ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

ว่าด้วยเรื่องการนอน


เอาหละครับพี่น้อง วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมพอมีเวลาว่างอยู่บ้าง

แต่ก็นิดเดียว

เดี๋ยวก็จะต้องไปไหนต่อไหนอีกละ

มันไม่ค่อยมีเวลาพักหรอกครับ

ที่จริงอยากนอนและนอน มาก ๆ

แต่ทำไงได้



ที่จริงผมค้นพบมานานแล้วว่า

การนอนมาก ๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

และถ้าเรานอนไปเรื่อย ๆ มันก็จะไปของมันเรื่อย ๆ

คือก็อาจจะแล้วแต่คน บางคนอาจจะนอนมากไม่ได้ นอนไปเรื่อย ๆ แล้วปวดหัว

แต่ผมไม่เป็น ผมนอนไปได้เรื่อย ๆ

มันจะเป็นอย่างนี้

คือ ยิ่งนอนก็ยิ่งเหนื่อยนะครับ

มันจะลุกยากขึ้นไปเรื่อย ๆ

555+



บางครั้งเราอาจจะคิดว่าตัวเองนอนไม่พอขอนอนมาก ๆ ในวันหยุด

แต่ความจริงมันนอนพอแล้วหละครับ

( ผมเมื่อยมือจริง ๆ ตอนนี้ 555+ เพราะเพิ่งพิมพ์ต้นฉบับไป )

เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่เรากำลังจะหลับ เป็นช่วงเวลาช่วงสั้น ๆ นั้น

เป็นช่วงที่มีเก็บสะสมพลังเรียบร้อย

ถ้าเราไม่นอนต่อหลังจากนั้น เราก็สามารถลุกขึ้นมาทำงานได้ปกติ เหมือนการนอนพักผ่อนมานาน ๆ เหมือนกัน

อันนี้หลวงพ่อวิริยังค์เล่าให้ฟัง และผมก็พบว่า มันน่าจะเป็นความจริง

พิจารณาจากเวลาอ่านหนังสือสอบ แล้วมันไม่ค่อยได้พัก หรือ ไม่นานมานี้

ความจริงก็คือเมื่อวานนี้แหละครับ

ผมต้องสาธยายเรื่องราวและพูดให้คนคนหนึ่งมาทดลองนั่งสมาธิ

และเชื่อในพระพุทธศาสนาให้ถูกต้อง

ใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงคืนกว่า ๆ ไปจนถึงตี 5

จากนั้นผมก็ไปอาบน้ำ และมานั่งสมาธิ ก่อนจะเข้านอน

ปรากฎว่า ตอนเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำไปที่คณะได้ตามปกติ

และนอกจากนี้ผมก็เคยมีประสบการณ์การพักงีบเดียวมาแล้วหลายครั้ง

แม้กระทั่งประสบการณ์ของการไม่นอนก็เคยมาแล้ว

อันนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ดี

แต่มันอาจจะล้าหน่อยเท่านั้น

แต่คิดว่า ถ้ามีการฝึกจิตดี ๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร



เท่าที่ทราบมา

หลวงปู่ทั้งหลายที่เป็นพระอริยเจ้า ท่านจะนอนประมาณ 3-4 ชั่วโมง

อย่างหลวงปู่มั่น ท่านจะจำวัดประมาณ 5 ทุ่ม ตื่นตี 3

และจากการสังเกต ผมพบว่า

พระที่ท่านปฏิบัตินั้น จะมีการตื่นนอนประมาณตี 3 กันเป็นปกติ

อันนี้เป็นการสังเกตและรวบรวมข้อมูลของผมเอง

และผมก็เคยตื่นตี 3 มาแล้ว

ได้ผลดีครับ

ทีนี้ข้อที่ต้องแก้ไขก็คือ พยายามนอนเร็ว ๆ หน่อย

พยายามอย่านอนสองกั๊ก

บางคนกลับมาถึงบ้านประมาณ 5 -6 โมงเย็นก็ล้มลงนอน ตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน

แล้วมันจะนอนไม่หลับ

ไปอย่างหลับอีกทีประมาณ ตี 4 ตี 5 แล้วก็มาง่วงนอนตอนกลางวัน

อันนี้ไม่สมควรทำครับ

ผมเคยทำมาแล้ว ชีวิตเสียสมดุล ไม่ดี

ถ้ากลับมาถึงบ้านหรือที่พักแล้วง่วงนอน ให้ไปอาบน้ำ แล้วออกจากห้องนอนไปหาอะไรทำซะ

มันจะไม่ง่วงอีก จนกระทั่งประมาณ 3-4 ทุ่ม ถ้าผ่านช่วงง่วงนี้ไปแล้วก็จะไม่ง่วงอีกเช่นกัน

จะไปง่วงอีกทีตอนประมาณ ตี 4-5 อย่างว่า

สมัยผมเป็นเด็กนักเรียน ม.ปลาย ต้องอ่านหนังสือหนักมาก เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ผมค้นพบวงจรพวกนี้

เพื่อน ๆ ชอบมาถามว่าอ่านหนังสืออย่างไรไม่ให้ง่วง

ผมก็บอกไป

และอีกอย่างที่ผมค้นพบว่ามันไม่มีประสิทธิภาพก็คือ การอ่านหนังสือไปแล้วหลับแล้วก็ตื่นมาอ่านต่อ

แล้วก็หลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่อย่างนั้น

ไม่เป็นผลดี

ผมเคยลองแล้ว

ถ้าจะให้ดี ง่วงก็นอน นอนให้พอ แล้วมาอ่านจะดีกว่า

ฝึกทำอะไรให้เป็นกิจจะลักษณะ เป็นชิ้นเป็นอันจะดีกว่า ได้ผลกว่าครับพี่น้อง


ทีนี้ผมก็เลยลืมไปแล้วจะพูดเรื่องอะไร เพระฝอยแล้วก็ไหลไปเรื่อย 555+

เดี๋ยวขึ้นหัวข้อใหม่ก็แล้วกัน

ผมลืมไป ผมว่าจะพูดด้วยว่า

ถ้าเราฝืนตัวตื่นมาสักนิด

แล้วไปอาบน้ำตอนเช้า

เราจะหายง่วง แม้เราจะไปด้วยความโงนเงนก็ตาม

คือถ้าเรานอน มันก็จะนอนแช่อยู่นั่นแหละ

พยายามฝืนตัวเองเสียหน่อย

แล้วจะมีเวลามากขึ้นในชีวิตครับ



ธัชชัย ธัญญาวัลย
06/02/2552

ไม่มีความคิดเห็น: