วันนี้ได้ฤกษ์ดี
ความจริงก็ไม่ใช่ฤกษ์ดีอะไรหรอก
แต่เพิ่งมาสะดวกเอาวันนี้
ไม่มีอะไรที่ต้องทำเป็นพิเศษ
และไม่มีอะไรที่ต้องกังวล
จึงเอารถอ้วนไปเปลี่ยนกระจกหน้าที่แตกร้าวเสียที
จำไม่ได้แล้วว่า กระจกหน้านี่มันร้าวตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่มันร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ
ไม่แน่ อาจจะเป็นปีแล้วก็ได้
เพราะมีใบเคลมประกันของเจ้าก่อน
ที่เคยเคลมไว้แต่ไม่ได้เอาไปซ่อม
เพราะต้องเสียค่าส่วนแรก
( ตั้ง ๕,๐๐๐ แน่ะ )
ช่วงนี้จัดระเบียบสังคม
เป็นต้นว่า
ที่อยู่อาศัยก็จัดระเบียบ
และจัดการซักรีดที่นอนหมอนผ้าห่ม
ทำความสะอาดบ้านเรือน
ทุกสิ่งอย่างให้เข้าที่เข้าทาง
ต้อนรับฤดูหนาวอันอบอุ่น
เป็นฤดูหนาวที่อบอุ่นที่สุด
ปกติลมหนาวมักจะมากับความเศร้า
หน้าหนาว ก็คือหน้าที่ต้องปิดภาคการศึกษา
เป็นช่วงสอบปลายภาค
การร่ำลาเพื่อนร่วมชั้น
แต่นั่นก็นานมากแล้วที่ไม่มีอะไรอย่างนั้นเกิดขึ้นในชีวิต
ไม่มีอะไรต้องจากลากันอีก
ตอนแรกที่เอารถไปซ่อม
ก็นึกว่าจะใช้เวลานาน
เพราะคราวก่อน
เคยเอาไปเปลี่ยนกระจกหน้านี่แหละ
ต้องทิ้งรถไว้ประมาณ ๑ สัปดาห์
คราวนี้ไม่ได้เอาไปซ่อมที่ศูนย์
เพราะประกันเป็นประกันอู่
ก็เอาไปอู่ที่เขาดีลกับบริษัทประกัน
อยู่ไม่ห่างจากที่พักสักเท่าไหร่
จะว่าไป
เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าก็กลายเป็นคนแถวนี้ไปซะแล้ว
มองไปทางไหนก็ดูคุ้นหูคุ้นตาคุ้นเคยไปเสียหมด
การเป็นคนแถวนี้ทำให้ข้าพเจ้านึกหวาดหวั่นอย่างไรพิกล
เพราะโดยปกติ
ถ้าแถวไหนเริ่มมีคนรู้จักว่าข้าพเจ้าเป็นใคร
ทำงานอะไร อย่างไร
จนกระทั่งมีคนเรียกสรรพนาม
โดยเรียกคำนำหน้าชื่อแทนคำว่า น้อง พี่ หรือชื่อตัว
หรืออะไรต่าง ๆ แล้ว
เป็นอันว่า
ข้าพเจ้ามักจะได้จรลีไปที่อื่น
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอาถรรพ์เรื่องนี้จะยังมีอยู่หรือไม่
หรือความจริงแล้ว
ข้าพเจ้าจะต้องกลายเป็นคนแถวนี้ตลอดไป
ข้าพเจ้าถามว่า ใช้เวลาประมาณกี่วันจึงจะเสร็จ
หลังจากให้เขาดูรถแล้ว
เขาบอกว่า
รุ่นนี้มีของ
อ้ำอึ้งเรื่องเวลานิดหน่อย
ข้าพเจ้าต้องถามย้ำ
เขาบอกว่า
ชั่วโมงเดียวก็น่าจะเรียบร้อย
ข้าพเจ้าตกใจมาก
ชั่วโมงเดียว
และข้าพเจ้าก็แจ้งไปว่า
ข้าพเจ้ายังไม่ได้เคลมประกัน
เขาก็ขอเอกสารต่าง ๆ
แล้วก็ไปทำเรื่องเคลมให้ข้าพเจ้าเรียบร้อย
เป็นบริการที่ดีมาก
ข้าพเจ้ามีหน้าที่แค่เซ็นชื่อเท่านั้น
ระหว่างนั้นมีรถอีกคันรอเปลี่ยนกระจกอยู่ด้วยเหมือนกัน
เขาเหลือบไปเห็นพอดี
ก็เลยบอกว่า
อ้อ มีคันนี้รออยู่
งั้นเป็นชั่วโมงครึ่งได้ไหม
