ง

เขาไม่รู้ไง

ก็มีคนไปถามเขา

พี่ ๆ นี่ต้นอะไร

ด้วยความเป็นพี่แม้ไม่รู้มันก็ต้องมีมาดหน่อย

พี่แกก็ถามกลับ

จะเอาแบบธรรมดาหรือพิสดาร

คนถามมันก็คงนึกว่า เอ แบบธรรมดานี่ก็คงเป็น ชื่อสามัญ

แต่ถ้าแบบพิสดารนี่ คงเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ อะไรทำนองนี้

นึกได้ดังนี้ก็

เออ เอาชื่อธรรมดาก่อนละกัน แล้วค่อยพิสดาร

เขาก็บอกว่า เอาแบบธรรมดา

"ไม่รู้"

แล้วแบบพิสดารล่ะ

"ต้นหมาถาม"

555+


เรื่องธรรมดากับพิสดารนี่ผมก็ใช้บ่อย

สมัยก่อนเข้าปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาก็ต้องแนะนำตัวกัน

ก็ต้องบอกชื่อเล่น

ความจริงผมไม่มีชื่อเล่นจริง ๆ หรอกครับ

แต่เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนชอบเรียกว่า อาตี้

ผมก็เลยถือเอาว่าชื่อนี้เป็นชื่อเล่น

พอแนะนำตัวเขาก็ชอบถามว่า

ชื่ออาตี้นี่มันแปลกดี

แปลว่าอะไรเหรอ

ผมก็ถามว่า

จะเอาแบบธรรมดาหรือพิสดารหรือพิสดารมาก

เขาก็บอกว่า

ธรรมดา

"แปลว่าหล่อ"

แล้วพิสดารล่ะ

"หล่อมาก"

แล้วพิสดารมากล่ะ

"หล่อหาที่สุดมิได้"

555+

คนถามมันก็หมั่นไส้เอา

เพื่อนผมก็ถามว่า

ทำไมผมชอบพูดให้ถูกด่า

ผมก็บอกว่า

พูดไปงั้น

บางทีผมไม่อยากพูด มีคนมาถาม ผมก็จะตอบกวนตีน ๆ ไป

ถามอะไรไร้สาระ ก็ต้องตอบแบบไร้สาระอย่างนี้แหละครับ


เอาเพลงมาให้ฟังครับวันนี้

ฟังเพลงลูกทุ่งแล้วนึกถึงบรรยากาศสงกรานต์แถวภาคอิสาน

ซึ่งเดี๋ยวนี้นาน ๆ ผมจะได้กลับบ้านที


-สาวกันตรึม ( เพลงนี้เคยเอาลงแล้วมั้งครับ แต่ลงไว้อีก)

-ไก่ตาฟาง

-บังเอิญมีหัวใจ ( เหมือนเคยลงแล้วเหมือนกัน )

-บ่กล้าบอกครู แต่หนูกล้าบอกอ้าย ( version ธรรมดา)

( อันนี้เป็น version พิเศษ ครับ ฮามาก ทำได้ไง เข้ากับหัวข้อการอำมาก 555+ คลิกที่นี่เลย )

-อีกหนึ่งของการอำ ฮากว่าอันที่แล้วอีก 555+ คลิกครับ

-มันต้องถอน

-ดาวมหา'ลัย




เดี๋ยวคราวหน้าพูดเรื่องกะหรี่เที่ยวก็แล้วกันครับ
ARTY
07/03/2552

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เฮีย.....ได้ใจมาก บทความเน้....

artyhouse กล่าวว่า...

จริงดิ

อิอิ