มีไม่กี่สิ่ง ที่รบกวนชีวิตของข้าพเจ้า
ทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
ว่าด้วยเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง
สิ่งที่รบกวนข้าพเจ้ามากที่สุด
น่าจะเป็นเสียง
ตามมาด้วย กลิ่น
สิ่งประดิษฐ์ที่ข้าพเจ้าเกลียดที่สุดในสามโลก
ตั้งแต่เกิดมา
คือนาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ชอบนาฬิกาปลุก
ซึ่งหากจะใช้นาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าจะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
โดยปกติแล้ว
คนเราสามารถตื่นเองได้
ถ้าเรากำหนดใจเราไว้ดีพอ
ข้าพเจ้าไม่เคยใช้นาฬิกาปลุก ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ไม่เคยใช้
มันตื่นของมันเองเมื่อถึงเวลา
คนเรามันต้องตื่น
ถ้านอนครบตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องนอน
นาฬิกาปลุกจะไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ข้าพเจ้าเลย
หากข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องนอนร่วมกับคนอื่น
ที่ใช้นาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าสามารถอดทนได้หากมันปลุกเพียงครั้งเดียว
แล้วหยุด
แต่การที่นาฬิกาปลุกถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
ถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
ถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
อยู่ร่ำเรื่อย
เหมือนมันจะไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าทนไม่ได้
นอกจากทำให้รำคาญแล้ว
มันยังทำให้ต้องคอยลุ้นว่า
เมื่อไหร่มันจะดังขึ้นมาอีก
ทำไมคนใช้นาฬิกาปลุกมันไม่ตื่นไม่ลุกขึ้นสักที
ความจริงข้าพเจ้าเคยมีนิสัยแบบนี้
เพราะเคยใช้นาฬิกาปลุกอยู่ช่วงหนึ่ง
คือกดมันไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเกิดคำถามว่า
จะทำทำไม
ทำไมเราไม่ไปตั้งปลุกเอาเวลาที่เราอยากตื่นเลยเสียทีเดียว
จะปลุกเผื่อ จะตั้งเผื่อทำไม
เพราะการตั้งเผื่อนอกจากจะทำให้ได้นอนน้อยแล้ว
ยังทำให้นอนไม่เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากถูกนาฬิกาปลุกรบกวน
ซ้ำยังบ่มเพาะนิสัยผัดวันประกันพรุ่งเสียอีก
ถ้าอยากตื่นหกโมงก็ตั้งหกโมง
หรือถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบนอนต่ออีกหน่อยหลังตื่น
ก็ตั้งหกโมงครึ่งไปเลยเหอะ
ความจริงจะตั้งปลุกกี่โมงกี่ยาม
หรือมีนิสัยการนอนอย่างไรก็ไม่สำคัญ
ถ้าใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ข้าพเจ้าเคยใช้ชีวิตอยู่กับรูมเมท
บางทีก็รำคาญนาฬิกาปลุก
เคยใช้ชีวิตอยู่กับรุ่นพี่คนหนึ่ง
สมัย ม.ปลาย
ก็รำคาญนาฬิกาปลุก
ไม่รู้ว่าชีวิตข้าพเจ้ามันไปทำบาปทำกรรมส้นตีนอะไรนักหนากับนาฬิกาปลุก
นี่เองที่ทำให่้ข้าพเจ้าไม่ชอบใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
ไม่ชอบเข้าไปในวงของผู้คน
เพราะข้าพเจ้ารำคาญเสียง
ข้าพเจ้าชอบอยู่เงียบ ๆ
ต้องการตื่นอย่างสงบ
ไม่ใช่ตื่นด้วยเสียงอันน่ารำคาญของนาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าเป็นคนหลับยาก
และไม่ชอบให้ใครปลุก
ข้าพเจ้าชอบนอนที่นอนกว้าง ๆ
ที่นอนแคบ ๆ ทำให้ข้าพเจ้าอึดอัดและนอนหลับยากยิ่งขึ้น
