โดย ธัชชัย ธัญญาวัลย
เมื่อคืนได้มีโอกาสดูหนังใน Netfilx ซึ่งเอาจริง ๆ ก็เป็นสมาชิกมาตั้งนาน
แต่ดูไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
เพราะไม่ค่อยมีเวลา ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายหนุ่มและหญิงสาวที่คบหากันมา
6 ปี ผู้ชายชื่อแดน
กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทค่ายเพลง
ส่วนผู้หญิงชื่อเมล กำลังจะเริ่มงานเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง
ความสัมพันธ์หกปีที่คบกันนั้นค่อนข้างจะจืดชืด หนังแสดงให้เราเห็นว่า
เวลาทั้งคู่จะมีอะไรกันมันก็เป็นไปอย่างจืดชืด เป็นไปอย่างงั้น ๆ
มีบางวันที่เพื่อนของนางเอกคือเมล แนะนำให้เธอดูหนังโป๊เพื่อต่อเติมความสวิงสวายของชีวิตคู่บ้าง
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นผลอะไรเท่าไหร่นัก
ทั้งคู่ทะเลาะกันเสมอ
และเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่วันหนึ่ง อะแมนดา
ซึ่งเป็นสาวไก่แก่แม่ปลาช่อนที่ที่ทำงานชวนคุยเรื่องพวกนี้กับแดน
แล้วทั้งคู่ก็คลิกกัน มีเผลอจูบกันที่ปาร์ตี้สระน้ำด้วย
เอาจริง ๆ
แม้ว่าแดนจะรู้สึกผิดแต่ใจก็ถวิลหาอะแมนดาอยู่ไม่คลาย
จนกระทั่งแฟนสาวคือเมลจับได้ แล้วก็ทะเลาะกันที่ผับแห่งหนึ่ง
ผลของการทะเลาะกันคือไม่ทะเลาะกันเปล่า แต่ทะเลาะกันแล้วก็โวยวายไปหน้าผับ ยังผลให้แดนถูกจับขังคุกไว้ 24 ชั่วโมง
เมลก็เป็นฝ่ายไปรับกลับ
ในเรื่องนี้เมื่อเกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันจะสังเกตได้ว่า ฝ่ายหญิงมักจะขอโทษหรือรู้สึกผิดก่อนเสมอ
แต่ผลทางกายนั้นมักเกิดกับผู้ชาย
อย่างตอนต้นเรื่องทะเลาะกัน แล้วก็ผลักกันไปมา ผู้ชายก็หัวไปโขกตู้ ต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นต้น
หลังจากที่ทะเลาะกันที่ผับทั้งคู่ก็เหมือนเลิกกันชั่วคราว
และจุดนี้ก็เป็นเหตุให้เมลไปกินเหล้าและพบกับวิลล์
วิลล์เหมือนตัวละครโง่ ๆ
ที่มาเป็นตัวประกอบที่ทำให้ดูเหมือนว่าเมลเป็นคนดีหรือไม่เลวเท่ากับแดนก็ว่าได้ คือ
หลังจากเมาหัวราน้ำอ้วกแตกอ้วกแตนและเพื่อนก็พามาส่งบ้าน(แน่นอนว่าอีตาวิลล์นี่ก็มาด้วย)
เพื่อนก็กลับไปปาร์ตี้ต่อ
ส่วนวิลล์นั้นก็ทำเป็นอิดออดว่าขอนอนที่บ้านเมลได้ไหม ซึ่งเพื่อนเมลก็บอกว่าได้(คืออะไรวะ อยากให้เพื่อนได้แฟนใหม่อะไรอย่างนี้เหรอ 555) ในขณะที่เมลนั้นไม่มีสติสตังเหลืออยู่เลย
จนตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาก็ปรากฏว่าวิลล์กำลังจะกระทำชำเรา เมลก็ผลักผู้ชายออกแล้วก็ไล่เขาออกจากบ้านไป
จบบทบาทโง่ ๆ ของวิลล์แต่เพียงเท่านี้
เมลรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เล่าให้แดนฟัง จากนั้นทั้งคู่ก็ไปช่วยแม่เมลย้ายบ้าน
ระหว่างนี้เองแดนก็ไปปรึกษาแม่ตัวเองเรื่องที่บริษัทเสนอให้ไปทำงานที่นิวยอร์ก แม่บอกให้ไปจัดการเอง เรื่องของมึง
แดนก็ไปปรึกษาเมลที่บ้านของเธอ ผลก็ปรากฏว่าทะเลาะกันอีก
เมลไล่แดนหนีกลับบ้าน
เมื่อกลับบ้านแล้วแดนก็โทรหาอะแมนดาให้มาที่บ้านแล้วทั้งคู่ก็มีอะไรกันอย่างเร่าร้อน
หนังแสดงให้เห็นฉากนี้อย่างเร่าร้อน เมื่อเทียบกับการมีเซ็กส์กับเมล แดนกระทำอย่างดุเดือดเลือดพล่านทั้งการเล้าโลมตระโบมจูบหรืออื่นใด
โดยที่การเล้าโลมบางอย่างนั้นไม่เคยปรากฏในฉากที่เขามีอะไรกับเมลเลย
สุดท้ายเรื่องก็ต้องเป็นอย่างว่าคือ...
