ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

เมตตาอุปปารมี

เมื่อค่อนรุ่งของเมื่อวาน


ข้าพเจ้าฝันไป



ฝันเห็นนก



นกตัวหนึ่งถูกยิง



และบาดเจ็บ



มันบินไป



และถูกยิงอีกหลายครั้ง



ได้ยินเสียงปีกมันดังพึบพับ



ในฝันนั้น



ข้าพเจ้าร้องไห้สงสารนก



และรู้สึกว่าน้ำตาไหล จึงตื่นขึ้น



น้ำตามันไหลออกมาจริง ๆ



หลับตาลงไปใหม่



ฝันซ้ำ เห็นนกตัวเดิม



แต่ตอนนี้มีนกอีกตัวหนึ่งมาช่วยอุ้มนกตัวดังกล่าว



มันทั้งสองถูกยิงพร้อมกัน



ข้าพเจ้าบังเกิดความสงสารนก



และคิดว่า นกนี้ช่างน่าสงสาร



ใครเล่าจักพยาบาลนกที่ได้รับบาดเจ็บนี้



มันคงต้องเสียชีวิตเป็นแน่แท้



คิดดังนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาในฝัน



และไหลออกมาจริง ๆ อีกครั้ง





ปกติข้าพเจ้าเป็นคนร้องไห้ยาก



แต่เมื่อตอนเป็นเด็กเป็นคนร้องไห้ง่ายมาก



โดนแกล้งนิดหน่อยก็จะร้องไห้



เมื่อเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น



การร้องไห้ก็ไม่เกิดขึ้นเลย



และข้าพเจ้าก็ตรึกไว้ว่า



จะไม่ร้องไห้



แต่บางครั้งมันก็ยากจะทำใจ





ข้าพเจ้าร้องไห้ยากจนกระทั่ง



ร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำทนเก็บความเจ็บปวดไม่ไหว



จนต้องไปร้องไห้ในฝัน



หรืออย่างไร



บางครั้ง



มันก็เป็นแค่ความฝัน



และบางครั้ง



ที่ฝันก็เพราะมันฝันไปเอง





เมื่อตอนเป็นเด็ก



ข้าพเจ้าจะต้องเดินไป-กลับโรงเรียน



ผ่านบ้านที่มีฝูงหมาที่ดุร้าย



กลางวันก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก



แต่บางครั้ง



ข้าพเจ้าก็กลับบ้านมืดค่ำ



ก่อนที่จะถึงบ้านนั้น



บางครั้ง



ข้าพเจ้าก็ตั้งต้นว่ิง



ทั้งที่รู้ว่า



หมามันชอบวิ่งไล่วัตถุที่เคลื่อนที่





ต่อมาข้าพเจ้าไม่วิ่ง



แต่ก็ยังกลัวหมา



ข้าพเจ้าคิดหาทางว่า



จะเอาชนะใจหมาได้อย่างไร



ประกอบกับช่วงนั้นเป็นช่วงแห่งการเริ่มปฏิบัติธรรม



ข้าพเจ้าจึงแผ่เมตตาแก่หมา



ข้าพเจ้าแผ่เมตตาแก่มันทุกคืน



ด้วยหวังว่า มันจะดีขึ้นและเลิกล้มความคิดที่จะกัดข้าพเจ้า



แผ่เมตตาจนกระทั่งว่า



ในความฝัน



ข้าพเจ้าฝันว่าหมากัดข้าพเจ้า



ตอนแรกข้าพเจ้าจะตีมัน



แต่ในจิตขณะนั้นมีการเตือนว่า



ต้องแผ่เมตตาให้แก่มัน



ข้าพเจ้าก็แผ่เมตตาแก่มันในฝัน



เป็นความอัศจรรย์ใจของข้าพเจ้าในครั้งกระโน้นเป็นอย่างยิ่ง



ครั้งที่ยังเป็นเด็ก



แม้ทุกวันนี้ด้วยอานิสงส์แห่งการฝึกสติ



แม้กระทั่งในฝัน



ก็ยังมีความเมตตาปรากฏ



ข้าพเจ้าจีึงได้ข้อคิดว่า



เวลาที่เราทำอะไร



หรือเราฝึกจิตเพื่ออย่างใด



มันต้องให้เข้าไปลึกซึ้ง



จนถึงขนาดที่ว่า



ตอนฝันอยู่นั้น มันยังอยู่กับเรา





แม้ว่าข้าพเจ้าจะแผ่เมตตาแก่หมากระทั่งในฝัน



หมามันน่าจะดีหรืออย่างน้อยก็เฉย ๆ แก่ข้าพเจ้าบ้าง



แต่ในความเป็นจริงหาเป็นไปเช่นนั้นไม่



หมายังคงจ้องจะกัดข้าพเจ้า



จนกระทั่งวันหนึ่ง



ข้าพเจ้ากลับบ้านดึกมาก



และแน่นอน



ฝูงหมารออยู่



ข้าพเจ้าไม่วิ่งอย่างที่เคย



เพราะเชื่อมั่นในอานุภาพแห่งเมตตาบารมี



หมาทั้งหลายเห่าบ้างเดินมาบ้างวิ่งมาบ้าง



กัดที่ข้อเท้าบ้างที่ขาบ้าง



แต่อาจจะเป็นเพราะ



อำนาจแห่งเมตตาหรืออำนาจแห่งกางเกงขายาวก็ไม่ทราบ



(แต่กางเกงนั้นเป็นแค่กางเกงวอร์มบาง ๆ ธรรมดา)



หมามันกัดข้าพเจ้าไม่เข้า



หรือบางที ตัวที่กัดมันอาจจะแก่แล้ว



หรือบางทีมันอาจจะกัดเบาไป



หรืออย่างไรก็แล้วแต่



ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจ



เพราะข้าพเจ้าเดินไม่เหลียวหลัง



คือเดินไปเรื่อย ๆ และในใจก็แผ่เมตตาตลอด



ข้าพเจ้านึกถึงพระสารีบุตร



ที่ถูกคนพาลเอาไม้ฟาดระหว่างที่ท่านบิณฑบาตร



แต่ท่านก็ไม่ได้หันกลับไปดู และไม่โกรธ



ข้าพเจ้าก็ถือเอาเรื่องนั้นเป็นหลักใจ



ไม่โกรธ และให้อภัย คือเมตตา



เป็นเมตตาอุปปารมี



คือเนื่องด้วยอวัยวะ





แล้วมันก็แปลกอย่างหนึ่ง



ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา



ในเส้นทางสายเดิม



หมามันก็ไม่มาเห่าหรือมากัดข้าพเจ้าอีกเลย



อาจเป็นเพราะข้าพเจ้าหมดเวรหมดกรรมกับมันที่ยอมให้มันกัดในวันนั้นก็เป็นได้



หรืออาจจะเพราะอย่างอื่นก็เป็นได้



และนี่ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่ง



ที่ทำให้ข้าพเจ้าหนักแน่นในคำสอนของพระพุทธเจ้า



เรื่องราวที่ทำให้ข้าพเจ้าหนักแน่นในคำสอนของพระพุทธเจ้านี้



มีหลายเรื่องมากในชีวิตตลอดยี่สิบหกปีของข้าพเจ้า



ว่าง ๆ ข้าพเจ้าจะเล่าในภายหลัง





ธัชชัย ธัญญาวัลย

30 05 2554



ไม่มีความคิดเห็น: