วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ
ถามว่า วันเด็กปีนี้ผมอยากได้อะไร
ตามประสาเด็ก ๆ
ผมอยากได้ความฝันอันล้นเหลือ
ของตัวเอง
กลับคืนมาบ้าง
ใครก็ไม่รู้
ขโมยความฝันของผมไป
วันนี้ผมไม่ได้ทำอะไรมากนัก
นอกจาก งาน และงาน
เป็นงานที่ไม่ชอบนัก
แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียด
ก็คือ การพิมพ์งานนี่แหละครับ
เมื่อวานนี้ เป็นวันสุดท้ายตามกำหนดการที่เราจะต้องไปโรงเรียน
เราไปโรงเรียนกัน 3 วัน
ตั้งแต่วันพุธที่ 7 มกราคม 2552
เพื่อสัมภาษณ์ผู้ปกครองเด็กเกี่ยวกับการกินอาหาร
หมอฟันเกี่ยวอะไรกับการกินอาหารมากนัก
เหอะ ๆ
เวลากินข้าวเอาอะไรเคี้ยวล่ะครับ
อันนี้เป็นวันแรกที่เราไปโรงเรียนกัน
เราไปเช้าพอที่จะเห็นเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ
ผมนึกย้อนดู
นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้เข้าแถว เคารพธงชาติ
ปกติผมเป็นนักเรียนที่ชอบไปโรงเรียน
รู้สึกว่าการขาดเรียนเป็นเรื่องผิดปกติ
และจะรู้สึกไม่ดี
แต่ผมก็ไม่ได้ไปโรงเรียนบ่อยนักตอนเป็นเด็ก
เพราะไม่สบายบ่อย
ทุกวันนี้เวลาไม่สบายแล้วมีน้ำมูก
กลิ่นของมันทำให้นึกถึงตอนที่ตัวเองวิ่งเล่นอยู่ลานบ้าน
ในวันที่ไม่ได้ไปโรงเรียน
แม้กระทั่งกลิ่นยาน้ำเชื่อมของเด็ก ๆ
ก็ทำให้นึกถึงตอนที่ตัวเองป่วยเหมือนกัน
เวลาไม่สบายก็จะนึกถึงพ่อแม่
เวลาไม่สบายพ่อแม่ผมไม่พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล
แต่จะพาไปหาหมอที่คลินิก
และต้องไปที่คลิกนิกเดิมประจำ
หมอก็จำได้
ไปหาคลินิกอื่นผมไม่หาย
ต้องไปหาหมอคนนี้เท่านั้น
ชื่อ หมอสุรพล
เป็นคุณหมอที่ใจดีมาก
เพราะหมอไม่ฉีดยา
ผมก็ไม่เข้าใจ
ทำไมเด็กอื่น ๆ
ถึงร้องไห้เวลาไปหาหมอก็ไม่ทราบ
ผมนี่ เวลาไปหาหมอรีบกระโดดขึ้นเตียงเลย
ชอบ
รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กดี
( มีคนโทรมาทำให้ผมต้องหยุดการรำลึกถึงอดีต ชั่วคราว )
เด็ก ๆ จะชอบยอ
จริง ๆ ครับ
ชอบการยกย่อง
ถ้าเราชมเด็กคนหนึ่งว่าทำอย่างนี้ดี
เด็กอีกคนจะทำตามทันที แล้วเรียกให้เราดูว่า
"นี่ ๆ หนูก็ทำได้" อะไรทำนองนี้
หรือถ้าเราสนใจพฤติกรรมอะไรของเด็กคนหนึ่งเป็นพิเศษ
เด็กอีกคนจะพยายามทำอย่างนั้นบ้าง
เพื่อให้เราสนใจ
ภาพนี้มีชื่อว่า เมื่อข้าพเจ้าเป็นครูอนุบาล
ความจริงเด็ก ๆ ซนมาก
แต่เป็นเด็กที่น่ารักมาก
เด็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ข้าพเจ้าชื่อน้องใบเตย