ตอนเช้าเมลมาที่บ้านแดนเพื่อจะขอโทษและพูดคุยด้วยเหตุผลให้แดนไปนิวยอร์ก แต่ก็พบว่าอะแมนดาแต่งตัวกำลังจะกลับ
การทะเลาะกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านก็เกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงมาก เมลขว้างแก้วและแดนจะชกเธอ แต่เปลี่ยนใจไปชกกำแพง (ฉากแบบนี้มันต้องมีอยู่ทุกเรื่องสิน่า)
จากนั้นก็ถูกผลักไปเหยียบแก้ว
สุดท้ายก็จบที่โรงพยาบาลอีก
ฉากสุดท้าย
เมลไปเยี่ยมแดนที่โรงพยาบาล และบอกให้แดนไปทำงานที่นิวยอร์กเถอะ เพียงแต่ให้พูดกับเธอว่า แดนรักเธอและปรารถนาที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเธอตลอดไป แต่แดนก็พูดได้เพียงแค่ว่า เขาเสียใจ
เรื่องราวทั้งหมดก็จบลง โดยแสดงให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญว่า สุดท้ายแล้ว
ทั้งคู่ก็ต้องเลิกร้างลาจากกัน
เป็นหนังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ธรรมดามาก ๆ
และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไป
ความรักได้กลายเป็นสิ่งจืดชืดเมื่อทั้งคู่อยู่กันมาเป็นเวลานาน
และน่าแปลกที่หากไม่มีมือที่สามเข้ามาวุ่นวายก็จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไร
อย่างเช่นเรื่องนี้ ณ ปาร์ตี้ริมสระ อะแมนดาเป็นฝ่ายเริ่มกับแดนก่อน ทำนองว่า
เธอคิดไม่ออกเลยว่าการคบคนคนเดียวนานถึงหกปีนั้นจะรู้สึกอย่างไร เธอถามแดนว่า
ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนนี่ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงอื่นเลยเหรอ กินน้ำพริกถ้วยเดิมมาตลอดหกปีเลยละสินะ อะไรทำนองนี้
นั่นน่าจะเป็นเหตุให้แดนนึกอยากจะลองน้ำพริกถ้วยใหม่บ้าง
ตามธรรมชาติของผู้ชาย
ในโลกของความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องปกติ ที่เมื่ออะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
ย่อมเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ
หรือต้องมีการแสวงหาสิ่งแปลกใหม่
หากไม่มีเรื่องประเพณี หรือวัฒนธรรมผัวเดียวเมียเดียวครอบไว้ มนุษย์ก็ย่อมต้องเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย ๆ
หรือแม้มีเรื่องนี้ก็ตาม มนุษย์ก็ยังแสวงหาคู่นอนใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งในแง่ของการกระทำอย่างเป็นทางการ คือ
หย่าร้าง หรือไม่เป็นทางการ เช่น
ไปเที่ยวผู้หญิง หรือ มีชู้
เป็นต้น
ในหนังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายที่เริ่มก่อนคือ ผู้ชาย ส่วนฝ่ายที่มีจิตใจไม่วอแว(มากนัก)คือฝ่ายหญิง
ดังฉากที่เมลไปกินเหล้าเมาแล้วมีผู้ชายมานอนบ้านด้วย ร่ำ ๆ จะมีอะไรกันแต่เมลก็ผลักเขาออกไป เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่คู่รักอยู่ด้วยกันแม้เวลาจะผ่านไปยาวนาน
ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์ทางเพศเท่านั้น แต่กลับเป็นอย่างอื่น เช่น
การทำสิ่งอื่นร่วมกัน
หรืองานอดิเรกอื่น
ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ทั้งหลายกล่าวว่า มันคือ
ความผูกพัน
เราจะสังเกตได้ว่า ในหนังนั้น
ทั้งคู่ไม่มีงานอดิเรกอื่นที่ทำร่วมกันเลย
ดีที่สุดคือไปช่วยแม่ย้ายของ ซึ่งเอาจริง
ๆ แล้วทั้งคู่ก็ยังเรียนหนังสืออยู่ จึงอาจไม่มีเวลาที่จะไปทำอะไรร่วมกันนัก
