ตั้งแต่เกิดมาจำความได้
สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าไม่ทำ
เพราะตั้งใจจะไม่ทำ
ก็คือ กินเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์
ที่สร้างความมึนเมาขาดสติทั้งหลาย
ความจริงจะว่าไม่เคยกินเลย
ก็หามิได้
ตอนอายุ ๓-๔ ขวบ จำไม่ได้
จำได้แต่สภาวะและภาพบรรยากาศว่า
ร้องจะกินเหล้า
เขามีงานรื่นเริงกัน มีเหล้ายา
ข้าพเจ้าก็ร้องจะกินเหล้ากับเขา
ทำยังไงก็ไม่ยอม
จนพ่อต้องเอาน้ำเปล่ามาให้กินสมมติว่าเป็นเหล้า
แต่ข้าพเจ้าก็รู้ในตอนนั้นว่า
มันไม่ใช่เหล้า
ความรู้สึก ณ ขณะนั้น
คงเป็นประมาณว่า
ไอ้เหล้านี่มันคงอร่อย
เห็นผู้ใหญ่กินกัน เลยอยากรู้ว่ามันอร่อยแค่ไหน
อายุประมาณ ๑๓ ปี
ขับรถพาแม่ไปงานแต่งงาน
ด้วยความอยากรู้อยากลอง
จึงขอแม่ว่า ขอกินเบียร์หน่อย
๑ แก้ว
รสชาติไม่เห็นจะอร่อยหรือสร้างความพึงพอใจใด ๆ
เป็นอันว่ารู้แล้ว
ว่าของพวกนี้ มันก็แค่นี้แหละ ไม่ได้มีอะไรวิจิตรพิสดาร
จากนั้นข้าพเจ้าก็ตั้งใจไว้ว่า
จะไม่แตะต้องของพวกนี้อีก ตลอดไป
จนทุกวันนี้
อายุจะสามสิบ
ก็ไม่เคยแตะต้องสิ่งเหล่านี้
ไม่เคยเลยจริง ๆ ไม่แม้กระทั่งคิดจะกินเข้าไป
แม่ข้าพเจ้าไม่กินเหล้าอยู่แล้ว เป็นปกติ
เพราะบ้านข้าพเจ้านั้นมีความเชื่อว่า
เหล้ายาเป็นของผู้ชาย
ผู้หญิงที่กินเหล้าสูบบุรี่ คือผู้หญิงไม่ดี
ซึ่งความคิดนี้ก็ถ่ายทอดมายังข้าพเจ้า
และเป็นความเชื่อแบบฝังหัวไปแล้วว่า
ผู้หญิงที่กินเหล้าสูบบุรี่ คือผู้หญิงไม่ดี
ส่วนพ่อเลิกบุรี่ตั้งแต่ข้าพเจ้ายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ
เลิกเหล้่าเด็ดขาด ก็ประมาณข้าพเจ้าเรียนอยู่ปีหนึ่ง
คือ ไม่กินเลย
ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ มีงานเทศกาล
หรืออะไร
เรียกว่า ไม่แตะต้องเลย
ก่อนที่จะ "ไม่แตะต้อง" เลยนั้น
ก็กินเฉพาะมีงานรื่นเริงเท่านั้น
ส่วนใครจะกินเหล้า เท่าไหร่
กินเก่งแค่ไหน
ข้าพเจ้าก็ไม่ได้สนใจ
ซึ่งกับเพื่อนที่ตั้งวงเหล้า
หรือใครที่ตั้งวงเหล้า
ข้าพเจ้าก็อยู่ในวงได้
ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไร
แต่ถ้าใครจะมาบอกว่า
ตัวเองเป็นคนดี
หากยังกินเหล้าอยู่
อันนี้ข้าพเจ้าไม่ใคร่อยากจะยอมรับนักว่า
เขาเป็นคนดีคนเด่ตามที่กล่าวอ้าง
เพราะลำพังแค่ศีล ๕ ยังเอาตัวไม่รอด
มันก็แค่นั้น
จะพล่ามปรัชญาชีวิตลึกล้ำลึกหลงอะไรสักเท่าไหร่
ก็พล่ามไปเถอะ
คนเรามันไม่ได้เป็นคนดีเพราะเอาปากพูดว่าตัวเองเป็นคนดี
มันอยู่ที่การกระทำทั้งสาม
มันอยู่ที่ ทาน ศีล ภาวนา
ซึ่งต้องขอบอกว่า
อันนี้เป็นหลักของข้าพเจ้า
โดยความคิดเห็นอันคับแคบของข้าพเจ้าเท่านั้น
ส่วนใครจะไม่ยึดติดอะไรทำนองนี้
ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
เป็นเรื่องของความอยากความไม่อยากกันไป
โลกธาตุนี้มันกว้างใหญ่
ตาเนื้อมองไปก็เห็นแต่วัตถุเท่านั้นเอง
Arty K.
03 02 2014