พูดเกี่ยวกับการเขียน
ซึ่งข้าพเจ้าไม่ค่อยได้พูด
ในรายละเอียด
ของการทำงาน
มากนัก
เล่มนี้
เป็นนิยายเรื่องแรกของข้าพเจ้าก็ว่าได้
ข้าพเจ้าเริ่มเขียนหนังสือจริง ๆ จัง ๆ
ก็ราว ๆ ปี ๒๕๔๗
แต่ถ้านับเริ่มเขียนจริง ๆ
ก็ตั้งแต่ปี ๒๕๔๐
กับโคลงบทแรก
ความจริงมันเริ่มจากการเขียนบันทึกประจำวันก่อน
ข้าพเจ้าได้สมุดบันทึก
ซึ่งเป็นรางวัลการสอบได้ที่ ๑
ตอน ม.๑
จากอาจารย์ที่ปรึกษา
เป็นสมุดบันทึกที่สวยมาก
แม้มันจะแลดูคิกขุหน่อย
แต่ข้าพเจ้าก็ชอบมัน
และจากนั้นก็เขียนบันทึกเรื่อยมา
แท้แล้วข้าพเจ้ามีโปรเจ็กทำหนังสือเรียน
สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.๕
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องพิสดารอะไร
เพราะข้าพเจ้าก็ชอบทำนั่นทำนี่อยู่เสมอ
ปี ๒๕๔๗ เป็นปีที่ข้าพเจ้า
ส่งงานเขียนเข้าประกวดเป็นครั้งแรก
เป็นหนังสือทำมือ
นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าจัดทำรูปแบบหนังสือ
แต่ก็เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า
ได้เริ่มทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการขีด ๆ เขียน ๆ
อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
เป็นการประกวดของชมรมวรรณศิลป์ จุฬาฯ
ชื่อ I ; Indy
รางวัลมีสามแบบ
คือ ชนะเลิศ
เนื้อหาดีเด่น
และรูปเล่มดีเด่น
ข้าพเจ้าตั้งใจจะเอารางวัลเนื้อหาดีเด่น
เพราะคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถทำหนังสือให้ชนะเลิศได้
ถ้าเทียบกับหัวข้อการประกวด
และข้าพเจ้าไม่สามารถทำหนังสือรูปแบบดีเด่นได้แน่นอน
ข้าพเจ้าขุดโคลงที่แต่งตั้งแต่สมัยเรียน ม. ๓
ขึ้นมาแต่งต่อ
ตอนนั้นข้าพเจ้าแต่งไว้แค่สองสามบท
จากระยะเวลาที่ผ่านเลยมาสี่ปี
บทกวียังอยู่
ข้าพเจ้าแพลนโครงเรื่อง
และในที่สุด
ก็ได้มาเป็นโคลงสี่สุภาพ
ประมาณ ๓๓-๓๔ บท
ถ้าจำไม่ผิด
และข้าพเจ้าก็ได้รับความกรุณาจากเพื่อนร่วมรุ่น
ถึงสองคน
วาดภาพประกอบให้
ซึ่งเป็นภาพประกอบที่ข้าพเจ้าชอบมาก
เพราะมันสวย
และเข้ากับเรื่องได้เป็นอย่างดี
ข้าพเจ้าคิดในใจถึงรูปแบบหนังสือ
ทดลองจัดหน้าด้วยมือ
วางเลย์เอาท์ทั้งหมด
คิดแม้กระทั่งจะเอาหน้าปกเป็นกระดาษอะไร
ซึ่งกระดาษที่ข้าพเจ้าอยากได้
มันไม่มีขายเป็นแผ่น ๆ แบบ A4
ก็ต้องไปซื้อแผ่นใหญ่ ๆ มาตัด
และด้วยความกรุณาของรูมเมท
ข้าพเจ้าก็ได้ใช้คอมฯ ของเขาพิมพ์
และปริ๊นท์ออกมา
จำไม่ได้ว่าข้าพเจ้าใช้เครื่องสแกนของรูมเมทหรือ
ของห้องคอมหอพัก
แต่มันก็สำเร็จเป็นรูปเล่ม
ผลประกาศรางวัล
ข้าพเจ้าก็ได้รางวัลเนื้อหาดีเด่น
อย่างที่อยากได้
จากการที่ไปฟังวันมอบรางวัล
กรรมการสองท่าน
เลือกเล่มนี้
อีกท่านไม่ได้เลือก
มันเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ
ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเข้ามาสู่วังวนของการทำหนังสือ
ทุกวันนี้การทำหนังสือของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าทำเองทุกอย่าง
ตั้งแต่เขียนเอง
บรรณาธิการเอง
จัดหน้าเอง
ออกแบบปก ทำปก ภาพประกอบ
ติดต่อสายส่ง/โรงพิมพ์เอง
จ่ายเงินเอง
ISBN ห่าเหวอะไรก็จัดการเองทั้งหมด
พิสูจน์อักษรเอง
(แต่ก็ให้คนอื่นอ่าน/เช็คให้อีก
เพราะหลาย ๆ ครั้งมันเคยชิน
เรามักจะไม่เห็นตรงที่ผิด
ข้าพเจ้าเคยแม้กระทั่ง
ให้น้องอ่านออกเสียงให้ฟังทั้งเล่ม)
รวมถึงบางครั้ง
ก็เอาหนังสือไปส่งให้สายส่งเอง
โดยขนใส่แท็กซี่ไป
เพราะมีปกหนึ่ง
ที่พิมพ์ผิด
ข้าพเจ้าต้องนั่งแปะสติ๊กเกอร์เอง
(ประมาณ ๑๐๐๐ เล่ม เล่มละ ๕-๖ จุด
และแน่นอนว่า ข้าพเจ้าทำสติ๊กเกอร์เอง
ตัดเองอีกต่างหาก)
โดยมีน้องนุ่ง และคนที่ผ่านไปมาช่วยเหลือ
นั่งทำทั้งวันทั้งคืนใต้หอพัก
สองสามวันติดกัน
แล้วในที่สุด
ก็ขาดทุนเอง
ข้าพเจ้าเริ่มตั้งแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการพิมพ์เลย
จนกระทั่งรู้หลาย ๆ อย่าง
และทำในทุกกระบวนการ
แม้กระทั่งขายหนังสือ
ข้าพเจ้าก็เคยไปขายในงานสัปดาห์หนังสือ
เหลืออยู่อย่างเดียวที่ไม่ได้ทำ
คือ เปิดร้านหนังสือ
ซึ่งไม่คิดว่าจะทำ
แต่ก็ไม่แน่
ข้าพเจ้าไม่สามารถหยั่งรู้อนาคต
ธัชชัย ธัญญาวัลย
๘ ตุลาคม ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น