กว่าจะนอนได้ข้าพเจ้ามักคิดถึงอะไรต่าง ๆ
บางทีถ้าคิดเรื่องได้ หรือมีไอเดียอะไรผุดขึ้นมา
ก็ต้องลุกขึ้นมาจดไว้
ไม่อย่างนั้นมันจะลืม
นิสัยอย่างนี้มันเป็นตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
แรก ๆ ข้าพเจ้าคิดอะไรดี ๆ ได้
แต่ไม่จด
พยายามจำเอาไว้
แต่ตื่นเช้ามากลับลืม
ทำให้ข้าพเจ้าได้บทเรียนว่า
ถ้าคิดอะไรได้ต้องจด
ไม่งั้นหายไปแน่ ๆ
บางอย่างหายไปอย่างไม่มีวันกลับ
ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ชอบให้ใครปลุก
ข้าพเจ้าจะตื่นด้วยตัวเองจึงจะมีความสุข
หากใครปลุกให้ข้าพเจ้าตื่น
ข้าพเจ้าจะหงุดหงิด
การปลุกที่ทำให้ข้าพเจ้าหงุดหงิดที่สุดก็คือ
การปลุกด้วยเสียง
หมายถึงเสียงของคนที่ตะโกนเรียกชื่อข้าพเจ้า
หรือตะโกนปลุกให้ตื่น
เพราะมันทำให้ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่น
การปลุกคนให้ตื่นควรมีศิลปะ
เช่นในรั้วในวัง เขาก็จะใช้วิธีการบีบนวดเบา ๆ
ไม่ใช่แหกปากวากวาย
มีแต่คนไร้การศึกษาเท่านั้น
ที่ปลุกคนอื่นตื่นด้วยการแหกปาก
หรือไม่ก็คนที่กำลังโกรธ
ข้าพเจ้าเป็นคนนอนดึก
บางทีอาจจะตีสามตีสี่
หรือไม่ก็จนเช้า จนสว่างก็ยังไม่ได้นอน
หากต้องทำงานหรืออ่านหนังสือที่ชอบ
ด้วยเหตุนี้
ข้าพเจ้าจึงไม่เหมาะใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
เพราะจะเป็นการรบกวนคนอื่น
หรือหากไม่
ข้าพเจ้าก็ควรมีห้องเป็นของตัวเองเฉพาะ
ข้าพเจ้าชอบทำงานตอนกลางคืน
กลางคืนจะเงียบเป็นพิเศษ
และมีความโรแมนติก
ที่ทำให้เราอยากจะบรรยายความรู้สึก
หรือนึกคิดอะไรที่มันกว้างขวาง ลึกซึ้งออกไป
แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังใช้เวลาช่วงกลางคืน
ในการภาวนาเพื่อตรัสรู้ธรรม
ไปบรรลุเอาตอนใกล้รุ่ง
เพราะกลางคืนมีคุณสมบัติแห่งความเงียบ สงบ
กว้างขวาง ลึกซึ้ง
เหมาะแก่การงานที่ต้องใช้สติปัญญาและความนึกคิดตริตรองนั่นเอง
ข้าพเจ้าเกลียดแสงไฟเวลานอน
มันเป็นเพราะนิสัยแต่เด็ก
ที่ติดตามมาว่า
การนอนต้องปิดไฟ
แต่แท้แล้วธรรมาชาติสร้างคนเรามาให้ต้องปิดไฟตอนนอน
การมีแสงสว่างจะทำให้ฮอร์โมนแห่งการหลับใหลไม่ทำงาน
แต่ฮอร์โมนแห่งการตื่นจะทำงานแทน
ทำให้หลับไม่สนิท
เสียงก๊องแก๊ง กึกกัก อันเนื่องมาแต่ความไม่สำรวมระวัง
หรือไม่ใส่ใจคนอื่นที่หลับอยู่หรือทำงานอยู่
ก็ทำให้ข้าพเจ้ารำคาญเวลาทำงาน
หากนอนหลับอยู่
ก็มักจะตื่นเพราะเสียงเหล่านี้เสมอ
พอตื่นแล้วก็จะหงุดหงิด
เพราะเสียงพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
จนกว่าต้นกำเนิดเสียงจะหายไปนั่นแหละ
ข้าพเจ้าจึงไม่ชอบใช้ชีวิตร่วมกับคนมือหนักตีนหนัก
ทำอะไรโครมคราม
ไม่สำรวมในการเดินการนั่งการหยิบจับสิ่งของอะไรต่าง ๆ
ทุกวันนี้ข้าพเจ้าคิดพึ่งพานาฬิกาปลุก
เพียงแค่เวลาเดียวเท่านั้น
คือเวลาที่ต้องมีธุระตอนเช้ามาก ๆ
ที่คิดว่าจะตื่นไม่ทัน
ความจริงถ้ามีธุระเช้ามาก ๆ
ข้าพเจ้ามักจะไม่นอน
แต่ถ้านอน
ก็จะตั้งปลุกเผื่อไว้
แต่แท้แล้วข้าพเจ้าก็มักตื่นก่อนมันเสมอ
สิ่งเดียวหรือห้วงเวลาเดียว
ที่จะทำให้ข้าพเจ้าหลับไปเลยเมื่อหัวถึงหมอน
และไม่สะดุ้งตื่นเมื่อมีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ มารบกวน
