ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

ปากหมาอย่าว่ากัน


มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้

ที่ใครจะว่าใคร

หรือใครจะด่าใคร

แต่อย่าให้มันมากเกินไปก็เกินพอ


วันก่อนมีคนมาทำฟัน

ปวด

ไอ้อาการปวดนี่น่าจะเป็น

"อาการสำคัญ"

อันดับหนึ่งของประชากรไทย

ที่มาหาหมอฟัน

ไม่น้อยไปกว่าอาการอื่น


โดยนิสัยมนุษย์ไทยแล้ว

ขึ้นชื่อว่า

ไม่เห็นโลงศพ  ไม่หลั่งน้ำตา

เป็นอะไรขึ้นมาแล้วค่อยถ่อสังขารมาหาหมอ

ซึ่งความจริงก็น่าจะถูกต้อง

ไม่เป็นโรคาพยาธิอันใดจะไปหาหมอทำซากอะไร

ถ้าไม่ใช่อยากได้หมอเป็นเมีย(ผัว)

ชะ

โรคบางประเภทนั้น

ก็ถูกต้อง

ที่ว่า

เราจะไปหาหมอเมื่อมันเป็น

แต่โรคบางประเภท

โรคของอวัยวะบางอย่าง

เป็นโรคที่ป้องกันได้

ถ้าไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ไอ้คำว่าประจำนี่ก็ประมาณ  6  เดือนครั้ง

หรือสองครั้งในหนึ่งปีว่างั้นเหอะ

ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครมันเป็นคนริเริ่มกำหนด

หรือมีหลักฐานทางการแพทย์อันใดมาสนับสนุนยืนยันว่า

ทำไมต้อง  หกเดือนครั้ง

(อันนี้ถ้าขยันไปหาอ่านก็น่าจะมี  แต่เนื่องด้วยข้าพเจ้าเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือ

จึงขี้เกียจหาโดยปริยาย  ก็ทึกทักทำเป็นถามเอาว่าใครมันกำหนดนี่แหละ)


โรคฟันเป็นหนึ่งในโรคอีกหลาย ๆ  โรค

ที่ถ้าไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ท่านจะปราศจากโรคของฟันได้

อันนี้ยืนยัน

มีหลักฐานหลายชิ้นที่สนับสนุนว่า

ฟันของคนเราสามารถอยู่ในปากได้จนกว่าชีวิตจะหาไม่

และอยู่อย่างมีสุขภาพดีด้วย

ถ้าดูแลมันดี ๆ

ซึ่งขัดกับความเชื่อที่ว่า

แก่แล้วฟันหลุด


มีการรณรงค์โดยองค์การอนามัยโลก (เมื่อไหร่วะ)

ว่า  80-20

เอ๊ทตี้ทเว็นตี้

คือ  อายุแปดสิบ  ให้เหลือฟันอย่างน้อย  ยี่สิบซี่

ขอมากไปไหม?

