มีชีวิตที่ตื่นขึ้นมาอย่างยากลำบากหลายวันเวลา
แม้จนกระทั่งความเหนื่อยล้าเกาะกุมสังขาร
ก็หลายเพลา จำเดิมแต่ครั้งเริ่มทำงานใหม่ ๆ
หากวันไหนเหนื่อยล้า ก็นอนแบ็บอยู่บนที่นอน
ผิดกับทุกวันนี้
แม้จะเหนื่อยหนักหนาเพียงใด
ก็ต้องลุกขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่
มันต่างกัน
ระหว่างชีวิตที่ไม่มีความรับผิดชอบ
กับชีวิตที่ต้องรับผิดชอบในทุกสิ่ง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำก็คือ
รับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง
ไม่ว่ามันจะเลวร้าย หรือดีงามสักเท่าไร
เราก็ต้องรับผิดชอบมันทั้งสิ้น
จะดีกว่า
หากเราทำวันนี้ให้เป็นวันที่ดี
เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบความชั่วร้ายจากการทำไม่ดี
ข้าพเจ้ายอมรับอย่างเปิดเผยว่า
หลาย ๆ ครั้ง ข้าพเจ้าไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
หรือติดต่อสื่อสารกับใคร ๆ ได้
เพราะข้าพเจ้าดิ่งลึกอยู่ในโลกของตัวเองมากเกินไป
จนหลาย ๆ ครั้งทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาด
หรือเกิดความไม่เข้าใจอะไรกันก็มากมาย
แต่นั่นแหละ
ข้าพเจ้าก็คือข้าพเจ้า
คนที่ไม่รู้อัธยาศัย ก็ยากที่จะเข้าใจกัน
และยากที่จะคบหา ดำรงความสัมพันธ์ หรืออื่น ๆ
และข้าพเจ้าก็ไม่ใคร่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีงามหรือชั่วร้ายใด
ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้ารังเกียจ
หรือข้าพเจ้ายะโสโอหังก็หาไม่
หากข้าพเจ้าดิ่งลึกอยู่ในข้าพเจ้าก็เท่านั้น
ระยะเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
ก็ดูเหมือนว่า
เราได้เดินทางมาไกลมากขึ้นเท่านั้น
และเดินทางใกล้ถึงจุดจบคือความตายมากขึ้น ๆ
ชีวิตที่เหลืออยู่
ต้องทุกข์ระทมขมไหม้แค่ไหน
เราก็ไม่อาจทราบ
และไม่อาจปฏิเสธ
แต่ชื่อว่าชีวิต
เราก็ยังจำเป็นต้องใช้มันอยู่ร่ำไป
กอดคอกันร่ำไป
จนกว่าจะถึงวันจากกันไปอย่างนิรันดร์
ก็เท่านั้นเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๑๒ มีนาคม ๒๕๕๗