ก็คือ
"ความเหนื่อยเหลือจะทน"
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
ว่าด้วยเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง
สิ่งที่รบกวนข้าพเจ้ามากที่สุด
น่าจะเป็นเสียง
ตามมาด้วย กลิ่น
สิ่งประดิษฐ์ที่ข้าพเจ้าเกลียดที่สุดในสามโลก
ตั้งแต่เกิดมา
คือนาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ชอบนาฬิกาปลุก
ซึ่งหากจะใช้นาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าจะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
โดยปกติแล้ว
คนเราสามารถตื่นเองได้
ถ้าเรากำหนดใจเราไว้ดีพอ
ข้าพเจ้าไม่เคยใช้นาฬิกาปลุก ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ไม่เคยใช้
มันตื่นของมันเองเมื่อถึงเวลา
คนเรามันต้องตื่น
ถ้านอนครบตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องนอน
นาฬิกาปลุกจะไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ข้าพเจ้าเลย
หากข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องนอนร่วมกับคนอื่น
ที่ใช้นาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าสามารถอดทนได้หากมันปลุกเพียงครั้งเดียว
แล้วหยุด
แต่การที่นาฬิกาปลุกถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
ถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
ถูกกดหยุด
แล้วปลุกใหม่
อยู่ร่ำเรื่อย
เหมือนมันจะไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าทนไม่ได้
นอกจากทำให้รำคาญแล้ว
มันยังทำให้ต้องคอยลุ้นว่า
เมื่อไหร่มันจะดังขึ้นมาอีก
ทำไมคนใช้นาฬิกาปลุกมันไม่ตื่นไม่ลุกขึ้นสักที
ความจริงข้าพเจ้าเคยมีนิสัยแบบนี้
เพราะเคยใช้นาฬิกาปลุกอยู่ช่วงหนึ่ง
คือกดมันไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเกิดคำถามว่า
จะทำทำไม
ทำไมเราไม่ไปตั้งปลุกเอาเวลาที่เราอยากตื่นเลยเสียทีเดียว
จะปลุกเผื่อ จะตั้งเผื่อทำไม
เพราะการตั้งเผื่อนอกจากจะทำให้ได้นอนน้อยแล้ว
ยังทำให้นอนไม่เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากถูกนาฬิกาปลุกรบกวน
ซ้ำยังบ่มเพาะนิสัยผัดวันประกันพรุ่งเสียอีก
ถ้าอยากตื่นหกโมงก็ตั้งหกโมง
หรือถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบนอนต่ออีกหน่อยหลังตื่น
ก็ตั้งหกโมงครึ่งไปเลยเหอะ
ความจริงจะตั้งปลุกกี่โมงกี่ยาม
หรือมีนิสัยการนอนอย่างไรก็ไม่สำคัญ
ถ้าใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
ข้าพเจ้าเคยใช้ชีวิตอยู่กับรูมเมท
บางทีก็รำคาญนาฬิกาปลุก
เคยใช้ชีวิตอยู่กับรุ่นพี่คนหนึ่ง
สมัย ม.ปลาย
ก็รำคาญนาฬิกาปลุก
ไม่รู้ว่าชีวิตข้าพเจ้ามันไปทำบาปทำกรรมส้นตีนอะไรนักหนากับนาฬิกาปลุก
นี่เองที่ทำให่้ข้าพเจ้าไม่ชอบใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
ไม่ชอบเข้าไปในวงของผู้คน
เพราะข้าพเจ้ารำคาญเสียง
ข้าพเจ้าชอบอยู่เงียบ ๆ
ต้องการตื่นอย่างสงบ
ไม่ใช่ตื่นด้วยเสียงอันน่ารำคาญของนาฬิกาปลุก
ข้าพเจ้าเป็นคนหลับยาก
และไม่ชอบให้ใครปลุก
ข้าพเจ้าชอบนอนที่นอนกว้าง ๆ
ที่นอนแคบ ๆ ทำให้ข้าพเจ้าอึดอัดและนอนหลับยากยิ่งขึ้น
กว่าจะนอนได้ข้าพเจ้ามักคิดถึงอะไรต่าง ๆ
บางทีถ้าคิดเรื่องได้ หรือมีไอเดียอะไรผุดขึ้นมา
ก็ต้องลุกขึ้นมาจดไว้
ไม่อย่างนั้นมันจะลืม
นิสัยอย่างนี้มันเป็นตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
แรก ๆ ข้าพเจ้าคิดอะไรดี ๆ ได้
แต่ไม่จด
พยายามจำเอาไว้
แต่ตื่นเช้ามากลับลืม
ทำให้ข้าพเจ้าได้บทเรียนว่า
ถ้าคิดอะไรได้ต้องจด
ไม่งั้นหายไปแน่ ๆ
บางอย่างหายไปอย่างไม่มีวันกลับ
ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ชอบให้ใครปลุก
ข้าพเจ้าจะตื่นด้วยตัวเองจึงจะมีความสุข
หากใครปลุกให้ข้าพเจ้าตื่น
ข้าพเจ้าจะหงุดหงิด
การปลุกที่ทำให้ข้าพเจ้าหงุดหงิดที่สุดก็คือ
การปลุกด้วยเสียง
หมายถึงเสียงของคนที่ตะโกนเรียกชื่อข้าพเจ้า
หรือตะโกนปลุกให้ตื่น
เพราะมันทำให้ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่น
การปลุกคนให้ตื่นควรมีศิลปะ
เช่นในรั้วในวัง เขาก็จะใช้วิธีการบีบนวดเบา ๆ
ไม่ใช่แหกปากวากวาย
มีแต่คนไร้การศึกษาเท่านั้น
ที่ปลุกคนอื่นตื่นด้วยการแหกปาก
หรือไม่ก็คนที่กำลังโกรธ
ข้าพเจ้าเป็นคนนอนดึก
บางทีอาจจะตีสามตีสี่
หรือไม่ก็จนเช้า จนสว่างก็ยังไม่ได้นอน
หากต้องทำงานหรืออ่านหนังสือที่ชอบ
ด้วยเหตุนี้
ข้าพเจ้าจึงไม่เหมาะใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
เพราะจะเป็นการรบกวนคนอื่น
หรือหากไม่
ข้าพเจ้าก็ควรมีห้องเป็นของตัวเองเฉพาะ
ข้าพเจ้าชอบทำงานตอนกลางคืน
กลางคืนจะเงียบเป็นพิเศษ
และมีความโรแมนติก
ที่ทำให้เราอยากจะบรรยายความรู้สึก
หรือนึกคิดอะไรที่มันกว้างขวาง ลึกซึ้งออกไป
แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังใช้เวลาช่วงกลางคืน
ในการภาวนาเพื่อตรัสรู้ธรรม
ไปบรรลุเอาตอนใกล้รุ่ง
เพราะกลางคืนมีคุณสมบัติแห่งความเงียบ สงบ
กว้างขวาง ลึกซึ้ง
เหมาะแก่การงานที่ต้องใช้สติปัญญาและความนึกคิดตริตรองนั่นเอง
ข้าพเจ้าเกลียดแสงไฟเวลานอน
มันเป็นเพราะนิสัยแต่เด็ก
ที่ติดตามมาว่า
การนอนต้องปิดไฟ
แต่แท้แล้วธรรมาชาติสร้างคนเรามาให้ต้องปิดไฟตอนนอน
การมีแสงสว่างจะทำให้ฮอร์โมนแห่งการหลับใหลไม่ทำงาน
แต่ฮอร์โมนแห่งการตื่นจะทำงานแทน
ทำให้หลับไม่สนิท
เสียงก๊องแก๊ง กึกกัก อันเนื่องมาแต่ความไม่สำรวมระวัง
หรือไม่ใส่ใจคนอื่นที่หลับอยู่หรือทำงานอยู่
ก็ทำให้ข้าพเจ้ารำคาญเวลาทำงาน
หากนอนหลับอยู่
ก็มักจะตื่นเพราะเสียงเหล่านี้เสมอ
พอตื่นแล้วก็จะหงุดหงิด
เพราะเสียงพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
จนกว่าต้นกำเนิดเสียงจะหายไปนั่นแหละ
ข้าพเจ้าจึงไม่ชอบใช้ชีวิตร่วมกับคนมือหนักตีนหนัก
ทำอะไรโครมคราม
ไม่สำรวมในการเดินการนั่งการหยิบจับสิ่งของอะไรต่าง ๆ
ทุกวันนี้ข้าพเจ้าคิดพึ่งพานาฬิกาปลุก
เพียงแค่เวลาเดียวเท่านั้น
คือเวลาที่ต้องมีธุระตอนเช้ามาก ๆ
ที่คิดว่าจะตื่นไม่ทัน
ความจริงถ้ามีธุระเช้ามาก ๆ
ข้าพเจ้ามักจะไม่นอน
แต่ถ้านอน
ก็จะตั้งปลุกเผื่อไว้
แต่แท้แล้วข้าพเจ้าก็มักตื่นก่อนมันเสมอ
สิ่งเดียวหรือห้วงเวลาเดียว
ที่จะทำให้ข้าพเจ้าหลับไปเลยเมื่อหัวถึงหมอน
และไม่สะดุ้งตื่นเมื่อมีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ มารบกวน
ก็คือ
"ความเหนื่อยเหลือจะทน"
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