น้องใบเตยเป็นเด็กที่มีจินตนาการมาก
แต่ไม่ค่อยมาโรงเรียน สาเหตุหนึ่งเพราะพ่อตามใจมาก
ลูกไม่อยากมาก็ไม่ให้มา
ไม่อยากเห็นลูกร้องไห้อะไรทำนองนี้
วันแรกที่เจอกัน
คือวันที่ในรูปถ่ายนี่แหละครับ
น้องใบเตยไม่ยอมออกมาทำกิจกรรมเลย
ไม่ยอมเล่นกับเพื่อน
เพราะเขาไม่ค่อยมาโรงเรียน
เขาทำอะไรไม่ค่อยทันเพื่อน ๆ
เขาก็ไม่ทำ
เขาก็อยู่หลังห้องของเขาคนเดียว
พอให้เด็ก ๆ วาดรูปปขนมที่ตัวเองชอบกิน
เด็กคนอื่นก็วาดกันใหญ่
บอกให้เด็ก ๆ เขียนชื่อด้วย
เด็ก ๆ ส่วนมากเขียนไม่เป็น
ข้าพเจ้าก็จับมือเขียน
เพราะจำได้ว่า
ตอนเป็นเด็ก พ่อของข้าพเจ้า
ก็เคยจับมือข้าพเจ้าเขียนหนังสือ
วาดรูปให้ดู
เล่านิทานให้ฟังก่อนนอนอะไรทำนองนี้
ข้าพเจ้าอยากให้เด็ก ๆ มีประสบการณ์ส่วนนี้บ้าง
สังเกตว่านั่นเป็นมุมหลังสุดของห้อง
ข้าพเจ้าจับมือน้องเขาเขียนหนังสือ
และวาดรูป
น้องเขาอยากวาดน้ำแดง
ผมบอกให้เขาวาด
เขาบอกว่า วาดไม่เป็น
ผมทำให้ดู
เขาทำตาม
น้องใบเตยเรียนรู้ได้เร็วมาก
คนที่นั่งอยู่เป็นผู้ปกครองเด็กอีกคนหนึ่งที่มาเฝ้าหลานตัวเอง
แม่ผมก็เคยมาเฝ้าเหมือนกัน
ตอนผมเป็นเด็ก
มันรู้สึกใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้ เมื่อต้องมาอยู่โรงเรียน โดยที่ไม่มีแม่ ไม่มีตามียาย
หลังจากผมได้พัง "กำแพง" เข้าไปหาน้องใบเตยได้แล้ว
จากนั้นเขาก็ติดผมตลอดเวลา
วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่เราเจอกัน
ปกติน้องใบเตยจะมาโรงเรียนสาย
เพราะต้องรอดูการ์ตูนให้จบก่อน
แต่วันนี้คุณแม่เขาบอกว่า
หกโมงครึ่งเขาแต่งตัวเสร็จแล้ว
และบอกว่าอยากมาโรงเรียน
เป็นที่ประหลาดใจของทุกคน
รวมทั้งคุณครูประจำชั้น
น้องใบเตยอยู่บนตักของผม
ผมก็ชอบอยู่บนตักของพ่อ แม่ หรือยาย
มันเป็นความอบอุ่น
รู้สึกว่าเราไม่ถูกทอดทิ้ง
ผมเข้าใจดี
น้องใบเตยไม่อยากมาโรงเรียน
เพราะไม่มีเพื่อน
ไม่มีอะไรน่าสนุก
ไม่มีคนสนใจเหมือนอยู่ที่บ้าน
เพราะคนที่บ้านตามใจ เอาอกเอาใจ
ไม่มีอะไรที่น้องเขาต้องการ
ไม่มีการ์ตูนที่ชอบให้ดู
ไม่มีความอบอุ่นจากพ่อ หรือพี่ชาย ( เขาชอบเล่นกับพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน )
ในภาพผมกำลังจะพังกำแพงอีกกำแพงหนึ่ง
เป็นกำแพงของน้องพี
แล้วค่อยมาดูกันว่าผมจะทำได้หรือไม่นะครับ
ธัชชัย ธัญญาวัลย
วันเด็ก 10/01/2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น