และหนังก็ไม่ได้มุ่งแสดงแง่มุมอื่นใดนอกจากนี้
แต่อย่างไรก็ดี
กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ที่แดนปรารถนาให้เมลไปด้วย เมลก็ไม่ค่อยชอบ เช่น การไปปาร์ตี้ริมสระกับที่ทำงาน เป็นต้น
จุดแตกหักอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงไม่สามารถอดทนได้ หรือจำเป็นต้องเลิกรา ก็คือ
ความไม่มั่นคง
เราจะสังเกตได้ว่า แม้ว่าผู้ชายจะสารเลวขนาดไหน ไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่น ผู้หญิงอย่างเมลก็ต้องตามไปขอ
โทษเสมอ
และจบลงด้วยการคืนดีกัน
เว้นแต่กรณีล่าสุด
ที่มีการถามให้สัญญาว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเธอตลอดกาล
เมื่อแดนไม่ตอบตกลง ดีลก็ล่มในที่สุด
(ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าเรื่องนี้แดนตอบว่า ตกลง
ทุกอย่างก็จะกลับไปเหมือนเดิม)
ความมั่นคง
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้หญิงต้องการจากผู้ชาย
ซึ่งแตกต่างจากผู้ชายที่ไม่ได้ต้องการความมั่นคงจากผู้หญิงมากนัก
ผู้ชายที่เป็นเสือผู้หญิงหรือชำนิชำนาญในกิจการทางด้านความสัมพันธ์ย่อมรู้ดีว่า เขาจะจีบผู้หญิงอย่างไรให้ติด ด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการใช้ ความมั่นคง
เป็นตัวล่อ
เช่น
การมีเงินมาก
การแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหาเงิน
การบอกว่า ฉันจะรักเธอนิรันดร ฉันจะแต่งงานกับเธอ เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่า
ผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมาแค่คนเดียว (และเพิ่งผ่านมาอีก
1 คนเพียง 1 ครั้ง ก่อนหน้าที่จะต้องคุยกับเมล)
ก็ย่อมไม่มีความปลิ้นปล้อนพอที่จะพูดหรือให้คำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือกับเธอตลอดกาลนาน
ซึ่งเราอาจจะพิจารณาว่า ลักษณาการเช่นนี้ เป็นไปได้ว่า
แดนนั้นจริงจังเกินไป
หรือแดนนั้นไม่อยากผิดสัญญาในอนาคต
หรือแม้กระทั่งว่าแดนอยากมีชีวิตที่ต่างจากนี้ในอนาคต (คือไม่ต้องการกินน้ำพริกถ้วยเดียวซ้ำ
ๆ ซาก ๆ ตลอดชีวิต ต้องการไปใช้ชีวิตสวิงสวายเมื่อมีโอกาส หรืออื่น ๆ)
ทั้งที่ความจริงแล้วแดนก็พูดในนาทีก่อนสุดท้ายนั้นว่า ฉันอยากอยู่กับเธอ ฉันไม่ไปนิวยอร์กแล้ว เราจะดำเนินชีวิตตามแผนเดิมที่เราเคยวางไว้ มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข(ตรงไหนวะ)ด้วยกัน
แต่เอาเข้าจริง ๆ แดนก็ไม่กล้าสัญญา รับปากรับคำอะไรแก่เมลได้
อันนี้เป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของผู้ชาย(บางคนที่อาจเรียกได้ว่าค่อนข้างเป็นคนดีในบางแง่) คือ
ไม่อยากเสียสัจจะ
การรักษาสัจจะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญของมนุษย์ผู้ชาย ดังนั้นการคาดคั้นเอาคำตอบ ณ
เดี๋ยวนั้นของเมล
จึงทำให้แดนเกิดความกระอักกระอ่วน
จนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้นอกจากคำว่า
ฉันขอโทษ
เรื่องราวจึงต้องจบลงในที่สุด
จริง ๆ
มันมีประเด็นและมีหลักฐานหลายอย่างที่จะสนับสนุนความคิดบางอย่าง
แล้วก็มีประเด็นเรื่องเพลงประกอบด้วย
แต่ขี้เกียจพิมพ์ 555
เอาเป็นว่า
เล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ก็แล้วกัน
เอวัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น