สำหรับไทยประเทศ


คนไทยกี่เปอร์เซ็นต์ที่มีฟันถึงยี่สิบซี่เมื่ออายุแปดสิบ

เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

แต่ก็อาจไม่น่าสนใจเท่า

มีคนไทยกี่คน

ที่อายุถึงแปดสิบ

เรามักอ้างรายงานทั้งทางการแพทย์  สังคม  วัฒนธรรม  สิ่งแวดล้อม

หรือตำราห่าเหวใด ๆ  ทั้งหมดทั้งสิ้นว่า

เรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

และเราได้รับความรู้อยู่เสมอว่า

เดี๋ยวนี้การแพทย์เจริญขึ้น  คนอายุยืนขึ้น

แต่ไม่ได้บอกว่า

มีความสุขมากขึ้นหรือเปล่า

อายุยืนแต่นอนหายใจพะงาบ ๆ

หรือนอนเป็นผักป่วยตัวเปื่อยอยู่โรงพยาบาลกี่คน

ใช้งบประมาณเท่าไหร่

ใครเป็นคนจ่าย


กลับมาที่ปวดฟันต่อ

นักศึกษาอายุยี่สิบ

ปวดฟัน

X-ray  ดู

เห็นถุงหนองเบ้อเร่อ

เบ้อเร่อในทางทันตแพทย์นี้ก็ประมาณ

1.0x1.5  cm

ฟังดูเหมือนเล็ก

แต่ความจริงแล้ว

ใหญ่มาก

ถ้าจะให้พูดจริง ๆ  ต้องพูดว่า

10x15  mm

อันนี้พูดกันเชิงสองมิติ

ทันตแพทย์พูดหน่วยกันเป็นมิลลิเมตร

สอง-สาม มิล.  อาจดูเหมือนนิดเดียว

แต่ถ้ามันอยู่ในฟันเมื่อไหร่

ก็ถือว่า  "ลึก"  แล้ว

เทียบง่าย ๆ

ไอ้ถุงหนองที่ว่า

มันก็ประมาณนิ้วหัวแม่โป้ง

มีถุงเท่านิ้วหัวแม่โป้งไปยัดอยู่ในกระดูกขากรรไกร

ให้ตาย

จากด้านริมฝีปากมันทะลุไปถึงเพดาน

ไม่ให้มันปวดจะไหวเรอะ

หนองทั้งนั้น

ซึ่งขั้นนี้น่าจะเรียกได้ว่า

"ฝี"

ฟังดูน่ากลัว

เจาะออกมาไหลทะลักล้น

ทั้งสีเหลืองสีแดงแก่แดงอ่อน  สีน้ำตาลแก่น้ำตาลอ่อน

สีด่างสีดำ  เนื้อเน่าข้างใน

ดู ๆ  ไป  ยังกะ

ถูกเสกของเข้าปาก

ซึ่งนั่นไม่สำคัญเท่า

ยาชามักจะด้อยประสิทธิภาพเมื่อมีหนองพวกนี้อยู่

ทำไปเจ็บไป  น้ำหูน้ำตาไหล

ไม่รู้ทำบาปกรรมอันใดไว้นักหนา

น่าจะลองไปให้เจนยานทิพรส

สแกนกรรม  ดูบ้าง

เผื่อเผลอ ๆ  ก็ให้ท่านช่วยดีลีททิ้งด้วยซะเลย

จะได้ไม่ต้องลำบากลากขามาหาหมอฟัน


อย่างไรก็ตาม

อันนี้น่าจะเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า

ถ้าปวดฟัน  อย่าเพิ่งไปถอนฟัน

ความจริงมันไม่มีทฤษฎีไหนรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ในทุก ๆ  กรณีว่า

ปวดฟันแล้วห้ามถอน

มันถอนได้

แต่ถอนแล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น

หรือหลังจากนั้น

มันก็อีกเรื่องหนึ่ง

และจะป้องกันแก้ไขอย่างไร

ก็เป็นอีกคนละเรื่องเดียวกัน

หากเรื่องมันไม่จบเท่านี้

ถ้าทุกคนยอมรับสภาพ

แต่บางที

คนเราก็ชอบโทษคนอื่น

หมอทำเจ็บ

ราคาแพง

นั่นนู่นนี่

โอดครวญสารพัด

ทั้งที่ความจริงแล้วอยากจะถามเหลือเกินว่า

ก็นั่นฟันใครวะ

ใครเป็นคนปล่อยปละละเลยให้มันปวดจนเป็นบ้าอย่างนั้น

หมอฟันไปเสกแบคทีเรียเชื้อโรคเข้าปากคุณหรือเปล่า

บอกให้มาตรวจทุกหกเดือนเคยมาตามนัดบ้างมั้ย

หินปูนยังกะกำแพงเมืองจีน

อยากให้หมอขูดหินปูนแบบเบา ๆ  ไม่เจ็บ

ในสถานการณ์ปกติที่ขูดกันมันก็เป็นไปไม่ได้

นอกจากจะฉีดยาให้มันชาทั้งปาก

นะ


บ่นกันเล่น ๆ

ปากหมาอย่าว่ากัน

(ฮา)

แต่ถ้าอยากว่า

ก็ไม่มีใครห้ามใครได้อยู่ดี


Arty  House
27  09  2555



ไม่มีความคิดเห็น: