ซื้อ E-BOOK

Thumbnail Seller Link
การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง
ธัชชัย ธัญญาวัลย
www.mebmarket.com
คุณจะสำรวจลึกลงไปในสิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวหนังสือ ผ่านถ้อยคำ ที่กรองประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มนี้ “การสำเร็จความโง่ด้วยตนเอง” กวีนิพนธ์เชิ...
Get it now

แท็กซี่กับคนจน ๆ



ผมก็นึกว่าวันนี้จะไม่ได้อัพบล็อกเสียแล้ว


สาเหตุก็เนื่องมาจาก


เมื่อวานไปค้างที่หอเพื่อน


วันนี้ก็คิดว่าคงกลับมาดึก


แต่ที่ไหนได้


เป็นการกลับมารวดเร็วกว่าที่คิดเสียอีก


ผมมีอะไรจะโชว์ให้ดู


เป็นใบเสร็จของแท็กซี่


อยากจะบอกว่าเดี๋ยวนี้แท้กซี่เขาพัฒนาแล้ว


ใบเสร็จนี้มีรายละเอียดที่ดี


เช่นเวลา ระยะทาง รวมถึงราคา


การมีเวลาปรากฏไว้ เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ของมนุษย์ที่ไม่สวมนาฬิกาอย่างข้าพเจ้า


สาเหตุที่ไม่สวมนาฬิกาเพราะ รำคาญ


อีกเหตุหนึ่งคือ ขี้เกียจ


และเหตุสุดท้าย คือ


ยังไม่มีนาฬิกาที่ถูกใจ


และผมก็ไม่ชอบใส่เครื่องประดับ


เคยใส่สร้อยข้อมืออยู่พักหนึ่ง


ก็เลิกไป


ความจริงไม่มีนาฬิกาติดไว้กับข้อมือก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตช้าลงหรือไม่ตรงต่อเวลาแต่อย่างใด


เพราะผมมนาฬิกาที่มือถือ


อยากดูเมื่อไหร่ก็ควักออกมาดู


หรือไม่ ก็อาศัยชำเลืองดูของคนอื่น


ซึ่งอันนี้ต้องระวัง


เพราะ เขาอาจจะปรับเวลาช้าหรือเร็วไม่เท่าปกติก็ได้
555+


เข้าเรื่องแท็กซี่กันต่อ


ผมนั่งแท็กซี่จากแยกวังหิน ลาดพร้าว มาที่ บีทีเอส หมอชิต


ใช้เวลา 11 นาที


เร็วมาก เพราะรถไม่ค่อยติดและไม่ติดไฟแดงด้วย


ไม่น่าเชื่อ


นี่ถ้าผมไม่ได้ดูเวลาที่ใบเสร็จผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินทางกี่นาทีกี่ชั่วโมงกันแน่


การได้รู้เวลาก็ดีอย่างหนึ่งว่า


มันไม่ได้ช้าตามที่เรารู้สึก หรือเร็วอย่างที่เราคาดคิด


คือความรู้สึกผมเวลานั่นแท็กซี่มันเหมือนช้ากว่าปกติ


นั่นคือความสัมพัทธ์


โดยเฉพาะกับเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย จะยิ่งรู้สึกช้าไปกันใหญ่


อ่ะนะ


ก็จบเรื่องนี้ไว้เท่านี้



เรื่องต่อไป


( วันนี้ผมอยากเล่าหลายเรื่อง )


ระหว่างที่ผมนั่งกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอาหารก็ได้ดูทีวี


ปกติผมไม่ดูทีวี


เพราะไม่ค่อยมีเวลา


ผมต้องไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่ ไม่มีเวลานั่งเฉย ๆ


ถ้านั่งเฉย ๆ ผมก็จะเขียน หรือ อ่านหนังสือ


ผมรับข่าวสารจากหนังสือพิมพ์และคำบอกเล่าเสียเป็นส่วนมาก
( ดังที่ทุกท่นทราบอยู่แล้วเป็นอย่างดี )


เช่น มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรใกล้ไกล จะมีคนโทรรายงานให้ฟังเสมอ


เข้าเรื่องกันต่อ


ก็อันเนื่องมาจากทีวีนี่แหละ


ที่เขานำเสนอภาพผู้สูงอายุ 2 คนวันนี้ ที่ยากไร้


ทำให้ผมนึกไปถึงระบบประชาสงเคราะห์


2 ตายาย นี่ไม่ได้เงินประชาสงเคราะห์หรืออย่างไร


ทำไมต้องยากจนขนาดได้มาออกทีวี


นอกจากนี้ผมก็นึกไปถึง


เช็คช่วยชาติ


ความจริงผมไม่อยากจะพาดพิงถึงการเมืองนัก


แต่ก็อดไม่ได้


ที่จริงผมก็สงสัยมานานตั้งแต่เขาจะแจกแล้วแหละ


ไอ้เช็คนี่น่ะ


ตาประสาคนรู้น้อยอย่างผม


ทำไมเช็คต้องแจกเฉพาะผู้เอาประกัน


ทำไมต้องให้เงินคนที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท


ผมว่า คนเงินเดือน 14,900 บาท หรือหมื่นต้น ๆ นี่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อย่างสบายเลยแหละ


( อาจจะไม่สบายมากแต่ถ้ารู้จักใช้สอยก็ไม่ลำบาก )


แล้วตาสีตาสาตามาตามี คนยากคนจนอีกตั้งมากมาย


มันหายไปไหน


เขาทำไมไม่แจก


หรือทำไมไม่เอางบส่วนนี้ไปใช้ตรงนั้น


จะบอกว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


ให้คนจับจ่ายใช้สอย


มันเฉพาะคนที่เอาประกันและมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นห้าหรืออย่างไรที่ใช้สอยเป็น


ที่ซื้อของเป็น


แล้วทำไมต้องให้คนกลุ่มนี้


กลุ่มอื่นที่เขายากจนกว่านี้ไม่ลำบากหรือยังไง


บอกว่าจะมีนโยบายช่วยอีกที


ก็ไม่เห็นมีอะไร


งานโอท็อปก็เจ๊งไม่เป็นท่า


เงียบเหงายังกับเป่าสาก


อันนี้ผมไปเดินมาด้วยตัวเอง


แล้วช่วงที่แจกเช็คครั้งแรกก็ตรงกับงานโอท็อป


หวังว่าเขาจะอาเงินไปอุดหนุนโอท็อปหรือย่างไร


ผมล่ะสงสัยในรัฐบาลจริง ๆ


หรือว่าเพราะคนจน ๆ ในต่างจังหวัดเขารักทักษิณ


รัฐก็เลยไม่ยื่นมือไปช่วย


เพราะคิดว่ามันมาม็อบเสื้อแดงก็ได้เงินกันอยู่แล้ว


อย่างนั้นหรือเปล่า


ผมไม่ได้สีแดงหรือสีเหลือง สีขาว สีน้ำเงิน หรอกนะครับท่าน


อันนี้ผมพูดอย่างเป็นกลาง


และอย่าง งง ๆ


และน้อยอกน้อยใจแทนคนจนเหลือนัก


มันผิดนักใช่มั้ยที่เกิดมาจน


ขนาดเขาแจกเงินกัน ยังไม่มีสิทธิ์ได้


เพราะจนเกินไป


เพราะมันแจกยาก นับยาก ทำยาก
คิดลำบาก


เพราะอย่างนั้นหรือ


ห่าเอ๊ย!


ธัชชัย

03/05/2552


ไม่มีความคิดเห็น: