ผมก็นึกว่าวันนี้จะไม่ได้อัพบล็อกเสียแล้ว
สาเหตุก็เนื่องมาจาก
เมื่อวานไปค้างที่หอเพื่อน
วันนี้ก็คิดว่าคงกลับมาดึก
แต่ที่ไหนได้
เป็นการกลับมารวดเร็วกว่าที่คิดเสียอีก
ผมมีอะไรจะโชว์ให้ดู
เป็นใบเสร็จของแท็กซี่
อยากจะบอกว่าเดี๋ยวนี้แท้กซี่เขาพัฒนาแล้ว
ใบเสร็จนี้มีรายละเอียดที่ดี
เช่นเวลา ระยะทาง รวมถึงราคา
การมีเวลาปรากฏไว้ เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ของมนุษย์ที่ไม่สวมนาฬิกาอย่างข้าพเจ้า
สาเหตุที่ไม่สวมนาฬิกาเพราะ รำคาญ
อีกเหตุหนึ่งคือ ขี้เกียจ
และเหตุสุดท้าย คือ
ยังไม่มีนาฬิกาที่ถูกใจ
และผมก็ไม่ชอบใส่เครื่องประดับ
เคยใส่สร้อยข้อมืออยู่พักหนึ่ง
ก็เลิกไป
ความจริงไม่มีนาฬิกาติดไว้กับข้อมือก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตช้าลงหรือไม่ตรงต่อเวลาแต่อย่างใด
เพราะผมมนาฬิกาที่มือถือ
อยากดูเมื่อไหร่ก็ควักออกมาดู
หรือไม่ ก็อาศัยชำเลืองดูของคนอื่น
ซึ่งอันนี้ต้องระวัง
เพราะ เขาอาจจะปรับเวลาช้าหรือเร็วไม่เท่าปกติก็ได้
555+
เข้าเรื่องแท็กซี่กันต่อ
ผมนั่งแท็กซี่จากแยกวังหิน ลาดพร้าว มาที่ บีทีเอส หมอชิต
ใช้เวลา 11 นาที
เร็วมาก เพราะรถไม่ค่อยติดและไม่ติดไฟแดงด้วย
ไม่น่าเชื่อ
นี่ถ้าผมไม่ได้ดูเวลาที่ใบเสร็จผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินทางกี่นาทีกี่ชั่วโมงกันแน่
การได้รู้เวลาก็ดีอย่างหนึ่งว่า
มันไม่ได้ช้าตามที่เรารู้สึก หรือเร็วอย่างที่เราคาดคิด
คือความรู้สึกผมเวลานั่นแท็กซี่มันเหมือนช้ากว่าปกติ
นั่นคือความสัมพัทธ์
โดยเฉพาะกับเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย จะยิ่งรู้สึกช้าไปกันใหญ่
อ่ะนะ
ก็จบเรื่องนี้ไว้เท่านี้
เรื่องต่อไป
( วันนี้ผมอยากเล่าหลายเรื่อง )
ระหว่างที่ผมนั่งกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอาหารก็ได้ดูทีวี
ปกติผมไม่ดูทีวี
เพราะไม่ค่อยมีเวลา
ผมต้องไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่ ไม่มีเวลานั่งเฉย ๆ
ถ้านั่งเฉย ๆ ผมก็จะเขียน หรือ อ่านหนังสือ
ผมรับข่าวสารจากหนังสือพิมพ์และคำบอกเล่าเสียเป็นส่วนมาก
( ดังที่ทุกท่นทราบอยู่แล้วเป็นอย่างดี )
เช่น มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรใกล้ไกล จะมีคนโทรรายงานให้ฟังเสมอ
เข้าเรื่องกันต่อ
ก็อันเนื่องมาจากทีวีนี่แหละ
ที่เขานำเสนอภาพผู้สูงอายุ 2 คนวันนี้ ที่ยากไร้
ทำให้ผมนึกไปถึงระบบประชาสงเคราะห์
2 ตายาย นี่ไม่ได้เงินประชาสงเคราะห์หรืออย่างไร
ทำไมต้องยากจนขนาดได้มาออกทีวี
นอกจากนี้ผมก็นึกไปถึง
เช็คช่วยชาติ
ความจริงผมไม่อยากจะพาดพิงถึงการเมืองนัก
แต่ก็อดไม่ได้
ที่จริงผมก็สงสัยมานานตั้งแต่เขาจะแจกแล้วแหละ
ไอ้เช็คนี่น่ะ
ตาประสาคนรู้น้อยอย่างผม
ทำไมเช็คต้องแจกเฉพาะผู้เอาประกัน
ทำไมต้องให้เงินคนที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท
ผมว่า คนเงินเดือน 14,900 บาท หรือหมื่นต้น ๆ นี่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อย่างสบายเลยแหละ
( อาจจะไม่สบายมากแต่ถ้ารู้จักใช้สอยก็ไม่ลำบาก )
แล้วตาสีตาสาตามาตามี คนยากคนจนอีกตั้งมากมาย
มันหายไปไหน
เขาทำไมไม่แจก
หรือทำไมไม่เอางบส่วนนี้ไปใช้ตรงนั้น
จะบอกว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ให้คนจับจ่ายใช้สอย
มันเฉพาะคนที่เอาประกันและมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นห้าหรืออย่างไรที่ใช้สอยเป็น
ที่ซื้อของเป็น
แล้วทำไมต้องให้คนกลุ่มนี้
กลุ่มอื่นที่เขายากจนกว่านี้ไม่ลำบากหรือยังไง
บอกว่าจะมีนโยบายช่วยอีกที
ก็ไม่เห็นมีอะไร
งานโอท็อปก็เจ๊งไม่เป็นท่า
เงียบเหงายังกับเป่าสาก
อันนี้ผมไปเดินมาด้วยตัวเอง
แล้วช่วงที่แจกเช็คครั้งแรกก็ตรงกับงานโอท็อป
หวังว่าเขาจะอาเงินไปอุดหนุนโอท็อปหรือย่างไร
ผมล่ะสงสัยในรัฐบาลจริง ๆ
หรือว่าเพราะคนจน ๆ ในต่างจังหวัดเขารักทักษิณ
รัฐก็เลยไม่ยื่นมือไปช่วย
เพราะคิดว่ามันมาม็อบเสื้อแดงก็ได้เงินกันอยู่แล้ว
อย่างนั้นหรือเปล่า
ผมไม่ได้สีแดงหรือสีเหลือง สีขาว สีน้ำเงิน หรอกนะครับท่าน
อันนี้ผมพูดอย่างเป็นกลาง
และอย่าง งง ๆ
และน้อยอกน้อยใจแทนคนจนเหลือนัก
มันผิดนักใช่มั้ยที่เกิดมาจน
ขนาดเขาแจกเงินกัน ยังไม่มีสิทธิ์ได้
เพราะจนเกินไป
เพราะมันแจกยาก นับยาก ทำยาก
คิดลำบาก
เพราะอย่างนั้นหรือ
ห่าเอ๊ย!
ธัชชัย
03/05/2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น