ข้าพเจ้าตอบตกลง
เพราะตามความคิดข้าพเจ้า
คือ อย่างช้าที่สุด ๗ วัน
ไม่ได้คิดว่ามันจะใช้เวลาในระดับชั่วโมงแม้แต่น้อย
เขาให้ไปรอที่ห้องรับรอง
ข้าพเจ้าก็เข้าไป
ไม่มีอะไรน่าสนใจ
หนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับ
ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้าเคยอ่าน
ตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วทั้งสิ้น
เดี๋ยวนี้ข่าวในเฟซฯ มันเรียลไทม์มาก
จนกระทั่งว่า
ข่าวในหนังสือพิมพ์ล้าหลังไปเลย
มีนิตยสารเก่า ๆ ที่ไม่น่าสนใจวางอยู่มากมาย
ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่คิดอยากจะอ่าน
จึงเดินออกมาข้างนอก
ย้ิมให้ลุงเจ้าของรถที่นั่งรออยู่หนึ่งที
แกเลยถือโอกาสคุยกับข้าพเจ้า
ก็คุยเรื่อยเปื่อย
แชร์ประสบการณ์การเปลี่ยนกระจก
แกเปลี่ยนมาแล้วสี่ห้าครั้ง
ข้าพเจ้านั่งเก้าอี้รับลมหนาวไปพลาง
มองดูช่างเปลี่ยนกระจกให้ลุงเขาไปพลาง
มองดูรถที่ว่ิงบนถนน
มองโรงงานทำคอนกรีตข้างหน้า
ดูป้ายโฆษณา มีใบแปะไว้ว่าเสียภาษีแล้ว
หันมาดูช่างอีกครั้ง
เป็นการทำงานที่คล่องแคล่วดีเหมือนกัน
ง่ายดาย
รวดเร็ว
แต่ละขั้นตอนเป็นสิ่งที่แน่นอน
พอเปลี่ยนของลุงเสร็จ
ก็เป็นคิวของไอ้อ้วน
ข้าพเจ้าก็ไม่เคยเห็นการเปลี่ยนกระจกรถมาก่อน
เลยตั้งใจดูเป็นอย่างยิ่ง
และถ่ายรูปไว้ด้วย
ง่ายดาย รวดเร็ว
และเป็นขั้นตอน
เหมือนคันก่อนหน้า
ข้าพเจ้าสนทนากับช่างเล็กน้อย
มีช่างช่วยกันทำหลายคน
นึกเล่น ๆ ว่า
ถ้าไปเปิดธุรกิจเปลี่ยนกระจกรถยนต์คงดีไม่น้อย
เพราะมันแตกง่ายเหลือเกินไอ้พวกกระจกนี่
ก่อนหน้าจะเปลี่ยน
เขาก็ถามเรื่องฟิล์มกับข้าพเจ้า
ว่าจะเอารุ่นใหม่ไหม
เขาบอกมีฟิล์มรุ่นใหม่มา
ข้าพเจ้าถามว่า
ต้องจ่ายเพิ่มหรือเปล่า
เขาบอกไม่ต้อง
ข้าพเจ้าก็ตกลง
ให้เขาเพิ่มค่าความดำให้ด้วย
กลายเป็น 60 รอบคัน
ตอนแรกข้างหน้า 40
ระหว่างเขาเปลี่ยนกระจก
นอกจากถ่ายรูป
ข้าพเจ้าก็คิดอะไรเพลิน ๆ
เป็นฤดูหนาวที่อบอุ่นเหมือนกันนะ
ข้าพเจ้าคิด
มีคนที่เรารัก
มีคนที่รักเรา
มีงานทำ
มีข้าวกิน
เจ็บป่วยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
ได้อ่านหนังสือ
มีเพื่อนคุยเท่าที่อยากคุย
ได้อยู่คนเดียวเท่าที่อยากอยู่
อะไรอีก
ได้เอารถมาซ่อม
ช่างก็ทำงานดี บริการดี
มีลมหนาวพัดมาสบาย ๆ
ไม่ร้อนเลย
นึกถึงเพลงที่เพ่ิงส่งให้หญิงสาวฟัง
เวอร์ชั่นที่ข้าพเจ้าชอบ
แล้วก็เผลอฮัมมันขึ้นมาเบา ๆ
"จะขอเอาคำว่ารัก ทุกคำที่ฉันได้เคยเอ่ย
จะขอมันคืนจากใครที่เคยผ่านเข้ามา
จะขอรวมคำว่ารักเหล่านี้ ทวีความหมายและคุณค่า
จะขอเอามามอบไว้ให้เธอผู้เดียว..."
