ความจริงตอนนี้ข้าพเจ้าง่วงนอนมาก
เพราะเลยเวลานอนมามากแล้ว
ข้าพเจ้าควรได้นอนก่อนเที่ยงคืน
เพราะช่วงนี้ข้าพเจ้าไม่สบาย
วันอังคาร
ร่างกายเริ่มส่อแววให้เห็น
ข้าพเจ้าได้กลิ่นของความเป็นหวัด
แต่โชคดีที่มันยังไม่เป็น
คืนก่อนหน้านั้นข้าพเจ้านอนดึก
และก่อนหน้านั้นอีก
ดูเหมือนว่า
ผู้ช่วยที่ร้าน
จะเป็นหวัด
และข้าพเจ้าสังหรณ์ใจว่า
เธอจะเอาเชื้อโรคมาแพร่สู่ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าตระหนักดีว่า
ช่วงนี้ร่างกายข้าพเจ้าอ่อนแอ
พร้อมจะติดเชื้อโรคจากใครได้ง่าย ๆ
วันอังคารข้าพเจ้าต้องไปทำงาน
และข้าพเจ้าพยายามอย่างยิ่งที่จะทำงาน
โดยไม่ให้น้ำมูกไหลลงคอ
คือให้มันอยู่บริเวณเหนือคอนิดหน่อย
คือถ้ามันลงคอเมื่อไหร่บุ๊ป
อาการเป็นหวัดจะกำเริบทันที
ข้าพเจ้าไม่ได้กินยา
เพราะจะพิสูจน์กำลังใจของตัวเองว่า
จะต้านหวัดไหวหรือไม่
ตอนเย็นมาฝนตกเสียอีก
ต้องยืมร่มที่คลินิกกลับบ้าน
แต่ก็โชคดีที่มันปรอย ๆ
ไม่หนักมาก
แต่ข้าพเจ้าก็สังหรณ์ใจว่า
ถ้าโดนแม้ละอองฝนนิดเดียวจะเป็นหวัดได้
กลับถึงห้องก็รีบอาบน้ำ
พยายามไม่กินอะไรที่มันเอื้อต่อหวัด
และเข้านอนเร็ว
วันนี้ตื่นขึ้นมาจึงดีขึ้นบ้าง
แต่คิดว่า
ถ้าวันนี้นอนดึกมาก ๆ
พรุ่งนี้อาจไม่รอด
ข้าพเจ้าพยายามดันทุรังร่างกายไว้พอสมควร
ที่จะไม่ให้น้ำมูกไหลลงคอ
เมื่อเช้าเจ็บคอส่วนต้นนิดหน่อย
แต่ก็พอทน
คือไอ้หวัดเนี่ย
ถ้าเราไม่ปล่อยให้น้ำมูกมันลงคอ
มันก็จะเลี้ยง ๆ ลูกของมันไปเรื่อย ๆ
จนครบกำหนดวันที่มันต้องตาย
มันก็จะจากเราไป
โดยเราไม่เป็นอะไรมาก
แต่ถ้ามันลงคือเมื่อไหร่
เราจะได้
"เป็นหวัด"
อย่างเต็มรูปแบบ
ซึ่งจะเป็นที่มาของอาการไม่สบายทั้งหลายทั้งปวง
อาทิ
เจ็บคอมาก ๆ
มีเสียงอันเซ็กซี่
จาม
และในที่สุด
ไอ
อาจมีไข้ร่วมด้วย
มากน้อยตามแต่มันจะเมตตา
หรือตามแต่ร่างกายเราจะอยากเป็น
ปกติข้าพเจ้ามักจะรู้ร่างกายของตัวเองดี
ว่ามันเริ่มส่อแววผิดปกติหรือเปล่า
ถ้าอดทนไหวก็รอด
ถ้าอดทนไม่ไหว
ก็ป่วย
แต่บางครั้ง
เราคิดว่าไหว
แต่มันไม่ไหวก็มี
เพราะกำลังใจมันไม่พอ
ที่ต้องดึกหน่อยวันนี้
เพราะดันไปดูคลิปนี้เข้า
พูดเรื่อง
Power of Introverts
ข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์ประเภทนี้เสียด้วย
จึงอดดูไม่ได้
(ต้องขอบคุณน้องตูน
ที่แชร์มาไว้ในหน้าเฟซของเธอ
และข้าพเจ้าเสร่อไปเห็น
555)
ว่าด้วยเรื่องของ
หูหาย : อิทัปปัจจยตาของความปลาสนาการแห่งโสตะ
กันดีกว่า
ชื่อเรื่องแม่งยาวชิปหาย
เพราะข้าพเจ้าดันอยากได้ชื่อหลักและชื่อรอง
อันนี้เป็นเรื่องสั้นที่ผ่านเวทีประกวด
เข้ารอบคัดเลือกของมติชน
ข้าพเจ้าต้องขอบคุณพี่พินิจ (พินิจ นิลรัตน์)
ที่ส่งข่าว
เพราะช่วงนี้ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้อ่านนิตยสาร
เหมือนอย่างคราวก่อน
ที่บทกวีลง
ก็พลาดไป
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องกวนตีนมากกว่าความเป็นข้าพเจ้าตามปกติ
อันนี้เป็นบทเปิด
มีมุก(ที่คิดว่า)ตลกห่าม ๆ แทรกอยู่เป็นระยะ
แลดูไร้สาระดี
(คือมีแต่สารเลว--
555
ต้องชิงเล่นตัวเองเสียก่อน
ก่อนที่คนอื่นจะมาว่าเรา
555)
ส่วนที่ชอบอ่านมากที่สุด
ก็คือส่วนสุดท้ายนี่เอง
(คลิกเพื่อขยายขนาดเพื่ออ่านได้)
ข้าพเจ้าพูดลอย ๆ เล่น ๆ ว่า
สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อรองยาวเฟื้อย
ก็เพราะว่า
กลัวคนจะหมั่นไส้ในความกวนตีน
จนไม่เป็นอันพินิจเนื้อความข้างในนั่นเอง
555
( อันนี้พูดเอาฮา อย่าถือสาก็แล้วกันเถอะครับ)
28 สิงหาคม 2557