ตอนนี้เราอยู่ในดินแดนที่ว่าหรือยังนะ
ข้าพเจ้าถามตัวเอง
เราค้นพบความหมายที่ซ่อนอยู่ ในการรอคอยที่แสนนานหรือยัง
เราข้ามขอบฟ้ามาถึงดินแดนที่ว่าหรือยัง
มีใครซักคนรอเราอยู่ ณ ที่แห่งนี้ใช่ไหม
เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
เราไปไหนต่อไหนมาตั้งมากมาย
ไม่เคยอยู่ที่ไหนได้นานเท่าที่นี่เลย
นึกถึงคำพูดล่าสุดที่เคยพูดกับพ่อ
อยู่ดี ๆ พ่อก็มาแย่งแม่พูดโทรศัพท์
จีบติดหรือยังสาวน่ะ
เป็นคำถามที่ดูเหมือนว่า พ่ออยากจะถามเป็นพิเศษ
ถึงขนาดต้องมาแย่งแม่พูด... ขนาดนั้นเลย
ความจริงพ่อเคยอวยพรให้ข้าพเจ้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ที่กลับบ้านครั้งล่าสุด
ว่า
จีบให้ติดนะ สาวน่ะ
ดูเหมือนพ่อจะมีความหวังในเรื่องนี้กับข้าพเจ้าเสียจริง
จีบติดหรือยังสาวน่ะ พ่อถาม
ก็เรื่อย ๆ ข้าพเจ้าตอบ
ไม่รู้จะตอบอะไรมากไปกว่านี้
หรือน้อยกว่านี้
ในความคิดของพ่อก็คือ ข้าพเจ้าควรแต่งงาน
และมีลูกได้แล้ว
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ คนอย่างข้าพเจ้า...
ถ้าจีบไม่ติดบอกพ่อนะ
ทำไม ข้าพเจ้าถามและหัวเราะ
เดี๋ยวจะหาให้ นี่ก็หาไว้แล้ว ถ้าอยากได้เมื่อไหร่ก็มาเอาเลย
เดี๋ยวจะคุยให้เลย
ไม่เอาหรอก ข้าพเจ้าบอก
ข้าพเจ้าไม่เคยบอกพ่อว่า
ข้าพเจ้ามีผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น ที่ข้าพเจ้ารัก
และไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นไหนทั้งสิ้นในโลกนี้
ความจริงพ่อพูดอย่างนี้เสมอตั้งแต่ข้าพเจ้าเรียนจบ
เช่นว่า ไปคุยไว้แล้วนะ จะเอาหรือยัง
ซึ่งทุกครั้งก็มักจะถูกแม่ด่าเสมอ
5555
ข้าพเจ้าไม่ตอบคำถามใด ๆ
นอกจากบอกว่า ไม่ต้องยุ่งหรอกน่าาา
ดูเหมือนพ่อจะดีใจกว่าข้าพเจ้าเสียอีก
ที่ข้าพเจ้ามีแฟน
และดูเหมือนจะเจ็บปวดกว่าข้าพเจ้าทุกครั้งด้วย
ที่ข้าพเจ้าเลิกกับแฟน
ข้าพเจ้าไม่สามารถทำใจได้จริง ๆ
หากข้าพเจ้าต้องคบกับผู้หญิงอื่นไหนที่ข้าพเจ้าไม่ได้รักเมื่อแรกพบ
ความสัมพันธ์จึงต้องจบลงแม้ว่าจะพยายามสักเท่าใด
ข้าพเจ้ามักไม่อดทนกับผู้หญิง
และมักจะแสดงอาการเอาแต่ใจตัวเองอยู่ร่ำเรื่อย
หนักข้อกว่านั้น
ข้าพเจ้ามักจะอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองจนลืมไปว่า
ข้าพเจ้ามีแฟน
เขาแนะนำข้าพเจ้าว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง
หลังติดกระจกเสร็จแล้ว
เช่น หนึ่งวันค่อยแกะพลาสติกที่แปะไว้ออก
สามวันค่อยเอาไปล้างได้
ข้าพเจ้าให้ทิปช่าง ๒๐๐ บาท
เป็นเงินที่เหลือจากค่าข้าวมื้อเที่ยง
ความจริงมันมีเศษอีกหกสิบบาทด้วย
แต่ข้าพเจ้าละอายใจหากจะต้องให้เศษนั้นกับเขา
ข้าพเจ้าตรวจเช็คความเรียบร้อย
ขับออกไปสักพัก เหลือบไปเห็นไขควงอยู่ตรงไมล์
จึงหยุดรถและเอาไปคืนเขา
แปลกจริง ข้าพเจ้าคิด ทั้งที่ดูดีแล้วแท้ ๆ
ทำไมมองไม่เห็น
ฮัมเพลงอีกรอบตอนขับรถกลับ "บ้าน"
กระจกใสมาก
แดดบ่ายก็อบอุ่น
ถนนก็น่ารัก
ลมหนาวก็หนาวนิด ๆ
ไอ้อ้วนคงดีใจที่ได้กระจกใหม่
ดูหล่อขึ้นเยอะเลย
:D
"คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง
คงมีใครซักคนรออยู่ตรงนั้น..."
Arty K
18 12 2557
สาธุประดิษฐ์
เวอร์ชั่นที่ชอบ https://www.youtube.com/watch?v=twyLazpTwss